คอนเสิร์ต MONSTA X ชาร์ตพลังให้แฟนชาวไทยครบทุกรส จนต้อง “ปรบมือ” ให้

7 หนุ่ม MONSTA X (มอนสตา เอ็กซ์) สาดความมันกันตั้งแต่เพลงแรกยันเพลงสุดท้ายตลอด 3 ชั่วโมง ชนิดที่ตอบได้คำเดียวว่าคุ้มทุกบาททุกสตางค์ สำหรับเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่ 3 กับงาน 2019 MONSTA X WORLD TOUR ‘WE ARE HERE’ IN BANGKOK จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน 2562 ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี โดยผู้จัด YJ PARTNERS (วายเจ พาร์ทเนอร์ส) ที่ไม่ทำให้มอนเบเบ้ (ชื่อแฟนคลับ) ชาวไทยและต่างชาติที่รวมตัวกันในคืนวันนั้นกลับบ้านไปพร้อมกับความคิดที่ว่า “ดีใจที่ได้มาดู และครั้งหน้าก็จะไม่พลาด” เพราะมันสนุก ครบทุกรสเกินกว่าที่คาดไว้จริงๆ

แต่ก่อนจะถึงคอนเสิร์ต 7 หนุ่ม MONSTA X ประกอบด้วย SHOWNU (ชยอนู), WONHO (วอนโฮ), MINHYUK (มินฮยอก), KIHYUN (กีฮยอน), HYUNGWON (ฮยองวอน), JOOHONEY (จูฮอนี่) และ I.M (ไอเอ็ม) ไอดอลสุดเท่จากสังกัด STARSHIP ENTERTAINMENT (สตาร์ชิพ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์) ขอเปิดห้อง SAPPHIRE 203, IMPACT Forum แถลงข่าวกับพี่ๆ สื่อมวลชนและแฟนคลับผู้โชคดีอย่างใกล้ชิดพร้อมอัพเดทผลงานที่ผ่านมาอย่างซิงเกิลเพลง Alligator ที่ดังทะลุชาร์ตรวมไปถึงบอกเล่าถึงความพิเศษของโชว์ที่จะเกิดขึ้นในเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ตที่เริ่มออกสตาร์ทที่ประเทศไทยเป็นที่แรก ไม่เท่านั้นหนุ่มๆ ยังแอบหยอดหวานยกแรกด้วยประโยคภาษาไทยชวนฟินไปอีก โดย กีฮยอน พูดว่า “อยู่กับเฮียไม่มีเสียใจ” แต่ที่กรี๊ดจนห้องแทบแตกต้องยกให้ หนุ่มไอ.เอ็ม กับประโยค “เฮียอ้อนนะ หนูไหวเหรอ”  และแน่นอนว่าหนุ่มจูฮอนไม่พลาดที่จะโดนถามถึงเรื่องประโยคฮิต “พัคซู” จากการปรากฏตัวของเราในรายการ Produce X 101 ที่เขาบอกว่า “ตอนแฟนๆ ไปรับที่สนามบิน มีแต่คน ‘พัคซู’ ใส่เขา ไม่มีใครเรียกชื่อเขาเลย” จนแฟนๆ ต้องตะโกนเรียกชื่อเขาให้ในงานแถลงข่าววันนั้น เขาถึงยิ้มจนแก้มบุ๋มด้วยลักยิ้มน่ารักๆ อีกครั้ง

 

ชมบรรยากาศในงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต 2019 MONSTA X WORLD TOUR ‘WE ARE HERE’ IN BANGKOK ได้ที่นี่ 

