นี่คือรักใช่ไหม? คอนเสิร์ตใหญ่ครบ 12 ปี “Better Weather” กับคำตอบที่ชัดเจนในใจ
อาจจะเรียกว่าเป็นดวงที่ไม่ค่อยสมพงษ์กันนักก็ว่าได้สำหรับตัวผู้เขียนเองและวง Better Weather เพราะครั้งสุดท้ายที่มีโอกาสได้ดูคอนเสิร์ตของพวกเขานี่จำไม่ได้แล้วว่าเมื่อไหร่ แถมพักหลังทางวงก็ปล่อยผลงานออกมาไม่บ่อยครั้งนัก นับจากอัลบั้ม Better Than Looks เมื่อปี 2553 และ Bitter Better Sweet ในอีก 3 ปีถัดมา มีก็แต่ซิงเกิลประปรายที่ปล่อยออกมาแค่เท่านั้น แถมคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของวงเมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้ว... เราก็พลาดเช่นกัน
ทันทีที่ทราบว่า Better Weather กำลังจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ แถม 3 เพลงใหม่จากอัลบั้มล่าสุด Run for Better Future Part I ที่เริ่มปล่อยให้ฟังตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนปีที่แล้วก็ทำให้เรานึกถึงกลิ่นอายเก่าๆ ที่เราคุ้นเคย ลองนึกย้อนกลับไปดีๆ ทุกช่วงอายุในรอบ 10 ปีเศษที่ผ่านมา เรามีเพลงของวงดนตรีป็อปวงนี้อยู่เคียงข้างมาโดยตลอด แม้ว่าอาจจะไม่ใช่ความโด่งดังเปรี้ยงปร้างแบบทั่วทุกมุมประเทศ แต่พออินโทรขึ้น เข้าเวิร์สแรก สู่ท่อนฮุก ก็ร้องตามได้อัตโนมัติเฉยเลย
ที่เกริ่นมาหลายบรรทัดก็คงทราบกันแล้วว่า เราไปโผล่ที่สถานที่จัดแสดงอย่าง นครินทร์สเปซ ตั้งแต่ช่วงเย็น และรอคอย Better Together Concert 12 ปี นี่คือรักใช่ไหม? คอนเสิร์ตใหญ่ครบรอบ 12 ปีของ Better Weather (ที่พวกเขาบอกว่า เริ่มนับตั้งแต่วันแรกที่ปล่อยเพลง “ยังไม่รู้” โดยยังเป็นศิลปินไร้สังกัด) อย่างไม่ลังเล... อย่างใจจดใจจ่อเป็นที่สุด
สิบแปดนาฬิกาเศษ ได้เวลาวงเปิดของงานในค่ำคืนดังกล่าวอย่าง Nap A Lean ที่ถือได้ว่าเป็น “วงน้อง” (ขอยืมศัพท์แสงวงการไอดอลมาใช้สักหน่อย) ของ Better Weather ก็ว่าได้ ทั้งในเชิงของบ้านเกิดเมืองนอนที่มาจากภาคเหนือเหมือนกัน รวมถึงทิศทางของดนตรีที่เป็นวงป็อปผลิตเพลงเพราะไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ ซึ่ง Nap A Lean ก็จัดทุกเพลงฮิต ไล่เรียงมาตั้งแต่ “ระวังแตก”, “ความรักที่ซ่อนไว้”, “หยุดเลยอย่าร้อง”, “ไม่ใช่เธอก็ไม่ใช่” และปิดท้ายด้วยเพลงที่ทำให้ฮอลล์ดังสนั่นไปด้วยเสียงร้องตามอย่าง “ไม่คิดถึงเลย” แม้ว่าจะมีเรื่องซาวด์ที่ฟังดูเบา ไม่หนักแน่น และไม่พุ่งออกมาหาผู้ชมสักเท่าไหร่ แต่ทั้ง 4 หนุ่มจากค่าย Spicydisc อย่าง โต้-ฮั้ว-บาส-ดอน ก็ทำหน้าที่บนเวทีได้ดี ถือเป็นการวอร์มร่างกายที่ใช้ได้เลยทีเดียว
Nap A Lean
พักเวทีเพียงแป๊บเดียว 3 สมาชิกวง Better Weather อย่าง ดิว-ธนภัทร์ ธนากรกานต์ (ร้องนำ), แจ็ค-พร้อมพงษ์ พรหมปัญโญ (เบส) และ ฟุ้ง-อัครชนช์ ราชปันดิ (กีตาร์) ก็ก้าวขึ้นสู่เวที ประเดิมคอนเสิร์ตด้วย 2 เพลงใหม่และ 1 เพลงเก่าอย่าง “รักทุกวัน”, “เดา” และ “อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย” ตามลำดับที่สามารถสร้างบรรยากาศคึกคักได้ตั้งแต่แรก
