เปิดผลงาน "จอห์น รัชตะ" ร็อคเกอร์หนุ่มผู้เผชิญดราม่าเพลงละคร "แรงเงา 2"
ถือได้ว่าเป็นประเด็นดราม่าที่หลายคนให้ความสนใจมาก เมื่อ ช.เอ ณ บางช้าง ศิลปินร็อครุ่นใหญ่ได้ออกมากล่าวหาว่า จอห์น-รัชตะ สมบัติลาภตระกูล ศิลปินจากรายการ The Voice Thailand ซีซั่น 3 ได้นำทำนองเพลงจดลิขสิทธิ์ไว้แล้วมาขายให้ ซึ่งเดิมทีนั้น ทำนองเพลงดังกล่าวเป็นลิขสิทธิ์ของ ปิงปอง-ศิรศักดิ์ อิทธิพลพาณิชย์ และ จั๊ก-ชวิน จิตสมบูรณ์ ซึ่ง ปิงปอง และ จั๊ก ได้แต่งทำนองเพลงดังกล่าวเอาไว้ในปีพ.ศ. 2559 และล่าสุดได้ถูกนำมาทำเป็นเพลง "หวังเพียงรักจริง" เพื่อประกอบละครเรื่อง แรงเงา 2 >> "ช.เอ ณ บางช้าง" แจ้งความ "จอห์น รัชตะ" หลอกขายเพลงละครช่องดัง
นอกจากจะเป็นผู้เข้าแข่งขันรายการ The Voice Thailand ซีซั่น 3 แล้ว จอห์น รัชตะ เองก็เป็นศิลปินอิสระที่มีผลงานเพลงของตัวเองออกมาด้วย และในวันนี้ทาง Sanook! Music ก็ได้รวบรวมผลงานของเขามาให้แฟนๆ ได้ชมกัน
ก่อนหน้าที่จะมาแข่งรายการ The Voice Thailand ซีซั่น 3 จอห์น รัชตะ เองได้เป็นนักร้องนำวง Road Runner ศิลปินกลุ่มในค่าย รถไฟดนตรี และวง Play ซึ่งทำงานกับค่าย Genome Records ในเครือ RS ก่อนที่จะออกจากค่ายมาทำผลงานอัลบั้มเดี่ยวชุด John Play ที่มีซิงเกิล "อยากมีใครสักคน", "ปากร้าย" และ "หัวใจไม่ใช่ของฉัน" รวมอยู่
คลิกชมเอ็มวี ต้น & โบว์ - Road Runner
หลังจากที่ทำอัลบั้มเดี่ยวในฐานะศิลปินอิสระ จอห์น รัชตะ ก็ได้กลายเป็นที่รู้จักเมื่อได้เข้าร่วมรายการ The Voice Thailand ซีซั่น 3 โดยเขาได้มาพร้อมความสามารถในการร้องเพลงร็อคที่มีพลัง จนสามารถเข้าทีม โค้ชก้อง-สหรัถ สังคปรีชา ได้ในที่สุด โดยจอห์นได้เข้าถึงรอบ Knock Out ก่อนที่จะถูกคัดออกจากรายการ
คลิกชมการแสดงของ จอห์น ในรอบ Knock Out The Voice Thailand ซีซั่น 3
เมื่อออกจากรายการมา จอห์น ก็ได้เดินหน้าทำผลงานของตัวเอง โดยในปีพ.ศ. 2558 เขาได้นำเพลงจากอัลบั้มเดี่ยว "คำว่ารักคนมักง่าย" มาโปรโมทเต็มตัวอีกครั้ง และล่าสุดในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เขาได้เผยในแฟนเพจตัวเองว่าเขากำลังทำซิงเกิลใหม่
คลิกชมเอ็มวี คำว่ารักคนมักง่าย - จอห์น รัชตะ
ณ ตอนนี้ถึงแม้จะ ช.เอ ณ บางช้าง ปิงปอง ศิรศักดิ์ และ จั๊ก ชวิน จะออกมาพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในมุมของตัวเองแล้ว แต่ จอห์น รัชตะ ผู้ถูกกล่าวหาก็ยังคงไม่ออกมาเคลื่อนไหวหรือให้สัมภาษณ์ใดๆ ซึ่งหลังจากนี้ทาง Sanook! จะนำความคืบหน้าประเด็นดังกล่าวมาอัปเดตเร็วๆ นี้
Story : Sidhipong W.