BLACKPINK is the Revolution! คอนเสิร์ตรอบอังกอร์ที่เป็นบทสรุปของเกิร์ลกรุ๊ปแนวหน้าของโลก
32 คอนเสิร์ต 24 เมือง ใน 18 ประเทศ และยังรวมถึงเทศกาลดนตรีระดับโลกอย่าง Coachella ที่ได้ขึ้นโชว์ในฐานะเกิร์ลกรุ๊ป K-POP วงแรก เป็นเครื่องพิสูจน์ความสำเร็จของ 4 สาว เจนนี่ โรเซ่ จีซู และ ลิซ่า BLACKPINK จาก YG Entertainment ที่เกิดขึ้นระหว่างทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกที่เริ่มครั้งแรกนอกประเทศเกาหลีที่ประเทศไทยไปเมื่อวันที่ 11-13 ม.ค. 62 และหลังจากทัวร์ในอเมริกา และยุโรปแล้ว ยังวกกลับมาจัด encore ในประเทศไทยอีกครั้ง 3 วันรวดเช่นเคย ในวันที่ 12-14 ก.ค. 62 ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี และแน่นอนว่างานนี้ผู้จัดอย่าง Applewood Korea และ Applewood Thailand ต้องยิ้มแก้มปริแน่ๆ เพราะบัตรคอนเสิร์ต sold out ทุกที่นั่งภายในเวลาไม่กี่นาทีเช่นเคย
BLACKPINK 2019 WORLD TOUR [IN YOUR AREA] BANGKOK : ENCORE ในครั้งนี้กว่า 70% เป็นเพลงเดิม โชว์แบบเดิมกับคอนเสิร์ตครั้งที่แล้ว สามารถอ่านรีวิวอย่างละเอียดได้ที่นี่ ทั้งเซ็ตฉากต่างๆ และ VTR ในโชว์ก็ยังเหมือนเดิม ที่มีเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยคือการเพิ่มในส่วนของเพลงใหม่อย่าง “Kill This Love” ใน VTR และในโชว์ และเพลงใหม่จากมินิอัลบั้มล่าสุดอย่าง "Don't Know What to Do", "Kick It" และ "Hope Not" ที่แฟนๆ ร้องตามกันได้อย่างพร้อมเพรียง แม้ว่าจะเป็นเพลงใหม่ก็ตาม
ไฮไลต์ของโชว์อย่างช่วงโซโล่ มีการจัดเรียงลำดับเพลงใหม่เล็กน้อย แต่เพลงที่ร้องยังคงเป็นเพลงเดิม คือ โรเซ่ที่มากับเมดเลย์ 3 เพลง “Let It Be / You & I / Only Look At Me” สาวจีซูที่มากับเพลง EDM โชว์เสียงเพราะๆ อย่าง “Clarity” เพลง “Solo” ของ เจนนี่ แต่ที่ทำให้โลกออนไลน์ต้องสะเทือนคงหนีไม่พ้นโชว์ของ ลิซ่า สาวไทยของเรากับเพลง “Take Me / Swalla” ที่เปลี่ยนไลน์เต้นเป็นท่าสุดแซ่บที่กระแสอออนไลน์แตกเป็นสองเสียงว่า ดุเด็ดเผ็ดมันจนไม้เรียงในมือสั่นไปหมด (แซวขำๆ ว่าเซ็กซี่เกินไป) และอีกฝ่ายหนึ่งที่มองว่าท่าเต้นในครั้งนี้ “แรง” เกินงามไปนิด ดูไม่สวยงาม ไม่แพงเหมือนก่อน แต่สำหรับเรา เราขอบคุณสำหรับความตั้งใจของลิซ่าที่คิดเปลี่ยนท่าเต้นในโชว์ encore เพื่อไม่ให้แฟนเพลงเบื่อ ต้องดูโชว์ซ้ำเดิม และลิซ่าก็เต้นได้แข็งแรง องศาของท่าชัดเจน และอาจจะเพราะรูปร่างผอมบาง (เหลือเกิน) ของลิซ่า จึงไม่ได้ดูเซ็กซี่เกินงามในสายตาเราเท่าไร แต่สำหรับเรื่องนี้ใครจะมองอย่างไร เป็นเรื่องความคิดเห็นส่วนตัวของแต่ละคน ไม่มีใครถูกใครผิด