ด้วยความที่เป็นคอนเสิร์ตครบรอบ 12 ปีของวง พวกเขาทั้ง 3 คนจึงเลือกที่จะนำเพลงเก่าๆ ที่แทบจะไม่มีโอกาสได้เล่นมาปัดฝุ่นเคาะสนิม แฟนเพลงรุ่นใหม่อาจไม่คุ้นหู แต่สำหรับเหล่าสาวกบอกเลยว่าร้องตามได้แทบทุกท่อน เราจึงได้ยินเพลงอย่าง “Good Old Days”, “สัญญาด้วยหัวใจ”, “Around the World”, “Wake Up” รวมไปถึงเซตเพลงลึกๆ อย่าง “เธอไม่เหมือนเดิม”, “ยังคง” และ “มนตรา” ซึ่ง 2 เพลงหลังถือได้ว่าถ้าไม่ใช่งานครั้งนี้ก็ไม่น่าจะมีโอกาสได้ฟังแล้วล่ะ
ดิว Better Weather
นอกจากจะเป็นนักร้องซึ่งมีเสียงหลบที่เพราะที่สุดคนหนึ่งในวงการในความคิดเห็นส่วนตัวแล้ว ดิว ยังถือได้ว่าเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์ตัวยงอีกต่างหาก ในทุกช่วงการพูดคุย ดิวสามารถเรียกรอยยิ้มจากบรรดาแฟนคลับด้วยไหวพริบอันคล่องแคล่ว ในขณะที่ ฟุ้ง กับ แจ็ค แม้จะพูดค่อนข้างน้อย แต่เปล่งเสียงทีไรเสียงกรี๊ดดังลั่นทุกทีสิน่า
ฟุ้ง Better Weather
Better Weather กระชากอารมณ์คนดูสู่โหมดเพลงเศร้าแบบยาวๆ ทั้ง “ทำไมต้องทำให้มีน้ำตา”, “เจ็บจนไม่เข้าใจ” ที่พวกเขาคัฟเวอร์ผลงานของ Portrait (ปอย-ตวัน ชวลิตธำรง) ต่อด้วย “ไม่มีแล้วความรัก” และ “ไม่เกี่ยวเลย” เซตนี้บอกตามตรงว่าคนกำลังอ่อนไหวอาจมีน้ำตาไหลได้ง่ายๆ
แจ็ค Better Weather
หลังจากนั้นก็ถึงเวลาของเซอร์ไพรส์แรกกับแขกรับเชิญที่เปลี่ยนมู้ดแอนด์โทนของเพลง “ภูมิต้านทาน” ให้กลายเป็นอีกรูปแบบโดยสิ้นเชิงอย่าง บอย Lomosonic (อริย์ธัช พลตาล) เพื่อนสนิทของสมาชิก Better Weather ตั้งแต่สมัยประถม แถมยังสร้างความฮือฮาด้วยบรรดารูปถ่ายที่ทุกคนยังหัวเกรียนเป็นนักเรียนที่หลงใหลในการเล่นดนตรี และปิดท้ายช่วงนี้ด้วย “ความรู้สึกของวันนี้” เพลงของ Lomosonic ที่เรามีโอกาสได้เห็น บอย สะพายกีตาร์ และ ดิว ไปนั่งหลังคีย์บอร์ดอีกต่างหาก
บอย Lomosonic กับการร่วมแจมกับเพื่อนเก่า Better Weather
ทำไมถึงมีแต่รอยยิ้มก็ไม่รู้... แต่ละเพลงที่ผ่านพ้นไปแทบไม่มีเพลงไหนเลยที่ผู้ชมในนครินทร์สเปซร้องตามไม่ได้ หากจะมีสักหนึ่งเพลงก็คงเป็น “รื้อฟื้น” บทเพลงที่ยังไม่เคยปล่อยที่ไหนมาก่อน เพราะอยู่ในอัลบั้ม Run for Future Better Part II ที่ยังเป็นความลับว่าจะวางแผงให้แฟนๆ จับจองกันเมื่อใด แต่หนุ่มๆ Better Weather ก็ไม่อยากให้แฟนเพลงยืนนิ่ง ขึ้นคำร้องคาราโอเกะบนจอด้านหลังให้เสียเลย “มีคนอกหักทุกวัน”, “เก็บวันดีดี”, “รักไม่จบ” ถือเป็นอีก 3 เพลงที่หลายคนคิดถึง และที่ไม่เล่นไม่ได้ แน่นอนว่าต้องเป็น “แค่เท่านั้น” เพลงอกหักประจำตัวของใครหลายๆ คนนั่นเอง
แม้ว่าการปรากฏตัวบนเวทีของอดีต 2 สมาชิก Better Weather อย่าง บาส-ภาณุภัทร์ สุกัลยารักษ์ (กีตาร์) และ ตั้ม-อัศวพงศ์ วงศ์ประเสริฐ (กลอง) จะไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์ เนื่องจากมีการบอกกล่าวกันไว้ล่วงหน้าผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของวงไปแล้ว แต่เมื่อภาพดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ก็อดที่จะรู้สึกดีใจ คิดถึง ซาบซึ้ง ที่มันผสมปนเปกันอยู่ไม่ได้
5 สมาชิกยุคบุกเบิกของ Better Weather กับโลโก้วงในสมัยแรกเริ่ม
