"มาโฮะ ยามากูชิ" นำทีมเพื่อน "ริตตัน-เรนะป้ง" จบการศึกษาจาก "NGT48" หลังถูกทำร้ายร่างกาย
ไม่แน่ใจว่าผู้อ่าน ANNGLE ทุกท่านยังจำข่าวดังที่เป็นประเด็นใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของไอดอลตระกูล AKB48 Groups ได้หรือเปล่านะครับ เอาเป็นว่าถ้ายังไม่ทราบหรือหลงลืมกันไปแล้วก็อยากให้ย้อนไปอ่านข่าวตามลิงก์ด้านล่างนี้กันก่อนครับ >> “มาโฮะ ยามากูชิ NGT48" ออกมาขอโทษแฟนๆ กลางเวที หลังเกิดเหตุการณ์ถูกทำร้ายร่างกาย
หลังจากเหตุการณ์ในข่าวข้างต้น วันเวลาก็ล่วงเลยมากว่า 3 เดือนครึ่ง ระหว่างนั้นก็มีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่ก็ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไรที่เป็นรูปธรรมครับ หลัก ๆ ก็คือทางบริษัท AKS ที่เป็นต้นสังกัดของ NGT48 ก็มีการเปลี่ยนตัวผู้จัดการวงและทีมงานบางส่วน แล้วมีการจัดงานแถลงข่าวรายงานความคืบหน้าต่อสื่อมวลชน แต่ทั้งหมดก็เหมือนเป็นฉากหน้าที่สร้างขึ้นมาปิดบังความจริงบางอย่าง ตัวมาโฮะผู้เคราะห์ร้ายเองก็มีการเคลื่อนไหวให้แฟน ๆ คาดเดาการกระทำในทวิตเตอร์เป็นระยะๆ แต่แล้ว แม้ว่า NGT48 จะได้รับความกดดันจากสังคมและแฟนๆ ของวง หรือสปอนเซอร์ต่างๆ จะถอนตัวออกไปมากมายเพียงไร พวกเขาก็เลือกที่จะเหนียวแน่นกับจุดยืนที่จะไม่ตอบสนองความต้องการของทุกคนด้วยการลงโทษผู้กระทำผิดตัวจริง
เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางฝ่ายบริหารของวงก็มีการประกาศยุบทีม N และ ทีม G ที่เป็นการแบ่งทีมภายในวงสำหรับการแสดงในเธียเตอร์ แล้วเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ (ยังไม่ระบุชัดว่าจะทำอย่างไรกับเมมเบอร์) พร้อมทั้งประกาศวันแสดงเธียเตอร์ของทั้ง 2 ทีมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะยุบทีมเป็นวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ทำให้ผู้เฝ้ารอความจริงทุกคนต่างสงสัยไปในทางเดียวกันว่าทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร
ตัวมาโฮะที่กำลังอยู่ในระหว่างพักกิจกรรมของวงก็ถูกประกาศว่าจะมาขึ้นทำการแสดงในเธียเตอร์ด้วยเช่นกัน ในขณะนั้นแฟน ๆ ต่างคาดเดากันไปว่าเธออาจจะประกาศจบการศึกษาออกจากวง แต่แล้ว เมื่อวันสุดท้ายของทั้ง 2 ทีมมาถึง การคาดการณ์ที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดก็กลายเป็นความจริงที่หนักหน่วงยิ่งกว่า เมื่อคนที่ประกาศจบการศึกษาไม่ได้มีแค่มาโฮะเพียงคนเดียว แต่ยังมี ฮาเซกาวะ เรนะ และ สุกาฮาระ ริโกะ เมมเบอร์คนสนิทของมาโฮะเองก็ออกมาประกาศจบการศึกษาเช่นกัน ทั้ง 2 คนนั้นเป็นเพื่อนสนิทในวงของมาโฮะและไม่อยู่ในข่ายผู้ต้องสงสัย รวมไปถึงตัวมาโฮะเองก็ไม่เคยมีท่าทีที่ไม่ดีกับทั้งคู่หลังออกมาเปิดเผยความจริงอีกด้วย
ยามากูชิ มาโฮะ (มาโฮะฮง)
สุกาฮาระ ริโกะ (ริตตัน)
ฮาเซกาวะ เรนะ (เรนะป้ง)
โดยเมื่อการแสดงของทีม G สิ้นสุดลง มาโฮะได้นำกระดาษที่เขียนความรู้สึกของเธอออกมาอ่านต่อหน้าผู้ชม โดยมีใจความว่า
“ฉัน ยามากูชิ มาโฮะ ขอจบการศึกษาจาก NGT48 ค่ะ