เข้าสู่ช่วงเย็น แฟนๆ เข้าฮอลล์มารอหนุ่มๆ พร้อมหน้าจอบนเวทีสีดำแดงดุเดือดกับภาพเหมือนแผนที่ปักหมุดว่า “WE ARE HERE” ตามชื่อทัวร์ จน 18.00 น. ได้เวลาระเบิดความมันแบบยกกำลัง 7 เมื่อหนุ่มๆ MONSTA X ขึ้นเวทีมาในลุคสุดเท่พร้อมเปิดตัวอย่างร้อนแรงในเพลง “SHOOT OUT”, “HERO” (broadcasting ver.), “Trespass” (Rock. Ver.) ก่อนจะชวนแฟนๆ มาโยกตัวเบาๆ ในเพลง “PARTY TIME” และ “PLAY IT COOL” ที่หนุ่มๆ มีโอกาสได้ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์ชื่อดังอย่าง Steve Aoki ส่วนตัวเราชอบเพลงนี้มากๆ เหมาะกับการเล่นในคอนเสิร์ตที่สุด เพราะมีความ EDM ของ Steve Aoki ที่เร้าอารมณ์คนดู แต่ยังมีความเท่ในแบบฉบับของ MONSTA X อยู่ครบถ้วนด้วย ต่อด้วยเพลงที่มีจังหวะสโลว์แต่หนักแน่นอย่าง “MOHAE” ผลงานการแต่งของ ไอ.เอ็ม และมันอย่างไม่มีสะดุดกับ “JEALOUSY” ที่เสียงแฟนชานท์ดังกระหึ่มทะลุฮอลล์

ช่วงไฮไลท์ของคอนเสิร์ตเป็นหนึ่งในช่วงที่น่าจดจำที่สุดของโชว์ในค่ำคืนนั้น เพราะหนุ่มๆ MONSTA X บอกว่าเป็นทีเด็ดที่ซ้อมมาอย่างหนักกับโชว์แต่ละยูนิต โดยยูนิตแรกเป็นของ ฮยองวอน, กีฮยอน และมินฮยอก ที่โชว์เซ็กซี่แดนซ์ในเพลง “MYSELF” ต่อด้วยยูนิตสายแร็ปของ จูฮอนี่ & ไอ.เอ็ม ในเพลง “SamBagJa” ซึ่งหนุ่มจูฮอนี่ขอโชว์ลีลาตีกลองอย่างดุเดือดให้ชมเป็นขวัญตา (แอบเห็นว่าตีแรงจนไม้กลองหักคามือเลยทีเดียว แต่หนุ่มจูฮอนก็ยังคงตีต่อไปจนจบเพลงแบบเนียนๆ สมกับเป็น professional) ก่อนจะปิดท้ายช่วงยูนิตด้วยโชว์ของสองพี่ใหญ่อย่าง ชยอนู & วอนโฮ ในเพลง “MIRROR” ที่ท่าเต้นเซ็กซี่จนน้องๆ ในวงต้องออกมาแซว จากนั้นขยับจังหวะลงมาอีกนิดกับเพลงช้าซึ้งๆ อย่าง “Honestly” ที่มอนเบเบ้ต่างพร้อมใจกันเปิดไฟหลากสีทั่วทั้งฮอลล์ และสโลว์เบาๆ กันต่อกับเพลงน่ารักๆ อย่าง “I Do Love U”, “Sweetheart” และ “NO REASON”

ช่วงที่ฮอลล์เริ่มร้อนจนลุกเป็นไฟ และเป็นอีกช่วงที่การันตีได้ว่าไม่มีนาทีไหนที่ไม่สนุกเลย คงเป็นช่วงหลังเพลง “DRAMARAMA” ที่หนุ่มๆ MONSTA X ชวนให้มอนเบเบ้ทุกคนมาแบทเทิลแดนซ์ในเมดเล่ย์เพลงฮิตชุดใหญ่อย่าง “OH MY!”, “SPECIAL”, “Fallin” โดยทั้ง 7 หนุ่มเอนเตอร์เทนคนดูกันสุดตัว ทั้งร้องทั้งเต้นทั้งแฟนเซอร์วิส สาดน้ำจากขวดกันจนเปียกปอน แต่สุดท้ายเมื่อหนุ่มๆ เห็นแรงฮึดที่มอนเบเบ้ทั่วทั้งฮอลล์ลุกขึ้นมาเต้นจนไฟแล่บแล้วก็ต้องยอมแพ้ยกธงขาวให้มอนเบเบ้ชนะขาดลอย ก่อนจะมาแดนซ์ส่งท้ายพร้อมกันแบบลืมเหนื่อยอีกครั้งในเพลง “ALLIGATOR” ปิดท้ายคอนเสิร์ตแบบเท่ๆ คูลๆ สมกับเป็น MONSTA X

