"Westlife The Twenty Tour" ชั่วโมงต้องมนตร์ทางเสียงดนตรี ของบอยแบนด์ที่ชาวไทยรอมา 18 ปี
ตั้งแต่ที่เปิดตัวอัลบั้มชุดแรกในปี 1999 วงบอยแบนด์จากประเทศไอร์แลนด์อย่าง Westlife เจ้าของเพลงฮิต "My Love", "Swear It Again", "Fool Again", "I Lay My Love on You" และอีกมากมายก็ได้ครองใจคนทั่วโลกด้วยผลงานอัลบั้มเต็ม 10 ชุด และอีกหลายชุดพิเศษที่มียอดขายรวมกันมากกว่า 55 ล้านก๊อบปี้ และสามารถเดินทางจัดทัวร์คอนเสิร์ตมากกว่า 10 รอบ พร้อมทั้งเคยแวะเวียนมาสร้างความสุขให้แฟนๆ ชาวไทยด้วย
ถึงแม้จะเคยประกาศแยกวงในปี 2012 แต่ในปี 2018 สมาชิกอย่าง Shane Filan, Mark Feehily, Kian Egan และ Nicky Byrne ก็ได้กลับมารวมตัวเพื่อปล่อยผลงานใหม่ และประกาศเตรียมทัวร์คอนเสิร์ต ซึ่งทำให้แฟนๆ ชาวไทยหลายคนลุ้นที่จะได้ชมงานครั้งนี้ เพราะถึงแม้ว่า Westlife จะห่างหายจากการจัดคอนเสิร์ตในไทยมาตั้งแต่ปี 2001 ที่พวกเขาจัดคอนเสิร์ต Where Dreams Come True Tour แต่แฟนๆ ชาวไทยก็ยังหลงรักงานเพลงของ Westlife ไม่เสื่อมคลาย ซึ่งหลายคนก็โตมากับเพลงของวง หรือแม้แต่เรียนภาษาอังกฤษจากเนื้อร้องผลงานของพวกเขา >> Westlife คอนเฟิร์มมาไทย 24 ก.ค. นี้กับ The Twenty Tour Live in Bangkok
และในที่สุดแฟนๆ ก็ได้ทราบข่าวดีเมื่อทางวงและผู้จัด BEC-Tero Entertainment ได้ยืนยันว่าพวกเขาจะมีคอนเสิร์ต Westlife The Twenty Tour Live in Bangkok 2019 ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2019 ซึ่งจะเป็นการแสดงแรกของทัวร์นี้ในเอเชีย โดยเมื่อแฟนๆ ได้ทราบข่าวทุกๆ คนก็จับจองที่นั่งในอิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี จนทำให้บรรยากาศของงานเต็มไปด้วยความครึกครื้นเหมือนเป็นงานคืนสู่เหย้าของวัยรุ่นยุค 2000 ตอนต้นที่โตมากับเพลง Westlife เพราะนี่คือครั้งแรกในรอบ 18 ปีที่แฟนๆ ชาวไทย จะได้ชมการแสดงของพวกเขา ซึ่งตอนที่เข้างานเราก็ได้ยินเสียงแฟนๆ ที่เข้าแถวตรวจสัมภาระพูดคุยแชร์ความทรงจำเกี่ยวกับวงกับเพื่อนที่มา
เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 2 ทุ่มครึ่ง เราก็ก้าวเข้าฮอลล์คอนเสิร์ตและนั่งรอสักพักใหญ่จนเกือบสามทุ่ม ก่อนการแสดงเริ่มขึ้นด้วย VTR ความสำเร็จของวงและการภาพร้องประสานเสียงของสมาชิกทั้ง 4 กับเพลง "Swear It Again" ก่อนตามด้วยคลิป VTR ที่มีเสียงเพลง "Hit You With the Real Thing" และในที่สุด Shane, Mark, Kian และ Nicky ก็ปรากฏตัวพร้อมเพลงใหม่ "Hello My Love" ที่เปรียบเสมือนคำทักทาย และโชว์เพลง "Swear It Again" แบบเต็มๆ หลังเรียกน้ำย่อยในคลิปจนทุกคนร้องตามกันสนั่นฮอลล์ ก่อนทักทายทุกคนอย่างเป็นทางการและงัดเพลง "What About Now", "My Love" และ "When You're Looking Like That" มาแสดง ซึ่งการแสดงพาร์ทแรกก็ทำให้เราตื่นเต้นกับพลังเสียงของทั้งสี่ที่เป๊ะและได้อารมณ์เข้มข้น