วันนี้ ฉันได้เขียนสิ่งที่ฉันจะพูดเอาไว้ เพราะฉันอยากที่จะบอกความรู้สึกทั้งหมดที่เก็บเอาไว้เป็นเวลานานให้ทุกคนได้รับทราบกัน
ฉันรักไอดอลมาก ๆ รวมถึงกรุ๊ปนี้ด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันอยากจะเปลี่ยนกรุ๊ปนี้ไปในทางที่ถูกต้อง ฉันไม่ต้องการให้เพื่อนร่วมทีมที่มีค่าของฉันต้องมาพบกับความรู้สึกเจ็บปวดแบบที่ฉันได้เจอ ฉันตัดสินใจที่จะโยนทุกสิ่งทุกอย่างทิ้ง แล้วลงมือทำอะไรสักอย่าง
พอเรื่องราวถูกเปิดเผยออกไป ท่านประธานก็มาบอกกับฉันว่าเรื่องนี้ไม่ถือว่าเป็นคดีความ เพราะไม่มีการฟ้องร้องดำเนินคดีเกิดขึ้น นอกจากนั้นยังขอให้ฉันอย่าทำร้ายบริษัท จนกระทั่งฉันกลายเป็นคนที่ถูกเรียกว่าผู้กระทำผิดเสียเอง ฉันเพียงแค่ต้องการจะปกป้องเมมเบอร์ ได้ทำกิจกรรมของตัวเองอย่างจริงจัง ฉันอยากให้สถานที่แห่งนี้เป็นที่ที่ทุกคนสามารถทำกิจกรรมไอดอลได้ แต่ไม่ว่าฉันจะทำอะไรก็ตาม มันก็ไม่ส่งผลอะไรกับกรุ๊ปนี้เลย มันกลับกลายเป็นสถานที่ที่ฉันไม่สามารถเป็นไอดอลได้อีกแล้ว
‘ถ้าหากมีปัญหาที่เธอไม่สามารถมองข้ามมันไปได้ เธอก็ควรออกไป’ คือคำตอบที่ทางวงให้กับฉันว่า NGT48 จะไม่สามารถเริ่มต้นใหม่ได้หากยังเป็นเช่นนี้ แต่อย่างไรก็ดี ถ้าไม่สามารถเปลี่ยนสภาพแวดล้อมได้ ฉันคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก็จะเกิดขึ้นอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้ว่าจนถึงวันนี้ฉันจะพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว แต่สิ่งที่ฉันสามารถทำได้กลับมีเพียงน้อยนิดเท่านั้น
ฉันไม่รู้ว่ามีสิ่งใดที่มีค่ามากกว่าชีวิตของคนเราหรือเปล่า ฉันได้แต่หวังจากก้นบึ้งของหัวใจว่าในทุก ๆ วันจะเป็นวันที่เพื่อน ๆ ที่แสนวิเศษของฉันสามารถเป็นไอดอลได้อย่างปลอดภัย
บุคคลที่อยู่เคียงข้างฉันหลังจากที่ฉันเปิดเผยเหตุการณ์นั้นให้โลกรับรู้คือ (ฮาเซกาวะ) เรนะ, (สุกาฮาระ) ริโกะ และ โมฟุ (มุราคุโมะ ฟูกะ เพื่อนสนิทอีกคนที่ไม่ได้ประกาศจบการศึกษา) พวกเราตัดสินใจทำการประกาศในครั้งนี้หลังจากที่ทุกคนตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองได้แล้ว ในตอนนี้สิ่งเดียวที่ฉันยังสามารถทำให้กับ NGT48 ได้ มีเพียงแค่การจบการศึกษาเท่านั้น
สำหรับแฟนๆ ทุกคน ฉันต้องขออภัยด้วยนะคะ มีคนมากมายที่คอยสนับสนุนฉัน มีคนมากมายที่เคยพบเจอเหตุการณ์คล้ายกับฉันได้ส่งข้อความมาให้กำลังใจ และก็ยังมีผู้คนอีกมากมายที่บอกกับฉันว่าพวกเขาได้รับพลังใจจากการเฝ้ามองดูฉัน แต่ในเมื่อเรื่องราวมันจบลงแบบนี้ ทำให้ฉันรู้สึกเสียใจที่ความคาดหวังของพวกเขาพังทลายลง
แม้ว่าในโลกนี้ยังมีผู้ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วไม่ได้รับผลตอบแทนจากมัน แต่ฉันก็คิดว่าถ้าเราจะสูญเสียผู้พยายามทำในสิ่งที่ถูกต้องไป นั่นคงจะเป็นเรื่องที่ยากจะยอมรับได้”
“มีคนมากมายที่สละเวลาของพวกเขาเพื่อสนับสนุนตัวฉันอย่างอ่อนโยน ฉันรู้สึกขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ จากนี้ไป ฉันอยากให้ทุกคนได้ใช้เวลาทำสิ่งที่สนุกสนานเพื่อตัวพวกคุณเองและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนะคะ เช่นเดียวกับที่พวกคุณขอให้ฉันมีความสุข ฉันก็ปรารถนาให้พวกคุณมีความสุขเช่นกัน
