RUEL สร้างปรากฏการณ์ใหม่! เปิดคอนเสิร์ตครั้งแรกในไทย แฟนๆ ให้กำลังใจแน่น
ปรากฏการณ์ใหม่ของการห้างแตกกับศิลปินหนุ่ม Ruel (รูล) นักร้อง/นักแต่งเพลงวัย 16 ปี จากออสเตรเลีย ที่มาเดินสายเอเชียทัวร์ใน RUEL "READY TOUR 2019” IN BANGKOK คอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรกในเมืองไทย งานนี้แฟนเพลงหลายพันคนแห่มาให้กำลังใจจนล้นลานควอเทียร์ อเวนิว รวมไปถึงส่วนต่างๆ ของศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาได้ประสบความสำเร็จกับการ Sold Out ทัวร์ “Ready World Tour” ในทวีปอเมริกาใต้, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ยุโรป และในเกาะอังกฤษ มาแล้ว แต่ความพิเศษมากสำหรับประเทศไทยคืองานนี้จัดแบบไม่มีการเก็บค่าเข้าชม ถือเป็นการเปิดโอกาสให้แฟนๆ สามารถมาดูกันแบบไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
งานนี้หนุ่ม Ruel ก็จัดเต็มไม่แพ้ประเทศอื่นขนเพลงฮิตมาให้ทุกคนได้ฟังกันแบบมาราธอนทั้ง "Golden Years", "Don’t Tell Me", "Dazed & Confused" และอีกมากมาย พร้อมหยิบซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุด "Not Thinkin' Bout You” มาร้องให้แฟนเพลงได้ฟังกันสดๆ ก่อนจะถึงคิวที่แฟนเพลงนัดเซอร์ไพร์สทำโปรเจ็คให้หนุ่ม Ruel ในช่วงเพลง "Say" ที่ทุกคนพร้อมใจกันชูแฟลชจากมือถือที่มีโพสอิทสีส้มแปะอยู่ ทำให้เกิดเป็นทะเลส้มสวยงามไปทั่วลานทำเอาเจ้าตัวดีใจสุดซึ้งและขอบคุณแฟนเพลงชาวไทยที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นกับการมาเมืองไทยเป็นครั้งแรก
นอกจากนี้และหนุ่ม Ruel ยังมีเซอร์ไพรส์ช่วงอังกอร์ โดยการใส่กางเกงมวยสีแดงขึ้นแสดงเพลง “Younger” เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆสนั่น นอกจากนี้ยังช่วยกันร้องเพลงกันแบบเนื้อเพลงเป๊ะทุกคำทำเอาหนุ่ม Ruel ปลาบปลื้ม ถือเป็นการจบคอนเสิร์ตของค่ำคืนอย่างสวยงาม และนี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของนักร้องหนุ่มมากความสามารถที่ชื่อ Ruel
คลิป Ruel ขอบคุณแฟนๆ ชาวไทย
ฟังเพลงของ Ruel กันได้ที่นี่
___________________
ประวัติความเป็นของ Ruel หนุ่มน้อยที่เริ่มต้นแต่งเพลงจากความคิดที่ว่า "ความรู้สึก" ของตัวเอง เรารู้ดีที่สุด
