คอนเสิร์ต 15 ปี “ปอย Portrait” แม้จะฟังเพลงเศร้า แต่เราก็มีความสุขได้
คนเราจะเศร้าได้นานสักแค่ไหนกัน?
เป็นคำถามที่เกิดขึ้นในใจของผู้เขียนทุกครั้งเมื่อได้ฟังเพลง หรือแม้กระทั่งพูดคุยกับชายที่ชื่อ ปอย-ตวัน ชวลิตธำรง หรือ Portrait ศิลปินที่สร้างสรรค์เพลงเศร้ามายาวนาน 15 ปี โดยเฉพาะ “ขอดาว” ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเพลงขึ้นหิ้งแห่งวงการดนตรีอินดี้บ้านเรา
กระทั่งการเดินทางมาถึงคอนเสิร์ตครบรอบ 15 ปีของ Portrait ในชื่อ U Beer presents 15 yrs Portrait #เรื่องเศร้าไม่รู้จบ ที่เราตั้งตารอคอย เพราะไม่บ่อยครั้งนักที่นักร้องผู้รับใช้ความเศร้ามาตลอดชีวิตจะมีโชว์เต็มรูปแบบ ซึ่งความคาดหวังที่จะได้ฟังเพลงเก่าๆ จากทั้งอัลบั้ม Poptrade, ลวงตา, 4 AM มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม และลุ้นว่าอย่างใจจดจ่อว่าบรรดาเพลงที่เราคิดถึงนั้น Portrait จะหยิบมาเล่นมากน้อยเพียงใด ส่วนเพลงใหม่ๆ ค่อนข้างมั่นใจว่าเล่นครบ
สถานที่จัดแสดงอย่าง About Studio ย่านเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา ไม่ได้โอ่อ่าใหญ่โต แต่ช่างเหมาะเจาะกับคอนเสิร์ตครั้งนี้เสียเหลือเกิน พลังความอบอุ่นจากแฟนเพลงตัวจริงของ Portrait อัดแน่นอยู่ในห้องขนาดไม่ใหญ่มากห้องนั้น และเพียงแค่ 3 เพลงแรกของโชว์ก็ทำเอาเราปลื้มปริ่ม เพราะมีทั้ง “คนแปลกหน้า”, “วันที่หัวใจเคลื่อนไหว” และ “โปรดปล่อยฉันไป” กับการปรากฏตัวในชุดสีดำทั้งตัว Portrait เอง รวมไปถึงนักดนตรีแบ็คอัพ แถมในช่วงแรกยังค่อยๆ สร้างบรรยากาศด้วย Interlude สุดเศร้าเหงาหงอยอีกต่างหาก
แม้เพลงจะเศร้า แต่ความสุขก็ตลบอบอวลอยู่ในทุกอณู บรรดาแขกรับเชิญเริ่มทยอยขึ้นมาสร้างสีสัน เริ่มต้นด้วย หนึ่ง-เกรียงไกร วงษ์วานิช หรือ Sleeper1 ซึ่งเป็นเพื่อนกับปอยมาตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ขึ้นมาสะพายกีตาร์โปร่งประจำตัวและร่วมเล่นเพลงหาฟังยากอย่าง “ฝันร้าย” และ “จำ” แตกต่างจาก นอ-นรเทพ มาแสง มือเบสแห่งวง Pause ที่ขอเปลี่ยนมาหยิบกีตาร์ไฟฟ้า บรรเลงเพลงที่หลายคนลืมไปแล้วอย่าง “ดีกว่า” ซึ่งมาจากโปรเจกต์ Yesterday Metal Kids กับการเว้นช่วงห่างในการเล่นสดยาวนานถึง 12 ปีนับตั้งแต่การเล่นครั้งแรกสุด ณ เทศกาลดนตรี Fat Festival ครั้งที่ 4 ที่สนามม้านางเลิ้งเลยทีเดียว ก่อนจะต่อด้วย “ไม่เสียใจที่เคยบอกรัก”, “สายลม” และ “จดหมายจากต้นไม้” เพลงลึกๆ ที่เซอร์ไพรส์ไม่น้อยที่ได้ยินเสียงคนร้องตามกันดังทีเดียว แม้ในเพลงหลังสุดจะเป็นการเล่นสดเป็นครั้งแรกในโลกก็ตาม!