หากว่ากันตามตรง ยุคแห่งออริจินัลไลน์อัพที่เริ่มก่อตั้งวงถือเป็นช่วงเวลาที่สดใหม่ที่สุดของ Better Weather ซึ่งเจ้าความรู้สึกสดใหม่ดังกล่าวก็กลับมาเกิดขึ้นอีกครั้งในคอนเสิร์ตครั้งนี้ แถม 4 เพลงที่พวกเขาเลือกมาเล่นในช่วงเวลาดังกล่าวก็มีทั้ง “Is This Love”, “ไม่ใช่ฉัน”, “ไม่เคยไม่รักเธอ” และปิดท้ายด้วย “ยังไม่รู้” ที่ทำเอาหลายคนน้ำตารื้น เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ทั้ง 5 คนนี้จะกลับมาเล่นดนตรีด้วยกันอีก แต่ที่แน่ๆ ดิว-ฟุ้ง-แจ็ค ก็ยังคงเดินหน้าในเส้นทางแห่งความฝันเส้นนี้ต่อไปอย่างแน่นอน ซึ่งทั้ง 3 หนุ่มก็ออกมาแถมเพลง “อย่าเสียใจคนเดียว” เป็นการปิดฉากคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งที่ 2 ในชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบ
บาส Better Weather
ตั้ม Better Weather
Better Together Concert 12 ปี นี่คือรักใช่ไหม? ถือได้ว่าเป็นคอนเสิร์ตที่เต็มไปด้วยมวลแห่งความสุขอย่างแท้จริง โดยเฉพาะกับแฟนเพลงที่ติดตาม Better Weather มาตลอด มันคือความกลมกล่อมของโชว์ ทุกบทเพลงที่อยากฟัง (และได้ฟัง) ทุกองค์ประกอบบนเวทีก่อเกิดรอยยิ้มตลอดสองชั่วโมงครึ่ง แม้สถานที่จัดงานจะไม่ใช่สเกลใหญ่ยักษ์ แต่เรากลับมองว่าเหมาะสมและเป็นจุดเด่นในการส่งพลังให้ซึ่งกันและกันระหว่างศิลปินและแฟนเพลง ถ้าจะมีข้อให้ติ ก็คงหนีไม่พ้นอากาศด้านในฮอลล์ที่ค่อนข้างอบอ้าวและไม่ถ่ายเทสักเท่าไหร่เท่านั้น
ซาวด์สำหรับการแสดงสดของวงดนตรีป็อป การจะหาจุดลงตัวไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ Better Weather ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมทีเดียว มีเพียงเซตเพลงที่ แจ็ค วางเบสและหันไปกดซินธิไซเซอร์ซึ่งค่อนข้างทำให้ตัวเพลงนั้นโล่งและเบาบางไปพอสมควร แต่เมื่อกลับมาคว้าเบสอีกครั้ง ความลงตัวทางด้านเสียงก็กลับมาดีดังเดิม ฟังเพลินอร่อยหูแบบสุดๆ บวกกับทีมเวิร์กที่ไม่ต้องบรรยายอะไรให้มากความ กว่า 10 ปีกับการเล่นดนตรีด้วยกันมันสามารถแสดงให้เห็นได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งวิชวลและระบบแสงก็ขับเน้นอารมณ์ของแต่ละเพลงได้แตกต่างกัน ได้อย่างเป็นเอกลักษณ์ และได้น่ารักเป็นที่สุด
Better Weather
ไม่รู้ว่าคอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบครั้งต่อไปของ Better Weather จะเกิดขึ้นอีกไหม? หรือจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่? แต่หากมองย้อนกลับไปถึงเนื้อเพลงท่อนหนึ่งของเพลง “Is This Love” ซึ่งกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชื่อคอนเสิร์ตอย่าง “นี่คือรักใช่ไหม?”
คำตอบของทุกคนในค่ำคืนวันนั้นคงมีเพียงสั้นๆ แค่พยางค์เดียว แต่ล้นเอ่อไปด้วยความหมายและความรู้สึกอย่างแน่นอน
Story by: Chanon B.
Photos by: BEC-Tero Music
>> แม้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย แต่ตัวตนของ “Better Weather” ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
อัลบั้มภาพ 30 ภาพ