ในคืนหนึ่งเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน ขณะนั่งทานอาหารเย็นกับครอบครัว Ruel เปิดใจกับพ่อแม่และพี่สาวเกี่ยวกับผู้หญิงที่เขาแอบชอบ ครอบครัวของเขาพูดกับเขาว่า “ Ruel เธอไม่รู้หรอกว่าที่พูดมาคืออะไร เธอยังเด็กไปสำหรับเรื่องแบบนี้” Ruel เล่าต่อว่า “นั่นทำให้ผมผิดหวังมาก ผมคิดว่าพวกเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะกำหนดให้ผมรู้สึกอย่างไร และนี่คือเหตุผลที่ทำให้ผมแต่งเพลงเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นขึ้นมา และผมก็ไม่คิดเลยว่ามันจะนำพาผมให้เจอกับทุกสิ่ง”
คำว่า “ทุกสิ่ง” ในที่นี้หมายถึงความสำเร็จของเพลง “Don’t Tell Me” – เพลงบัลลาร์ดอันทรงพลัง ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกเกี่ยวกับ “การไม่ยอมให้คนอื่นมาบอกกับคุณว่าคุณควรรู้สึกอย่างไร เพราะไม่มีใครรู้ดีเท่ากับตัวคุณ” Ruel อธิบาย
เพลง Don’t Tell Me มียอดสตรีมหลายล้านครั้ง และตั้งแต่เปิดตัวเพลงนี้ทำให้นักร้องและนักแต่งเพลงหนุ่มชาวออสเตรเลียคนนี้เป็นหนึ่งในศิลปินที่น่าติดตาม และมีการแสดงสดที่เต็มไปด้วยความมีเสน่ห์ที่สุดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
หลายสิ่งในตัว Ruel เริ่มเปล่งประกายออกมาไม่กี่เดือนก่อนที่เพลง “Don’t Tell Me” จะปล่อยออกมาโดยเพลงนี้เป็นฝีมือการโปรดิวซ์ของ M-Phazes (โปรดิวเซอร์ของ Eminem, Amy Shark, Logic) เพลงเดบิวต์อย่างเป็นทางการของ Ruel นั้นก็เป็นเพลงที่ได้ร่วมงานกับ M-Phazes ในเพลง “Golden Years” เขาได้รับเชิญให้ไปแสดงสดใน “Triple J’s Like A Version” รายการวิทยุชื่อดังของประเทศออสเตรเลียในเพลง “Golden Years” เวอร์ชั่น Stripped-down และ Cover เพลง "Weathered" ของ Jack Garratt และด้วยเสียงอันมีพลังและไพเราะของเขานั้นทำให้การแสดงออกมายอดเยี่ยมมาก โดยวิดีโอการแสดงก็ได้รับความสนใจและมียอดวิวพุ่งสูงถึงครึ่งล้านวิวภายในเวลาเพียง 48 ชั่วโมงเท่านั้น อีกทั้งยอดคนติดตามในโซเชียลมีเดียของเขาก็เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน Ruel กล่าวว่า “จำนวนคนติดตามของผมขึ้นจาก 100 ไปถึง 4000 ในเวลาแค่ชั่วโมงเดียว เป็นเรื่องที่บ้ามากๆครับ” และยังกล่าวต่อว่า “ผู้คนที่ผมชื่นชมก็เริ่มมาติดตามผม และนี่เป็นครั้งแรกที่ทำให้ผมคิดว่าเส้นทางนักดนตรีของผมมันเริ่มขึ้นแล้วจริงๆ”
Ruel ถูกแนะนำดนตรีแนวโซล, บลูส์ และแจ๊ส โดยคุณพ่อผู้หลงรักในดนตรีของเขา คุณพ่อของเขาชอบเปิดเพลงของ Amy Winehouse, Stevie Wonder และ Dave Brubeck ใหเขาฟัง ซึ่งศิลปินเหล่านี้เป็นศิลปินคนโปรดของ Ruel แต่เมื่อเขาเติบโตขึ้นเขาก็ได้เริ่มชอบศิลปินอย่าง Frank Ocean, Childish Gambino, Ed Sheeran และ James Blake ด้วย “เวลาผมอยู่บ้านผมจะชอบร้องเพลง แต่เมื่อผมเห็นศิลปินเหล่านี้แล้ว มันทำให้ผมอยากเริ่มเรียนกีตาร์เพิ่มด้วย ดังนั้นคุณแม่ของผมจึงให้ส่งผมไปเรียน” “แต่การเล่นกีตาร์อย่างเดียวมันค่อนข้างที่จะน่าเบื่อ ผมเลยเริ่มหัดร้องเพลงไปพร้อมกับการเล่นดนตรีด้วย และครูที่สอนผมก็บอกกับพ่อแม่ผมว่า ‘ผมว่าเราควรปรับการเรียนให้เป็นร้องเพลงครึ่งนึง และเล่นกีตาร์ครึ่งนึงเพราะลูกชายของคุณชอบการร้องเพลงมาก’”
