“The Lyrics Of Love” ค่ำคืนที่เพลงรัก “ดี้-บอย” ถูกขับขานด้วยเสียงศิลปินระดับตำนาน (วันแรก)
เวลาที่เอ่ยชื่อนักแต่งเพลงแถวหน้าของประเทศ ชื่อของ ดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค และ บอย-ชีวิน โกสิยพงษ์ จะต้องเป็นชื่อแรกๆ ที่หลายคนนึกถึง เพราะพวกเขาได้สร้างสรรค์ผลงานเพลงฮิตไว้มากมาย พร้อมสอดแทรกลายเซ็นในการเขียนของตัวเองเอาไว้ และทำให้พวกเขาสามารถมีคอนเสิร์ตรวมเพลงของตัวเอง ซึ่งได้ศิลปินแถวหน้ามาร้องเพลงที่พวกเขาทำออกมา โดยทั้งคู่เองก็ต่างเคารพในความสามารถของกันและกัน >> "ดี้ นิติพงษ์" ย้อนอดีต! เล่าความหลังตอนถูก "บอย โกสิยพงษ์" ขอลายเซ็นเมื่อ 30 ปีที่แล้ว
ล่าสุด Atime Showbiz ก็ได้ทำเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ด้วยการจัดคอนเสิร์ต The Lyrics Of Love : Greatest Hits of Dee & Boyd ที่เปิดโอกาสให้แฟนๆ ได้ฟังเพลงดังของ ดี้ นิติพงษ์ และ บอย โกสิยพงษ์ ผ่านการถ่ายทอดของ 5 ศิลปินชายที่ร่วมงานกับบอยตั้งแต่ตอนทำค่าย Bakery Music อย่าง นภ พรชำนิ, ป๊อด-ธนชัย อุชชิน, บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์, เบน-ชลาทิศ ตันติวุฒิ และ น้อย-กฤษดา สุโกศล แคลปป์ (น้อย Pru) กับ 5 ศิลปินหญิงที่ร่วมงานกับ ดี้ นิติพงษ์ มานานอย่าง แอม-เสาวลักษณ์ ลีละบุตร, คริสติน่า อากีล่าร์, ใหม่ เจริญปุระ, มาช่า วัฒนพานิช และ นัท-มีเรีย เบนเนเดดตี้
ความน่าสนใจของงาน The Lyrics Of Love : Greatest Hits of Dee & Boyd ก็คือการที่ทางทีมงานและศิลปินต้องร้อยเรียงเพลงจาก 2 นักแต่งเพลงเข้าด้วยกัน เหมือนกับการต่อจิ๊กซอว์ชิ้นใหญ่ และการที่จะมีการแลกเพลงกันร้องของศิลปินทั้งฝั่งชายและหญิง เนื่องจากทั้ง 10 นักร้องที่ขึ้นแสดงงานนี้ล้วนแล้วแต่มีลายเซ็นและคาแรคเตอร์ชัดเจน จนทำให้เราคิดว่าจะต้องได้เห็นผลงานเพลงของ ดี้ และ บอย ที่ถูกตีความใหม่ และเราเองก็นั่งรออย่างใจจดใจจ่อเพื่อให้ถึงงานวันจริง
เมื่อมาถึงงานในวันที่ 13 นั้น เราเองก็ได้พบปัญหาแรก ก็คือการที่คอนเสิร์ตเริ่มช้ากว่ากำหนดครึ่งชั่วโมง แต่ทว่าในที่สุดงานก็เริ่มขึ้นเมื่อสไลด์อินโทรแนะนำศิลปินถูกเปิดและ ใหม่ เจริญปุระ ขึ้นร้องเพลง “ใคร” ของบอย ก่อนตามด้วย น้อย Pru ที่ร้องเพลง “อาจจะเป็นคนนี้” ของ แหวน-ฐิติมา สุตสุนทร ที่แต่งโดย ดี้ นิติพงษ์ ซึ่งเหมือนแทนความรู้สึกของการตามหาความรัก ก่อนที่อีก 8 ศิลปินจะสลับสับเปลี่ยนมาร้องเพลงที่แทนความรักรูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นการต้อนรับผู้ชมเข้าสู่การแสดงครั้งนี้ จนทำให้ความรู้สึกเนือยๆ ที่ต้องรอคอยหายไป กลายเป็นความสุขจากการได้ฟังเพลงแทน
