Jason Mraz เปิดคอนเสิร์ตบำบัดจิตใจ ส่งพลังบวกให้แฟนชาวไทยเต็มๆ

“หายใจเข้า...หายใจออก...”

ประโยคที่เราน่าจะเคยได้ยินแค่ตอนที่เรากำลังกำหนดลมหายใจเพื่อบำบัดจิตใจ หรือนั่งสมาธิเท่านั้น จะมีใครได้ยินในคอนเสิร์ตบ้าง? ถ้าไม่ใช่คอนเสิร์ตที่รวมตัวคนอารมณ์ดีพร้อมใจรักษ์โลกได้มากที่สุดอย่างงานนี้ Jason Mraz Good Vibes Tour 2019 จัดโดย Live Nation BEC-Tero ในค่ำคืนวันที่ 21 พ.ค. 2019 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

20.00 น. เป็นเวลาของศิลปินรับเชิญพิเศษอย่าง สิงโต นำโชค ที่มี ทอม อิศรา มาร่วมแจมด้วย ขนเพลงฮิตอย่าง “อาย”, “เธอคือของขวัญ” รวมถึง “อยู่ต่อเลยได้ไหม” มาให้แฟนๆ ได้ร้องตามกัน ทางด้านของทอม อิศราขึ้นมาร่วมแจมในเพลง “ชายกลาง” ของ แสตมป์ และเพลงดังของ Room39 อย่าง “Restart” และ “เป็นทุกอย่าง” เสียดายที่เขายังไม่มีผลงานเดี่ยวเต็มตัว เสียงดีๆ แบบนี้อยากได้เพลงแนว Bruno Mars ให้เขาได้ร้องมากๆ

หากเป็นคอนเสิร์ตเดี่ยวของทั้งคู่ แฟนๆ น่าจะเอ็นจอยกันมากกว่านี้ แต่พอเป็นคอนเสิร์ตของศิลปินต่างประเทศอย่าง Jason Mraz เลยทำให้บรรยากาศเงียบๆ ไปนิด บวกกับคนยังเข้าฮอลล์กันไม่หมด จึงทำให้ทั้งคู่ โดยเฉพาะ สิงโต นำโชค งัดพลังเอนเตอร์เทนออกมาเต็มที่ ทั้งเปลี่ยนท่อนเพลงเป็นภาษาอังกฤษให้คนร้องตาม ลงจากเวทีไปหาคนดูถึงที่นั่ง และพูดติดตลกตลอดเวลาว่าจะรีบเล่นรีบลง ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าการย้ำเรื่องนี้บ่อยๆ เป็นเรื่องดีหรือเปล่า แต่โดยส่วนตัวเราว่าไม่น่าพูดบ่อยเกินไป เล่นให้เต็มที่ไปดีกว่า

โชว์เปิดจบก่อนสามทุ่มนิดๆ คิดว่า Jason Mraz จะขึ้นตอนสามทุ่ม แต่เอาเข้าจริงกลับขึ้นตอน 21.20 น. Jason เดินขึ้นเวทีพร้อมนักดนตรีแบ็คอัพ  และสาวๆ Raining Jane ที่ร่วมทัวร์กับ Jason Mraz มาตั้งแต่อัลบั้ม 3 เป็นต้นมา (เกือบทุกครั้งที่มาไทย Jason Mraz ก็จะพา Raining Jane มาทัวร์ด้วย) เปิดโชว์ด้วยเพลงในอัลบั้มใหม่ล่าสุดชุดที่ 6 อย่าง “Let’s See What The Night Can Do” ถือว่าเป็นเพลงความหมายดีๆ ที่เข้ากันกับการโชว์เป็นเพลงแรกในค่ำคืนนี้ แถมหนุ่ม Jason ยังเปลี่ยนเนื้อเพลงให้เป็นอิมแพ็ค อารีน่า ในท่อน “Set for the sound of our heartbeats beating on, and we'll stand in the Impact (Canyon) alone” อีกด้วย