ไม่นานหลังจากนั้น เดโม่เพลงที่ Ruel ร้อง cover เพลง “Let It Go” ของ James Bays ก็ได้ถูกส่งไปถึง M-Phazes และวันต่อมาพวกเขาก็ได้พูดคุยกันผ่าน Skype “เช้าตรู่วันนั้น M-Phazes ในลุคสะอาดและเรียบร้อยนั่งอยู่ในสตูดิโอของเขา ในขณะที่ผมใส่ชุดนอนเข้าไปแล้วพูดว่า ‘ว๊อทซับทุกคน!” - Ruel เล่าพร้อมหัวเราะ M-Phazes แนะนำ Ruel ให้รู้จักกับ Thief (Chromeo, Tobias Jesso Jr.) นักแต่งเพลงชาวออสเตรเลียน ทั้งสองคนช่วยกันเขียนเพลง “Golden Years” ขึ้นมาโดย Ruel เล่าว่า “เพลงนี้ได้รับแรงบรรดาลใจมาจากการที่เขากับพ่อยืนอยู่ที่ระเบียงบ้านมองดูพระอาทิตย์ตกดินที่ซีดนีย์ของเขา และทุกเพลงของเขาล้วนมาจากประสบการณ์ส่วนตัวทั้งนั้น และการเขียนเพลงทำให้ผมก้าวผ่านเรื่องเหล่านั้น และความรู้สึกที่ผมไม่สามารถเข้าใจมันได้ เวลาผมเขียนเกี่ยวกับบางอย่าง มันช่วยทำให้ผมคิดออกว่านั่นมันคืออะไร แต่ผมก็อย่างให้คนทุกวัยไม่ว่าคุณจะอายุ 15 หรือ 50 ปี สามารถเข้าถึงเพลงของผมได้”
ไม่นานหลังจากรายการ “Like A Version” ในตอนของ Ruel ได้ถูกเผยแพร่ เขาได้เปิดตัวเพลง “Don’t Tell Me” และถูกเชิญให้ร่วมเขียนเพลงกับ Julia Stone ซึ่งทำให้เขาได้เป็นศิลปินซัพพอร์ทใน Sold-out ทัวร์ของ Angus & Julia ในประเทศออสเตรเลีย และได้เข้าร่วมสัมภาษณ์กับศิลปินทั้งสองในรายงาน Rocket Hour บนคลื่นวิทยุ Beats 1 พวกเขากล่าวชื่นชม Ruel ว่า “เธอมีเสียงที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้ยินจากนักร้องชายในวัย 14 ปีมาเลย และนี่มันน่าเหลือเชื่อมากๆ”
หลังจากนั้น Ruel ได้ถูกเชิญชวนเซ็นสัญญากับค่าย RCA Records เพียงหนึ่งเดือนหลังจากเซ็นสัญญาเพลง “Don’t Tell Me” ได้ปรากฎในภาพยนตร์ของ Beats by Dre’s ในแคมเปญ #AboveTheNoise (แสดงโดย Cara Delevingne, Neymar Jr, Serena Williams, และอีกมายมาย) ซึ่งทำให้เพลงนี้มีการสตรีมเพิ่มมากขึ้นมาอีกครั้ง “ผมคิดว่าเพลง Don’t Tell Me นั้นเหมาะกับหนังเรื่องนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะว่าเพลงนี้แสดงให้เห็นถึงการส่งเสียงให้เหนือเสียงทั้งมวล เป็นผลักดันตัวเองให้อยู่สูงกว่าคนที่ทำให้คุณผิดหวังหรือล้มลง และนั่นเป็นสิ่งที่เพลงนี้พูดถึง” Ruel กล่าว