เพื่อเป็นการต้อนรับแฟนๆ ดี้ และ บอย ก็ได้ขึ้นเวทีและแสดงโชว์ของพวกเขา โดยร้องเพลง “เข้าใจ” ที่ดี้ทำขณะเป็นสมาชิกวง เฉลียง และ “จะเก็บเธออยู่ในใจเสมอ” ของบอยพร้อมพูดคุยอย่างออกรสชาติถึงประสบการณ์ที่ผ่านมา และ อายุที่เพิ่มขึ้นพร้อมเซลฟี่กลางเวที ก่อนส่งไม้ต่อให้ 10 ศิลปินขึ้นมาร้องเพลงพวกเขา โดยเริ่มจาก 5 หนุ่ม Bakery ที่มาร้องเพลง “หมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ” ของ เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ ที่แต่งโดย ดี้ นิติพงษ์ ก่อนที่ แอม, คริสติน่า, ใหม่, มาช่า และ นัท จะร้องเพลง “ช่วงที่ดีที่สุด” ของบอย โกสิยพงษ์ ซึ่งการแสดงดังกล่าวก็มาพร้อมเสียงไมค์หอนระหว่างแสดงที่ทำเราแอบตกใจ ก่อนที่ทั้ง 5 ศิลปินหญิงจะพูดคุยอย่างออกรสชาติ โดยเน้นการเผาบุคลิกที่ดูตลกโปกฮาของพวกเธอ จนเราแอบเสียดายว่าทำไมฝั่งศิลปินชายไม่มีการพูดคุยแบบนี้
หลังจากที่โชว์เพลงกลุ่ม ทั้ง 10 ศิลปินก็ผลัดกันมาร้องเพลงของตัวเองที่แต่งโดยดี้และบอย โดย น้อย Pru ที่มากับเพลง “ทุกสิ่ง” พร้อมลีลาการเคลื่อนไหวที่ทำให้เราวางตาไม่ได้ ก่อนตามด้วยเพลง “ไว้ใจ” ของ หนุ่ย-อำพล ลำพูน โดยนอกจาก 10 ศิลปินจะโชว์เพลงสร้างชื่อของตัวเองที่มาจากปลายปากกา ดี้ กับ บอยแล้ว แฟนๆ ได้ฟังเพลงของทั้งสองนักแต่งเพลงที่ถูกถ่ายทอดผ่านเสียงที่คาดไม่ถึง อย่างเช่นเพลง “ทิ้งรักลงแม่น้ำ” ของ Y Not 7 ที่ถ่ายทอดด้วยเสียงในแบบฉบับดีโว่ เบน ชลาทิศ, เพลง "ผ้าเช็ดหน้า" ของ Triumphs Kingdom ที่ถ่ายทอดโดยราชินีป็อปแดนซ์อย่าง คริสติน่า, "เพลง "สักวันหนึ่ง" ของบอยที่ มาช่า เลือกมาร้อง เพลง “ยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บ” ของ Inca ที่ร้องโดย นภ พรชำนิ พร้อมดนตรีที่ถูกเรียบเรียงใหม่จนจำต้นฉบับแทบไม่ได้ รวมถึงเพลง “ปราสาททราย” ของ สุรสีห์ อิทธิกุล ที่ร้องโดย ป๊อด ธนชัย ที่เรียกเสียงกรี๊ดจากหลายๆ คน
นอกเหนือจากโชว์ที่เกริ่นก่อนหน้านี้ เราก็ชอบการถ่ายทอดเพลง “รัก” ของ แอม เสาวลักษณ์ ที่บอย โกสิยพงษ์ แต่งให้ อัญชลี จงคดีจิต ซึ่งเราประทับใจเรื่องราวของแอมในวันที่เธอพยายามตีความบทเพลงดังกล่าว และการแสดงของ บุรินทร์ ที่มาโชว์ “คาใจ” ของ เจ-เจตริน วรรธนะสิน หลังร้องเพลงจังหวะสนุกๆ อย่าง "Hormones" ที่เปิดโอกาสให้ได้แสดงเสน่ห์ตัวเองทั้งในส่วนของเสียงร้องและการเคลื่อนไหวร่างกายตามจังหวะที่ทำให้สาวๆ กรี๊ด รวมถึง นัท ที่ถ่ายทอดของบอยอย่าง “ฉันดีใจที่มีเธอ” ให้กับคุณแม่ที่เพิ่งเสียชีวิต พร้อมน้ำตาที่เอ่อล้นออกมา แต่นัทก็สามารถร้องเพลงนี้ได้จนจบท่ามกลางเสียงปรบมือของผู้ชม