แต่ถ้าคิดว่า “หมดเวลาสนุกแล้วสิ” ก็คงคิดผิดถนัด เพราะช่วงอังกอร์ของ MONSTA X ไม่ธรรมดาเหมือนวงไอดอลอื่นๆ เพราะวงเขามี DJ H.ONE (ชื่อสเตจดีเจของหนุ่มฮยองวอน) ที่ออกมาพร้อมเสื้อยืด หูฟัง และโต๊ะวางมิกซ์สำหรับดีเจแบบครบชุด เปลี่ยนคอนเสิร์ตให้เป็นคลับ EDM ย่อมๆ กับเพลงบีทสนุกๆ จากหนุ่มฮยองวอนหน้าหวานกลายเป็นดีเจสุดเท่ไปในพริบตา จากนั้นไม่นานอีก 6 หนุ่มก็ขึ้นมาสมทบบนเวทีในเพลง “RODEO” ซึ่งเพลงนี้มอนเบเบ้เตรียมเซอร์ไพรส์ให้ ลีดเดอร์ชยอนู โดยการชูป้ายโปรเจ็กต์ข้อความว่า HAPPY BIRTHDAY SHOWNU เล่นเอาเจ้าตัวยิ้มปลื้มบอกว่าตื่นเต้นที่ได้เห็นป้ายอวยพรเยอะขนาดนี้พร้อมกล่าวขอบคุณที่มอนเบเบ้ร่วมอวยพรวันเกิดให้เขาล่วงหน้า (16 มิ.ย.) อีกด้วย ก่อนจะปิดท้ายโชว์จริงๆ ด้วยเพลงความหายดีที่หนุ่มๆ ตั้งใจมอบให้มอนเบเบ้ชาวไทยกับ “BY MY SIDE” โดยมอนเบเบ้ทุกคนช่วยกันชูป้ายโปรเจ็กต์ข้อความว่า “우리에게 사랑을 알려준 몬엑에게 정말 고마워“ แปลว่า “ขอบคุณมอนเอ็กซ์ที่ทำให้เรารู้จักความรัก” โบกมือลาหนุุ่มๆ ก่อนเข้าเวทีกันด้วยรอยยิ้ม

นอกจากแสงสีเสียงที่สวยงามตามฉบับคอนเสิร์ตไอดอลเกาหลีแล้ว ที่น่าชื่นชมเพิ่มเติมเห็นจะเป็น VTR ที่เปิดคั่นแต่ละช่วงของโชว์ที่ทำได้ดี ซับภาษาไทยที่ใส่มาก็สวยงามอ่านง่าย และโปรดักชั่นอลังการประหนึ่งถ่ายทำหนังสั้น แม้ว่าส่วนตัวอาจจะคิดว่ามันยาวไปหน่อย จนทำให้เวลาของคอนเสิร์ตล่วงเลยมากว่า 3 ชั่วโมง แต่คิดว่าแฟนๆ ส่วนใหญ่น่าจะชอบกัน และพวกเขาทำออกมาได้ดี มีสตอรี่ชัดเจน แต่ส่วนที่ไม่ชมไม่ได้คือพลลังอันล้นเหลือของ MONSTA X ที่ทำได้ดีทั้งร้อง แร็ป เต้น เอนเตอร์เทน โชว์ให้แฟนๆ เห็นทั้งด้านเท่แบบฉบับไอดอล และด้านสนุกสนานขี้เล่นเป็นกันเองจนแอบคิดว่า “วงนี้ตลกขนาดนี้ได้ยังไง” แต่นี่แหละคือเสน่ห์ของ MONSTA X ที่แฟนๆ หลงรัก จนเราต้องบอกว่า มอนเบเบ้โชคดีมากที่ได้ชมโชว์ดีๆ แบบนี้ และบอกได้เลยว่าแม้ว่าคุณจะไม่ใช่แฟนคลับของ MONSTA X คุณก็สนุกไปกับโชว์ครั้งนี้ได้ไม่ยากจริงๆ

… ถ้าไม่เชื่อเรา ครั้งหน้าลองตีตั๋วเข้าพิสูจน์ด้วยตาของคุณเองดูสิ แล้วค่อยมาขอบคุณเราทีหลัง

____________________

Story : Jurairat N.

Photos : Sanook Music, YJ Partners