Jason Mraz กับผองเพื่อนเร่งจังหวะขึ้นมาอีกนิดกับเพลงฟังสนุก “Living in the Moment” จากอัลบั้ม Love Is a Four Letter Word จากนั้นเขาก็เริ่มพาแฟนเพลงย้อนไปสู่ช่วงอัลบั้มแรก Waiting For My Rocket To Come กับเพลงแร็ปรัวๆ “Curbside Prophet” ที่ mash up กับ “The Remedy” (I Won’t Worry) ที่ Jason ชวนสาวๆ Raining Jane มาเต้นหน้าเวทีกันอย่างพร้อมเพรียง เต้นไปยิ้มไปอารมณ์ดีสมกับชื่อ Good Vibes จริงๆ

ฟังเพลงเก่าจนหายคิดถึงกันไปแล้ว ก็เริ่มเข้าสู่ช่วงเพลงใหม่กันอีกครั้งกับ “No Plans”, “Sleeping to Dream” เพลงเก่าเก็บตั้งแต่สมัย A Jason Mraz Demonstration (1999) ที่นำมาร้องสดบ้างเป็นครั้งคราว จนในที่สุดก็ทำเป็น album version ในอัลบั้ม Know. ล่าสุด และ “More Than Friends” เพลงที่ Jason Mraz ร้องกับ Meghan Trainor แต่บนเวที Jason ชวนเจ้าตุ๊กตามือน่ารักที่ให้ชื่อว่า Meghan มาร้องด้วยกันแทน (ท่อนของ Meghan ร้องโดยคอรัสจาก Raining Jane) และส่งต่อเพลงน่ารักๆ กับ “Unlonely” เพลงที่คนโสดฟังแล้วคงอยากรีบสละโสดเร็วๆ

ผ่านมาเกือบจะครึ่งโชว์ แฟนๆ ที่รอเพลงจากอัลบั้ม 3 อย่าง We Sing, We Dance, We Steal Things คงคันปากยิบๆ ว่าเมื่อไรจะได้ฟังเพลงดัง หลังจากพูดคุยทักทาย ขอบคุณที่มาอยู่ด้วยกันคืนนี้ และให้ส่งเสียงประหลาดๆ ตามกันพอหอมปากหอมคอแล้ว ทำนองกีตาร์คุ้นหูทำให้แฟนเพลงทั้งฮอลล์กระหึ่มกรี๊ดเสียงดัง เพราะจะเป็นเพลงไหนไปไม่ได้นอกจาก “I’m Yours” ที่ร้องตามกันได้ตั้งแต่ท่อนแรกยันท่อนสุดท้ายกันเลยทีเดียว อิ่มอกอิ่มใจไม่ทันไรก็ต้องกรี๊ดต่อ เพราะเป็นเพลงจากอัลบั้มเดิมที่คุ้นหูกันดีเช่นเคย ทั้ง “Make It Mine” และ “A Beautiful Mess” เวอร์ชั่นแทบจะอะแคปเปลาที่ Jason เปิดเผยว่าแต่งเพลงนี้กับ Raining Jane เป็นครั้งแรก