เป็นความน่ายินดีบนท่วงทำนองแห่งความเศร้าเมื่อ Portrait หยิบสองเพลงที่มีความละม้ายคล้ายคลึงทั้งในเรื่องชื่อและเรื่องราวอย่าง “โลกที่ไม่มีฉัน” และ “โลกที่ไม่มีเธอ” มาเล่นต่อกัน หลังจากนั้นถึงคิวของอีกหนึ่งวงเพื่อนสนิทอย่าง Friday ที่ขึ้นมาเล่นเพลงเพราะๆ อย่าง “เหนื่อย”, “ต่างคนต่างรอ” ที่ Portrait รีเควสต์ด้วยตนเอง รวมถึง “ขอดาว” ที่ยกมาเล่นกลางโชว์กันเลยทีเดียว นอกจากนั้น บอย-อดุลย์-หนึ่ง สามสมาชิกแห่ง Friday ยังหยอกล้อและแซวเพื่อนซี้อย่างปอยแบบไม่มีพัก
Better Weather คือแขกรับเชิญวงต่อมา กับเพลง “ฟัง” ที่ไม่ได้ฟังมานาน ก่อนจะจัดสองเพลงฮิตทั้งของตนเองอย่าง “แค่เท่านั้น” และ “เจ็บจนไม่เข้าใจ” ที่พวกเขานำเอาไปคัฟเวอร์ในแบบฉบับของตนเอง ไม่เพียงแค่นั้น Rule Dark หนึ่งในวงดนตรีที่เติบโตมาในยุคเดียวกับ Portrait ก็ขึ้นมาสร้างความอิ่มเอมแบบสุดๆ ในเพลง “เธอจะไปกับฉันไหม” ที่ขอยอมรับแบบแมนๆ ว่าตะโกนร้องสุดเสียง เพราะคิดถึงดูโอ้คู่นี้เหลือเกิน อีกทั้งพวกเขายังแจมกับปอยในอีกหนึ่งเพลงดังอย่าง “แค่คิดถึงเธอ” อีกต่างหาก
>> ปอย Portrait : ชายผู้เกิดมารับใช้ความเศร้าไม่รู้จบ เพียงแต่ต้องเรียนรู้... และรับมือให้ได้
“ทุกคืน”, “กลับไปไม่รู้จัก” และ “ต้องทำอย่างไร” ซิงเกิลใหม่ล่าสุดถูกหยิบยกมาเล่นในลำดับถัดมา ก่อนที่จะถึงคิวของเพลง “ฝืนยิ้ม” พร้อมการก้าวเดินมาอยู่หน้าเวทีของ นัน-สุนันทา ยูรนิยม ที่ทำหน้าที่คอรัสอยู่ด้านหลังมาตั้งแต่ต้นโชว์ และ “ขอพร” ที่ได้ กันต์ ชุณหวัตร ขึ้นมาร่วมสร้างสีสัน โดยทั้งสองเพลงเป็นพาร์ตในการเขียนเนื้อร้องและเป็นโปรดิวเซอร์ให้ศิลปินอื่นของ Portrait นั่นเอง
เข้าสู่ช่วงท้ายๆ ของ 15 ปีแห่งการรอคอย “อย่าทำอย่างนั้น” คืออีกหนึ่งแทร็คที่เพิ่มเติมความหนักแน่นด้วยศิลปินรุ่นน้องอย่าง โอ ปวีร์ ก่อนจะต่อด้วย “ลวงตา” ที่ Portrait กล่าวว่าจะเก็บไว้เล่นเป็นเพลงสุดท้ายเสมอเพื่อสรุปภาพรวมความคิดที่มีต่อความรักรวมถึงการทำเพลงของเขามาโดยตลอด แถมด้วย “เจ็บจนไม่เข้าใจ” ในเวอร์ชั่นออริจินัล และการผสมผสานสองเพลงอย่าง “กลับมา” และ “โลกที่ไม่มีเธอ” ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งบรรยากาศบนเวทีนั้นก็มหัศจรรย์ไม่แพ้บทเพลง เนื่องจากศิลปินทุกๆ คนขึ้นมาร่วมสร้างความทรงจำด้วยกันอย่างชื่นมื่น
เรียกได้ว่าเป็นคอนเสิร์ตที่แฟนคลับตัวยงของ Portrait คงมีความสุขจนอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูกอย่างแน่นอน บทเพลงในทุกช่วงชีวิตค่อยๆ ถูกไล่เรียงบรรเลงเล่นบนเวที ในขณะที่แฟนเพลงรุ่นใหม่ที่เพิ่งมารู้จักเขาจากเพลง “เจ็บจนไม่เข้าใจ” หรือ “โลกที่ไม่มีเธอ” ก็ได้สัมผัสกับผลงานที่เขาสร้างสรรค์มาตลอด 15 ปีเต็มตามที่เขาหวังเอาไว้จากการสัมภาษณ์ครั้งล่าสุดกับ Sanook! Music เรื่องราวความเศร้าที่แปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา พาร์ตดนตรีที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่ Portrait ก็ยังเป็น Portrait เขายังเป็นศิลปินที่นำเสนอแง่มุมความเศร้า รวดร้าว ได้อย่างถึงแก่นไม่ว่าเวลาจะผ่านไปสักกี่ปีก็ตาม
แม้อากาศในฮอลล์จะร้อนอบอ้าวอยู่พอประมาณ รวมถึงเรื่องซาวด์โดยรวมที่ค่อนข้างก้องและสะท้อนจนในบางครั้งฟังไม่รู้เรื่องจากปัจจัยที่ห้องดังกล่าวถูกล้อมรอบด้วยกระจก จนกระทั่งเราเดินไปด้านหน้าเวทีที่ทำให้เราได้ฟังซาวด์อย่างเต็มอิ่มมากขึ้น ทว่าเรื่องราวที่ Portrait เล่าผ่านแต่ละเพลงยังคงทำให้คนฟังต้องมนต์สะกด และดื่มด่ำความเศร้าแบบไม่รู้จบอย่างแท้จริง แอบคิดในใจอยู่เล็กน้อยว่า หาก Portrait ดึงอารมณ์โดยรวมของคอนเสิร์ตให้ลึกและดำดิ่งตลอดทั้งโชว์ สิ่งที่เกิดขึ้นบนเวทีจะเป็นเช่นไรกันนะ? ... อยากลิ้มลองอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
ดูคอนเสิร์ต 15 yrs Portrait #เรื่องเศร้าไม่รู้จบ เสร็จสิ้นก็ยังค้นหาคำตอบในประโยคแรกของบทความไม่ได้อยู่ดี แต่สิ่งที่รู้ในตอนนี้คือ เราสามารถมีความสุขในการฟังเพลงเศร้าได้... เพราะ Portrait พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นแล้วนั่นเอง
Story by: Chanon B.
Photos by: Boxx Music
อัลบั้มภาพ 19 ภาพ