ระหว่างช่วงการแสดงเดี่ยวของคอนเสิร์ต ก็มีการโชว์เพลงคู่ของ 10 ศิลปิน อย่างเช่น นัท มีเรีย และ เบน ชลาทิศ ที่ขอเซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยเพลง “เก็บดาว” ของ บอย โกสิยพงษ์ ในขณะที่ มาช่า กับ น้อย Pru ขอร้องเพลง “ลงเอย” ของ อัสนี-วสันต์ โชติกุล หลังเล่าเรื่องวันวานที่เคยเกือบได้ร่วมงานกัน ส่วน บุรินทร์ และ คริสติน่า ที่เคยร่วมงานกันบนเวทีคอนเสิร์ต Christina Kingdom มาในเพลง “หยุด” ของวง Groove Riders ที่ บอย เป็นผู้ประพันธ์ ก่อนที่ แอม และ ป๊อด จะร้องเพลง “ครึ่งหนึ่งของชีวิต” ที่ดี้แต่ง และ ใหม่ กับ นภ ที่ขอโชว์ความสนุกสนานในเพลง “ลมหายใจ” ของบอย ซึ่งการแสดงร้องคู่ก็มีอีกหลายเพลงที่แฟนๆ คาดไม่ถึง โดยเราเองก็ชอบทุกโชว์และมองว่าทุกคู่มีความดีงามในแบบฉบับตัวเอง
ในการร้องเพลงคู่นั้น พาร์ทที่เราชอบและรู้สึกประหลาดใจเมื่อชมคือการแสดงของ นัท และ เบน กับคู่ของ ใหม่ และ นภ ที่มีน้ำเสียงและสไตล์ดนตรีต่างกันชัดเจน โดยเฉพาะคู่ของ ใหม่ และ นภ ที่มีโทนเสียงต่างกันมาก แต่กลับมีเคมีการแสดงที่เข้ากันจนทำให้เราแอบเซอร์ไพรส์ จนเราคิดว่าอาจจะมีบางคนจับทั้งสองเป็นคู่จิ้นกันหลังงานจบ
เบน ชลาทิศ และ นัท มีเรีย
ใหม่ เจริญปุระ และ นภ พรชำนิ
ช่วงท้ายงานก่อนการแสดงจบก็เป็นช่วงการแสดงรวมอีกครั้ง โดยทั้ง 10 ศิลปินได้สับเปลี่ยนมาร้องเพลงดังของบอยอย่าง “เหมือนเคย”, “หัวใจผูกกัน” และ “ฤดูที่แตกต่าง” รวมถึงเพลงที่ดี้ นิติพงษ์ แต่งอย่าง “คิดถึงฉันไหมเวลาที่เธอ...” ของ Taxi, “เรามีเรา” ของ แหวน ฐิติมา และเพลงปิดท้ายค่ำคืนอย่าง “รักเธอเสมอ” ของ อัสนี วสันต์ โดยทั้ง 6 เพลงที่เตรียมมาเปรียบเสมือนการให้กำลังใจและคำบอกรักผู้ชมของ 10 ศิลปิน และดี้กับบอย ซึ่งทำให้เรารู้สึกอบอุ่นใจ
โดยรวมแล้วการแสดงของ 10 ศิลปินที่มาขึ้นแสดงงานครั้งนี้ก็ออกมาดี เพราะถึงแม้เวลาแต่ละคนจะมีน้อย แต่ทุกคนก็สามารถแสดงออกคาแรคเตอร์และความสามารถได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น น้อย Pru ที่โชว์พลังทั้งเสียงร้องและการเคลื่อนไหวที่คาดเดาไม่ได้ การแสดงที่เท่ของ นภ และ บุรินทร์ โชว์ของ เบน และ ป๊อด ที่มาพร้อมมาดสุขุมแต่เต็มไปด้วยพลัง รวมถึง นัท, ใหม่ และ คริสติน่า ที่เป็นตัวแทนของรสชาติความเปรี้ยวแซ่บของงานครั้งนี้ เนื่องจากพวกเธอได้นำเพลงเร็วมาสร้างบรรยากาศความสนุก ในค่ำคืนที่โชว์ส่วนใหญ่เป็นเพลงช้า
อีกสิ่งที่เราชื่นชอบเกี่ยวกับการแสดงของ 10 ศิลปิน ก็คือการที่เราได้เห็นความสามารถที่คาดไม่ถึง รวมถึงได้ฟังเพลงที่เหนือความคาดหมาย อย่างเช่นการแสดงของ มาช่า ที่เธอนำกีตาร์โปร่งมาเล่นบนเวทีพร้อมโชว์เสียงหวานๆ อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นการแสดงที่หลายคนเห็นไม่บ่อย หรือการที่ คริสติน่า ได้ปรับการร้องที่นุ่มนวลให้เข้ากับเพลง “ผ้าเช็ดหน้า” ที่มีจังหวะและคำร้องที่รัวเร็ว และ แอม เสาวลักษณ์ ที่เลือกเพลงที่เหนือความคาดหมายอย่าง "รัก" และ "ตุ๊กตาเพื่อนเก่า" มาเพื่อถ่ายทอดความสามารถและอารมณ์เพลงที่เธอตีความด้วยตัวเอง โดยงานนี้เราเองก็ได้ฟังเรื่องราวมิตรภาพที่น่ารักของ 10 นักร้องในงานนี้ด้วย อย่างเช่นเหตุการณ์ที่มาช่าเข้าชิงรางวัลศิลปินพร้อม น้อย Pru ในเวทีประกาศรางวัลแห่งหนึ่งจนทำให้ทั้งคู่รู้จักและเกือบได้ร่วมงานกันในคอนเสิร์ตใหญ่งานหนึ่ง และได้ชมฉากที่น้อยชมการร้องเพลง "สักวันหนึ่ง" ของมาช่า หรือการที่ แอม และ ป๊อดรู้จักกันจากกิจกรรมทำบุญ ซึ่งทั้งคู่ก็ชวนแฟนๆ ทำสมาธิหายใจเข้าออกบนเวทีจนสร้างเสียงหัวเราะให้คนทั้งฮอลล์