Jason Mraz หายเข้าหลังเวทีพร้อมยกพื้นที่ให้กับสองสาวจาก Raining Jane ที่คนหนึ่งเล่นเครื่องดนตรีอินเดียที่มีชื่อว่าซีต้าร์ (Sitar) อีกคนเล่นเครื่องดนตรีเคาะจังหวะอย่างคาฮอง (Cajon) ในบทเพลงบรรเลงที่มีชื่อว่า “Browntown” ขอบอกเลยว่าสาวๆ กลุ่มนี้ฝีมือไม่ธรรมดาจริงๆ เรียกพลังให้คนดูตื่นเต้นได้ตลอดทั้งเพลง หลังจบเพลงนักดนตรีและหนุ่ม Jason Mraz กลับขึ้นเวทีอีกครั้งด้วยเพลง “Love is Still the Answer”, “93 Million Miles” เพลงเพราะคุ้นหูที่มีจังหวะฟังสบายและทรงพลังในเพลงเดียวกัน ก่อนจะเข้าสู่เพลงที่หลายคนรอคอยอย่าง “I Won’t Give Up” ที่ Jason ไม่ลืมที่จะพูดให้กำลังใจให้แฟนๆ มีชีวิตต่อสู้กันต่อไป แม้ว่าในแต่ละวันจะต้องเจอกับเรื่องแย่ๆ หรืออุปสรรคหนักหนาแค่ไหนก็ตาม และเมื่อมาถึงช่วงสุดท้ายของโชว์ เพลง “3 Things” จากอัลบั้ม Yes!, “Might As Well Dance” และ “Have It All” เพลงสนุกๆ จากอัลบั้มล่าสุดก็ถูกเลือกมาร้องเพื่อจบช่วงนี้ ก่อนจะกลับมาหลังอังกอร์สั้นๆ ด้วย “Love Someone” เพลงเพราะหวาน ที่เสียงประสานของ Jason Mraz & Raining Jane ทำเอาขนลุกกันไปทั้งฮอลล์

 

หากเทียบกับการมาไทยครั้งก่อนๆ ของ Jason Mraz โชว์ตลอด 2 ชั่วโมงเต็มในครั้งนี้ไม่ได้หวือหวามากในแง่ของเพลง และโปรดักชั่นที่มีเพียงภาพสีสันสดใสเพียงภาพเดียวบนเวที กับลูกเล่นการใช้สี และความสว่าง-มืดของไฟอีกนิดหน่อย เพลงดังๆ หลายเพลงอย่าง “You & I Both”, “Long Drive”, “Details in the Fabric” และอื่นๆ ที่ในเซ็ตลิสต์ประเทศอื่นมีแต่ในประเทศไทยไม่มี อย่างไรก็ตาม ที่ยังคงคุณภาพได้ดีอยู่เหมือนเดิมคือเสียง ทั้งเสียงดนตรีจากวงแบ็คอัพ และเสียงร้องกังวานใสของ Jason Mraz ยังคงดีเยี่ยมแบบไร้ที่ติ สมแล้วที่เพิ่งเป็นนักแสดงบรอดเวย์ในเรื่อง Waitress เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งดูแล้วเขาน่าจะตั้งใจให้ทัวร์ครั้งนี้เต็มไปด้วยพลังงานด้านบวก นั่งฟังเพลงสบายๆ หรือลุกขึ้นมาเต้นสนุกๆ สมชื่อทัวร์ Good Vibes มากกว่าจะเน้นเรื่องโปรดักชั่น ซึ่งก็ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว นอกจากนี้ด้วยเพลงที่เขาเลือกมาในทัวร์นี้ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงในแง่บวก Jason จึงคอยพูด คอยเอนเตอร์เทน เปลี่ยนเนื้อเพลง เล่นคำตามแบบฉบับของ Mr. Wordplay และยังถ่ายทอด healthy lifestyle ของเขาผ่านคอนเสิร์ตในครั้งนี้ด้วยการให้แฟนเพลงนึกถึงคนที่ตัวเองรัก กำหนดลมหายใจเข้าออกเรื่อยๆ ตลอดทั้งโชว์ พร้อมกับฟังเพลงความหมายดีๆ เพราะๆ ไปด้วย เพราะฉะนั้นจะพูดว่ามาดูคอนเสิร์ตในครั้งนี้เหมือนได้บำบัดจิตใจไปด้วยในตัวก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะหลังจบโชว์รู้สึกได้ถึงความอิ่มอกอิ่มใจ สมองโล่ง คลายความเหนื่อยความกังวลที่เกิดขึ้นในชีวิตไปได้ในทันทีเลยทีเดียว

 

… และเราเชื่อว่า Jason Mraz ยังคงเป็นศิลปินคนโปรดของชาวไทยหลายคนได้อยู่เหมือนเดิมแน่นอน

____________________

Story : Jurairat N.

Photos : Live Nation BEC-Tero