การเพิ่มเพลงใหม่เข้ามา ทำให้การ encore ในครั้งนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพราะมีเพลงให้แสดงมากขึ้นนั่นเอง แทนที่คอนเสิร์ตจะจบลงด้วยเพลงซ้ำเดิมอย่าง “Stay” ก็เปลี่ยนเป็นเพลงใหม่อย่าง “Hope Not” โดยรวมการแสดงของทั้ง 4 สาวยังคงคุณภาพเอาไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม ทั้งเต้นทั้งร้องยังคงทำออกมาได้ดี ดูแล้วรู้ว่าเป็นผลมาจากการฝึกหนัก รวมถึงการแสดงในครั้งนี้เป็นโชว์หลังจากที่พวกเธอทัวร์คอนเสิร์ตมารอบโลกมากกว่า 30 ครั้งด้วยนั่นเอง
แต่ในเรื่องของปฏิสัมพันธ์กับคนดู สาวๆ ยังคงมีความเขิน พูดน้อย เอนเตอร์เทนไม่เก่งนักเหมือนเดิม โดยเฉพาะรอบแรกคือรอบวันศุกร์ที่ 12 ก.ค. ที่เราได้ชม ทุกครั้งที่สาวๆ ถือไมค์พูดคั่นระหว่างโชว์ จะเป็นคำพูดขอบคุณแฟนๆ ที่มาให้กำลังใจพวกเธอทั้งสิ้น และยังแอบเห็นก้มมองสคริปต์พูดกันอยู่บ่อยๆ แม้ว่าจะเป็นประโยคเบสิคๆ ก็ตาม (วันอาทิตย์ที่ 14 ก.ค. จะดูพิเศษหน่อยที่สาวๆ กล่าวขอบคุณแฟนๆ ทั้งน้ำตา ส่วนตัวรู้สึกว่าคอนเสิร์ตค่อยๆ สนุกมากขึ้นจากวันแรกๆ) แต่ที่สาวๆ ทำได้ดีขึ้นมาก คือ fan service ที่เราจะเห็นสาวๆ กอดกัน หอมแก้มกัน แสดงความรักให้แก่กันอย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึงช็อตเต้นในช่วงที่วงดนตรีสดเล่นดนตรีให้ฟังกันยาวๆ ก็เห็นได้ชัดว่าพวกเธอแสดงบนเวทีกันจนสามารถครองเวทีได้อย่างอยู่หมัด แต่อีกนัยหนึ่ง การที่พวกเธอไม่ได้พูดเก่งมากนัก อาจเป็นเสน่ห์ในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่แสดงความเป็นธรรมชาติของพวกเธอออกมาได้อย่างชัดเจนที่สุด และการที่ศิลปิน YG ไม่เคยใช้ล่ามในคอนเสิร์ตเลยแม้แต่ครั้งเดียว ก็เป็นเครื่องยืนยันว่าสาวๆ BLACKPINK เลือกที่จะพูดคุยกับแฟนเพลงด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นภาษาใดก็ตาม โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางแต่อย่างใด
นับว่าเป็นโชคดีที่เราได้เห็นคอนเสิร์ตในโชว์ระดับโลกทั้งสองครั้ง ได้ฟังเพลงฮิตติดหูที่นาทีนี้ต้องบอกว่า ไม่มีใครไม่รู้จัก BLACKPINK ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนเพลงสายเกาหลี สายเพลงไทย หรือเพลงสากลก็ตาม สมกับประโยคที่ว่า BLACKPINK is the Revolution! และไม่ว่าใครที่ตกลงปลงใจเป็น BLINK แล้ว ก็ยากจะถอนตัวขึ้น ไม่ใช่แค่เพราะความสามารถเกินตัวของทั้ง 4 สาว แต่ด้วยความน่ารัก สดใส เป็นธรรมชาติ และความจริงใจของพวกเธอที่มีให้กับแฟนเพลงมันเห็นได้ชัดเจนมากจริงๆ เห็นทีครั้งหน้าผู้จัดคงต้องเตรียมย้ายสถานที่ไปราชมังฯ แล้วล่ะ เพราะนับวันจำนวน BLINK ทั้งไทยและต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน อย่างที่เจนนี้กล่าวในคอนเสิร์ตว่า “นี่เพิ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของพวกเราเท่านั้น”
__________________
Story : Jurairat N.
Photos : Applewood Thailand
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