ทางพาร์ทดนตรีนั้น วง Future Band ก็ได้เรียบเรียงเพลงทั้งหมดออกมาได้ดีและส่งเสริมการแสดงอย่างเหมาะสม ถึงจะมีเหตุการณ์ไมค์หอนในโชว์เพลง "ช่วงที่ดีที่สุด" แต่อรรถรสการแสดงก็ไม่ได้หายไป ซึ่งสิ่งที่เราชอบมากสุดเกี่ยวกับคอนเสิร์ตนี้ ก็คือพาร์ทการร้องประสานเสียงในโชว์เพลงรวม เพราะทั้ง 10 ศิลปินมีเสียงต่างกัน แต่ทางทีมงานนักดนตรีและตัวศิลปินก็สามารถออกแบบการร้องและไลน์ประสานได้เหมาะกับทุกโชว์
ส่วน Atime Showbiz เองก็ทำภาพรวมของงานออกมาได้ดีเช่นเดิม แม้จะมีจุดผิดพลาดในแง่ของเวลาเริ่มงาน เสียงไมค์หอน รวมถึงการออกแบบเวทีให้เป็นทรงวงรีที่ทำให้หน้าจอบนเวทีไม่สามารถถูกทำเป็นทรงสี่เหลี่ยม จนทำให้ภาพการแสดงที่ถูกฉายบนจอบางส่วนออกมาไม่สมบูรณ์ แต่องค์รวมแล้วทางผู้จัดสามารถส่งเสริมการแสดงได้ดี ทั้งมีการโปรยกระดาษสร้างบรรยากาศในเพลงซึ้งๆ อย่าง “เก็บดาว” และ “รักเธอเสมอ” การจัดหานักดนตรีและแดนเซอร์ที่เหมาะสม ไปจนถึงการทำสคริปต์และสตอรี่ในงานที่ชวนอมยิ้ม ซึ่งเราเองประทับใจงานครั้งนี้ในส่วนของสคริปต์พอสมควร เพราะทาง Atime ได้ปรับสคริปต์จนฉีกแพทเทิร์นเดิมๆ ที่พวกเขาเคยทำมา อย่างเช่นการปิดโชว์ด้วยเพลงเนื้อหาอบอุ่น จากแต่ก่อนที่มักจะปิดด้วยเพลงเร็ว หรือการให้ เบน, นภ และ ป๊อด สามารถไปแสดงในโซนที่นั่งแบบใกล้ชิดผู้ชม ที่เปิดโอกาสให้หลายๆ คนได้ใกล้ชิดศิลปินคนโปรด โดยทั้ง 3 ก็เป็นกันเองกับแฟนๆ มากขณะเดินอยู่ด้านล่างเวที ทั้งจับมือและถ่ายรูปกับแฟนๆ ที่วิ่งมาหา
แต่ท้ายที่สุดแล้ว คนที่เราอยากจะขอบคุณมากที่สุด คือ ดี้ นิติพงษ์ และ บอย โกสิยพงษ์ ที่รังสรรค์บทเพลงฮิตที่มาสร้างความสุขตลอดระยะเวลา 4 ชั่วโมงในงานวันนี้ โดยผลงานที่พวกเขาทำออกมาได้ให้ความบันเทิงกับผู้ฟังมากมาย บางเพลงเปรียบเสมือนกำลังใจที่อยู่เคียงข้างเราในวันที่ความเศร้ามาเยือน หรือ สอนให้เราเข้าใจความรักมากขึ้น ในขณะที่ความสำเร็จของทั้งสองก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนดนตรีหลายๆ คนที่อยากสร้างสรรค์ผลงานด้วยปลายปากกา รวมถึงศิลปินก็ได้แจ้งเกิดและประสบความสำเร็จจากผลงานที่พวกเขาประพันธ์ และเราหวังว่าพวกเขาทั้งสองจะสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ และ เป็นกำลังสำคัญให้กับวงการดนตรีต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด
ขอบคุณภาพจาก Atime Showbiz
Story : Sidhipong W.
อัลบั้มภาพ 20 ภาพ