ช่วงที่ 2 ของโชว์เมื่อ VTR การ์ตูนที่เปรียบเทียบการเตรียมตัวเพื่อคอนเสิร์ตเหมือนงานสายลับจบลง พวกเขาก็มาสร้างความสนุกต่อด้วยเพลง "Uptown Girl" และยังแอบสอดแทรกเพลงจากอัลบั้มใหม่ชุด Spectrum อย่าง "Better Man" เข้าไปในโชว์ด้วย โดยถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีอายุมากขึ้น แต่ในแง่การเอนเตอร์เทนพวกเขาก็ยังทำได้ดี แม้ว่าเวทีจะไม่มีเอฟเฟกต์ฉูดฉาดหรือสมาชิกจะไม่ได้โชว์ไลน์การเต้นที่ตื่นตา
ด้วยความที่วง Westlife โดดเด่นในแง่ของการคัฟเวอร์เพลงของศิลปินอื่นมาร้องในสไตล์ตัวเอง ทำให้ในงานคอนเสิร์ตนี้พวกเขาเลือกร้องเพลงของวง Queen อย่าง "Another One Bites the Dust", "Radio Ga Ga", "I Want to Break Free", "Somebody to Love", "We Will Rock You" และ "We Are the Champions" ที่ถูกเรียบเรียงใหม่ โดย Kian เองก็ได้เซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยการโซโล่กีตาร์ไฟฟ้าที่เป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีที่เขาถนัด ซึ่งทำให้เราทึ่งในความเป็นร็อคสตาร์ที่แฝงอยู่ในตัว 4 หนุ่ม เพราะ 20 ปีที่ผ่านมาเราได้จดจำเขาในภาพของการเป็นป็อปสตาร์มาตลอด
Kian Egan
อีกหนึ่งเสน่ห์ที่วง Westlife โชว์ออกมาในงานครั้งนี้ก็คือความเป็นกันเอง โดยหลังจากโชว์เพลง "I Have a Dream" จบ พวกเขาก็มานั่งเก้าอี้หมุนและพูดคุยกับแฟนๆ อย่างเป็นกันเองราวกับเป็นงานแฟนมีตติ้งพร้อมเซอร์วิสแฟนๆ ด้วยการร้องเพลงอย่าง "Fool Again" แบบอะคูสติก ก่อนตามด้วยการนำเพลงที่ชาวไทยชอบ แต่ไม่อยู่ในเซ็ทลิสต์อย่าง "Seasons in the Sun", "I'm Already There", "I Lay My Love on You", "Bop Bop Baby" และ "More Than Word" มาร้องเล่น รวมถึงเพลง "Zombie" ของ The Cranberries ซึ่งทางวงเองก็ได้ชื่นชมนักร้องนำผู้ล่วงลับอย่าง Dolores O’Riordan ก่อนที่จะร้องเพลงใหม่ "Dynamite" บนเวทีแบบเต็มๆ เป็นครั้งแรกในทัวร์นี้ กับปิดท้ายโชว์ด้วยเพลง "You Raise Me Up" ที่มาพร้อมป้ายโปรเจกต์ "Beside You Forever" ที่แฟนๆ เตรียมมา ซึ่งเป็นสิ่งที่สมาชิกคาดไม่ถึง จนทั้ง 4 ก็ได้กล่าวว่า พวกเราจะอยู่กับพวกคุณตลอดไปเช่นกัน
แม้ว่าพวกเขาจะอำลาเวทีไปแล้ว แต่แฟนๆ ก็ยังคงเรียกร้องให้สมาชิกทั้ง 4 กลับมาแสดงต่อในพาร์ทอังกอร์ ในเพลง "Flying Without Wings" และ "World of Our Own" ภายใต้ชุดสีขาว เพื่อบอกลาแฟนๆ แต่ในขณะเดียวกันก็สัญญาว่าพวกเขาจะกลับมาใหม่เร็วๆ นี้
ตลอดระยะเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง สมาชิก Westlife ได้โชว์พลังเสียงและเพลงดังที่สะกดคนดู และเราแทบไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าพวกเขาจะโชว์อะไรต่อไป โดยงานนี้แฟนๆ ได้ฟังเพลงดังของวงอย่างเต็มอิ่มถึงแม้จะมีอุปสรรคในแง่ซาวด์ที่แห้งไปบ้าง รวมถึงการที่ Shane ที่ปัญหาเล็กน้อยเวลาร้องท่อนเสียงสูงของเพลงวง Queen หรือ Mark ที่ให้คนดูร้องในท่อนพีคๆ ในขณะที่หลายคนอยากฟังเสียงเขาร้องมากกว่า แต่โดยรวมแล้วการแสดงของวงก็เพลิดเพลินและดึงดูดจนเราอยากลิสต์ไว้ว่า "Westlife คือศิลปินที่คุณควรจะชมการแสดงสดของพวกเขาสักครั้ง"