สำหรับแฟนทุกคนที่สนับสนุนฉันมาถึงตอนนี้ ฉันขออภัยที่ต้องมาจบการศึกษาไปทั้งอย่างนี้จริงๆ ค่ะ ฉันต้องการที่จะร้องและเต้น ได้จับมือกับทุกคนในทุก ๆ สัปดาห์ ได้พูดคำว่า “แล้วเจอกันใหม่นะ” ต่อกัน ในวันที่ 5 และ 6 พฤษภาคมนี้จะเป็นงานจับมือครั้งสุดท้ายของฉัน ถ้าเรายังคงพูดว่า “แล้วเจอกันใหม่นะ” ได้อีกคงจะดีไม่น้อย แล้วมาพูดคุยเรื่องความฝันของพวกเราด้วยกันนะคะ
กิจกรรมสุดท้ายของฉันคือการแสดงเธียเตอร์ครั้งสุดท้ายร่วมกับเรนะและริโกะที่ไม่สามารถขึ้นแสดงในวันนี้ได้เนื่องจากอาการบาดเจ็บ ฉันคงจะมีความสุขที่จะได้เห็นเธอขึ้นเวทีด้วยรอยยิ้มอีกครั้งในคราวหน้า เพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นความฝันที่เธอกำลังมุ่งหน้าไปหา
สิ่งที่ฉันจะทำต่อจากนี้ไม่ใช่การแสดงความเจ็บปวดให้ทุกคนเห็น แต่จะเปลี่ยนเป็นตัวฉันที่จะมามอบพลังให้กับทุกคนด้วยรอยยิ้ม เช่นเดียวกับที่ทุกคนให้ความช่วยเหลือแก่ฉัน ฉันเองก็อยากจะเป็นคนที่ยื่นมือไปหาคนที่ต้องการมันเช่นกัน
กับสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มีหลายครั้งที่ฉันครุ่นคิดว่ามันอาจจะดีกว่าที่ตัวเองจะไม่อยู่ใน NGT48 ต่อ แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อได้มาขึ้นเวทีร่วมกับเมมเบอร์ทุกคน ได้รับเสียงเชียร์จากแฟน ๆ ฉันก็รู้สึกมีความสุขเหลือเกินที่ได้มาพบกับพวกเธอและแฟน ๆ ทุกคน ฉันดีใจจริง ๆ นะคะ ที่ครั้งหนึ่งเคยได้เป็นส่วนหนึ่งของ NGT48
ถึงเมมเบอร์และแฟน ๆ ทุกคน ต่อจากนี้ก็ขอให้ใช้ชีวิตต่อไปอย่างซื่อตรงและมีความสุขนะคะ
แม้ว่าจะเหลือเวลาไม่ถึงเดือนแล้ว จนกว่าจะถึงวินาทีสุดท้าย ในฐานะคนคนหนึ่งและในฐานะ NGT48 ฉันคงมีความสุขมากจริง ๆ หากสามารถพบกับทุกคนด้วยรอยยิ้มได้ แม้จะเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว แต่ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”
ฟังแล้วก็เป็นคำพูดที่หน่วงหัวใจเหลือเกินครับ เธอต้องรู้สึกอย่างไรถึงสามารถกลั่นกรองคำพูดเหล่านี้ออกมาได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเราจะรู้สึกอย่างไร แต่นั่นก็คือความรู้สึกของเราครับ ทุกอย่างที่เรามีข้อมูลนั้นเป็นความจริงทั้งหมดหรือเปล่าก็ไม่สามารถฟันธงได้ แม้มันอาจจะจบลงทั้งอย่างนี้ ผู้เขียนก็คิดว่าเรื่องนี้ยังมีสิ่งที่ไม่ชอบมาพากลอีกหลายอย่างที่แม้แต่ภายในวงเองก็ยังมีความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจอะไรไปก็ขอให้มีสติกันให้มากที่สุดนะครับ เพราะการใช้อารมณ์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ หลังจากนี้ NGT48 จะยังต้องมีภารกิจกู้ศรัทธาจากมวลชนให้ได้ต่อไป ยังไงเราก็มาติดตามกันต่อไปว่า ความจริงจะถูกเปิดเผยให้โลกได้รับรู้ หรือปิดตายใส่กล่องแพนโดร่าไปตลอดกาล ถ้ามีอัปเดตอะไรที่สำคัญ ANNGLE จะกลับมานำเสนอประเด็นนี้ต่ออย่างแน่นอนครับ
Story : Anngle