เหนือสิ่งอื่นใดคือการที่ Ruel พึงพอใจที่เห็นว่าเพลง “Don’t Tell Me” ได้ถูกเชื่อมต่อกับผู้คน เขากล่าวว่า “เพลงนี้เป็นเพลงที่เข้าถึงง่ายเพราะผู้คนมักจะถูกบอกว่าพวกเขาควรรู้สึกอย่างไรกับใคร จากคนที่คิดว่าพวกเขารู้ดีทั้งที่จริงแล้วคนพวกนั้นไม่รู้อะไรเกียวกับตัวคุณเลยด้วยซ้ำ” เขาเล่าต่อว่า “ผมได้รับข้อความ และคอมเมนท์มากมายจากหลายคนที่เข้ามาแชร์เรื่องราวของพวกเขาให้ฟัง เช่น ‘ฉันต้องหลบซ่อนกับการคบแฟนของฉัน เพื่อไม่ให้พ่อแม่ของฉันรู้มาเป็นปีแล้ว และพอพวกเขารู้เรื่อง เขาก็ไล่ฉันเพราะเพียงแค่ว่าฉันยังเด็กไปสำหรับความรัก’” Ruel กล่าวว่า “นั่นทำให้ผมรู้สึกว่ามีหลายล้านเรื่องที่มีความแตกต่างกันที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และผู้คนกำลังพบเจอ นั่นมันเป็นสิ่งที่พิเศษมากๆครับ”
Ruel ได้ปล่อยเพลงอื่นภายหลังจากปล่อยเพลง “Don’t Tell Me” และทั้งหมดถูกรวมอยู่ใน EP แรกของเขากับทางค่าย RCA โดย EP นี้มาชื่อว่า Ready ซึ่งได้รับคำชื่นชมมากมายจากนิตยสารหลายฉบับ
“หากคุณกำลังมองหาใครสักคนที่จะเติมเต็มเพลย์ลิสต์ของคุณด้วยเพลงป็อปอันมหัศจรรย์ ไม่มีใครจะเหมาะสมได้เท่ากับ Ruel อีกแล้ว” – โดย Time Magazine “เพลง Dazed & Confused กับท่อนคอรัสที่ดูแพง และจังหวะดนตรีที่ช้าแต่ร้อนแรงจะทำให้เพลงนี้ติดอยู่ในหัวของคุณอย่างแน่นอน” – โดย PAPER Magazine อีกทั้ง NYLON Magazine ยังชื่นชม Ruel ว่า “นี่คือเด็กอัจฉริยะวัย 15 ปีที่ เป็นสิ่งที่ขาดหายไปจากเพลย์ลิสต์ของพวกคุณ”
EP Ready ของเขาได้ทำยอดสตรีมมากถึง 100 ล้านครั้งเท่าโลก โดยมีเพลงที่โดดเด่นอย่าง “Don’t Tell Me”, “Dazed & Confused”, “Younger” และ “Not Thinking’ Bout You”
มิวสิควิดีโอเพลง “Younger” นั้นมียอดวิวถึง 5.5 ล้านวิวหลังจากเผยแพร่ออกมาเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว อีกทั้งเพลง “Younger,” “Dazed & Confused,” and “Don’t Tell Me” ยังสามารถทำยอดขายระกับทองคำในประเทศออสเตรเลียอีกด้วย
สรุปผลงานในปี 2018 ของ Ruel เขาได้เป็นศิลปินที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติในงานประกาศรางวัล Aria Award ในสาขา “ศิลปินดาวรุ่งแห่งปี”, ได้ขึ้นแสดงโชว์เปิดการแข่งขัน Commonwealth Games, ปล่อยเพลง “Not Thinkin’ Bout You” เวอร์ชั่น Remix กับแร็ปเปอร์ผู้ได้รับเข้าชิงรางวัลแกรมมี่อย่าง GoldLink และประสบความสำเร็จกับ Sold Out ทัวร์ “Ready World Tour” ในทวีปอเมริกาใต้, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ยุโรป และในเกาะอังกฤษ
อัลบั้มภาพ 14 ภาพ