Shane Filan
แม้จะได้ชมความสามารถที่หลากหลายของศิลปิน แต่เราเองเสียดายเสียดายที่คอนเสิร์ตครั้งนี้มีเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง เพราะยังมีเพลงดังอีกมากของวงที่แฟนๆ อยากฟังอย่างเช่น "Mandy" และ "Home" ที่หายไปจากเซ็ทลิสต์คอนเสิร์ตไทย หรือเพลงจากอัลบั้ม Spectrum รวมถึงทำให้หลายคนพลาดโอกาสที่จะได้ฟังเพลง "Fool Again" กับ "Seasons in the Sun" แบบเต็มๆ ในรูปแบบ Full Performance ที่มีดนตรีเต็มรูปแบบ และในขณะเดียวกันพาร์ทการแสดงเพลง Queen ก็ใช้เวลาค่อนข้างนาน ซึ่งโชว์นี้อาจจะไม่เหมาะกับคนที่คิดจะมาฟังเพลงของ Westlife เป็นหลัก ถึงเราจะชอบการแสดงพาร์ทนี้มากก็ตาม เพราะได้เห็นความเป็นร็อคสตาร์ของทั้ง 4 และได้เห็น Kian โชว์ความสามารถในการเล่นกีตาร์ของเขา
Nicky Byrne
นอกจากความสามารถทางดนตรีแล้ว การเอนเตอร์เทนและเคมีการรับส่งมุกของสมาชิกก็ดีมาก เพราะพวกเขาได้เอาใจแฟนๆ ด้วยการพูดคุยอย่างเป็นกันเอง พร้อมทำการบ้านมาอย่างดีว่าชาวไทยชอบเพลงอะไร และนำเพลงเหล่านั้นมาเซอร์ไพรส์แฟนๆ แม้จะไม่ได้อยู่ในเซ็ทลิสต์ก็ตาม พร้อมทั้งยกมุกฮาๆ เกี่ยวกับการเล่นโซเชียลของพวกเขา หรือการที่หลายๆ คนมักมั่วเนื้อขณะร้องเพลงของวงที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
Mark Feehily
การกลับมาครั้งนี้ของ Westlife นั้นเต็มไปด้วยความอบอุ่นและบันเทิงที่เกินความคาดหมายไปมาก ถึงแม้จะมีปัญหาในแง่ของการขายของที่ระลึกของวง เพราะบางสินค้ามาถึงบริเวณงานในเวลาทุ่มนึง ซึ่งใกล้เวลางานมาก และมาในปริมาณที่น้อยจนทำให้หลายๆ คนพลาดโอกาสที่จะเป็นเจ้าของ แต่ในความวุ่นวายก็ยังคงมีความโชคดีเพราะสตาฟท์สามารถช่วยเหลือผู้เข้าร่วมงานได้ดีพอสมควรจนทำให้ทุกคนสามารถเข้าบริเวณงานได้ค่อนข้างตรงเวลา
สำหรับเราแล้ว การกลับมาของวงใน Westlife The Twenty Tour Live in Bangkok 2019 ได้สร้างความอบอุ่นใจและจนเวลา 1 ชั่วโมงครึ่งของงานเปรียบเสมือนชั่วโมงต้องมนตร์ที่ทำให้เราลืมเวลา และในขณะเดียวกันก็รู้สึกเสียใจเมื่อความสนุกต้องจบลง ซึ่งความสุขในงานก็ทำให้เราอยากดูคอนเสิร์ตโปรโมตอัลบั้มใหม่ๆ ของพวกเขาในอนาคต จนเราตั้งปณิธานไว้ว่า "นี่จะไม่ใช่คอนเสิร์ต Westlife ครั้งสุดท้ายของเราแน่นอน"
ขอบคุณภาพจาก Live Nation BEC-Tero และ Unusual Entertainment
Story : Sidhipong W.
>> BTS เนื้อหอม! Westlife บอยแบนด์รุ่นพี่เผย "อยากร่วมงานด้วย"
>> พรหมลิขิตหรือตั้งใจ Ed Sheeran แต่งเพลงรอ Westlife กลับมารวมตัวอีกครั้ง
อัลบั้มภาพ 22 ภาพ