“Singing Bird ครั้งที่ 1” สุนทรียภาพอันไม่รู้จบเมื่อ “เบิร์ด ธงไชย” ตามใจผู้ฟัง (วันแรก)
30 ปีผ่านมา ซูเปอร์สตาร์อย่าง เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ ได้เสิร์ฟความสุขให้แฟนๆ ด้วยเสียงเพลง และการแสดงที่มีอะไรใหม่ๆ เสมอ จนทำให้เขาเข้าไปอยู่ในใจคนทุกหย่อมหญ้า และเป็น “พี่เบิร์ด” ของแฟนๆ ทุกช่วงอายุไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่
ที่ผ่านมา เบิร์ด ธงไชย มีผลงานเพลงดังมากมาย ทั้งแนวสนุกสนาน แนวเศร้า ซึ่งเราเองก็เชื่อว่าทุกๆ คนก็น่าจะมีเพลงของเบิร์ดที่ชอบต่างกันไป และสิ่งนี้ก็ทำให้เกิดงาน Singing Bird ครั้งที่ 1 ตอน "เพลงตามคำขอ" ที่ทาง GMM Grammy ได้เปิดโอกาสให้เบิร์ดได้ร้องและแสดงเพลงตามการโหวตเลือกของแฟนๆ ในวันที่ 2-4 สิงหาคม พ.ศ. 2562 ที่ รอยัล พารากอน ฮอลล์ >> "เบิร์ด ธงไชย" จัดคอนเสิร์ตใหญ่ “Singing Bird” เปิดโอกาสให้แฟนๆ เลือกเพลงที่อยากฟัง
เมื่อได้ยินธีมงาน เราเองก็สงสัยทันทีว่างานจะออกมาในรูปแบบไหน เพราะเบิร์ด ธงไชย เป็นศิลปินที่มีผลงานนับไม่ถ้วน ซึ่งทุกๆ คนก็น่าจะมีเพลงในดวงใจแตกต่างกันไป ทั้งคนที่ชอบเพลงเก่าอย่าง “ฝากฟ้าทะเลฝัน” หรือบางคนอาจจะชอบเพลงใหม่ของเบิร์ดจากอัลบั้ม Mini Marathon ซึ่งการจะเอาเพลงทั้งหมดมาร้อยเรียงเป็นโชว์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ในวันที่ 2 สิงหาคม เราก็ได้มาชมงาน ซึ่งก็มีคนดังรวมไปถึงแฟนๆ ที่มีอายุต่างกันตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่วัยเกษียณที่มาร่วมชม ซึ่งการแสดงเองก็เริ่มเกือบตรงเวลา เมื่อวงดนตรีแบ็คอัพได้เล่นโหมโรงต้อนรับเบิร์ดที่ขึ้นเวทีมาร้องเพลง “กลับมาอยู่กลางใจเธอ”, “เหมือนเป็นคนอื่น”, “หัวใจช้ำๆ”, “ฝากไว้” และ “บันทึกหน้าสุดท้าย” ที่ล้วนแล้วแต่มีเนื้อหาสื่อถึงการพบกัน
และพอกล่าวต้อนรับผู้ชม พร้อมเดินทักทายจับมือแฟนๆ เสร็จ เบิร์ดก็ร้องเพลงที่แฟนๆ โหวตเข้ามามากที่สุดอันดับต้นๆ ทันที ไม่ว่าจะเป็นเพลงช้า “ขอบใจจริงๆ”, เพลงที่มีดนตรีป็อปร็อคอย่าง “ผู้ชายอย่างฉัน” ไปจนถึงเพลงอาร์แอนด์บีอย่าง “ห่วงใย” โดยเบิร์ดได้ใช้สคริปต์ที่เล่าถึงที่มาของผลงานเหล่านี้ เพื่อเชื่อมเพลงที่แตกต่างเข้าด้วยกัน
เมื่อการแสดงพาร์ทแรกจบ แขกรับเชิญคนแรกอย่าง แสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข ก็ปรากฏตัวพร้อมเพลง “พริบตา” จากอัลบั้ม Bird Mini Marathon ที่เขาร้องคู่กับเบิร์ดก่อนตามด้วยเพลง “น้ำตา” ซึ่งเขาแต่งให้เบิร์ด นอกจากนี้ตัวแสตมป์ยังได้เลือกร้องเพลง “ไม่อาจหยั่งรู้” ของเบิร์ด พร้อมเซอร์ไพรส์ด้วยการงัดเพลง “ความคิด” ของตัวเองมาโชว์จนผู้ชมกรี๊ดทั้งฮอลล์
หลังจากที่แสตมป์ลงจากเวที อีก 3 แขกรับเชิญอย่าง โบ-สุนิตา จรรยาธนากร, โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม แชมป์เวที The Star ค้นฟ้าคว้าดาว 8 และ หมิว-วริศรา อภิรักษ์เดชาชัย นักร้องวง Boom Boom Cash ก็เป็นอีกแขกรับเชิญที่มาร่วมสร้างสีสัน โดยทั้ง 3 ศิลปินที่มีเบิร์ดเป็นไอดอลได้ร่วมแจมในเพลง “ต้องโทษดาว”, “พอจะมีสิทธิ์ไหม” เวอร์ชั่นพิเศษ และเพลง “บัลลังก์เมฆ” ที่มาพร้อมทีมนักแสดงที่เสริมทัพโชว์ให้เต็มอิ่ม
สำหรับแขกรับเชิญคนสุดท้ายของงานนี้ก็คือ โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร ที่ได้มาร่วมเล่นเปียโนในเพลง “มีแต่คิดถึง” พร้อมพูดคุยและแสดงพาร์ทที่เรียกว่า Talk & Show ที่เขานำเพลงของ เบิร์ด ธงไชย ที่ตรงกับความรักรูปแบบต่างๆ อย่าง “คนไม่มีแฟน”, “เถียงกันทำไม” และ “เล่าสู่กันฟัง” โดย เบิร์ด ก็ได้แกล้งแซวโต๋เรื่องความรักกับผู้ประกาศข่าวอย่าง ไบรท์-พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ จนเกิดเสียงกรี๊ดสนั่นฮอลล์
นอกจากเพลงรักที่อบอุ่นแล้ว เบิร์ด ก็ยังได้หยิบผลงานที่สร้างความอิ่มใจของเขามาร้องด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพลง “โลกสวยด้วยมือเรา” ที่มีกลุ่มคอรัสเด็กมาร่วมแสดง หรือเพลง “ฝากฟ้าทะเลฝัน” ที่แจ้งเกิดเขาในฐานะศิลปิน ก่อนที่จะเซอร์ไพรส์ทุกๆ คนด้วยการร้องเพลง “มือน้อย” ของ เต๋อ-เรวัต พุทธินันทน์ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง GMM Grammy โดยคลิปของ เต๋อ เรวัต ขณะร้องเพลงดังกล่าวก็ถูกฉายขึ้นบนจอราวกับว่าเขากับเบิร์ดกำลังร้องเพลงด้วยกัน ซึ่งเมื่อเพลงดังกล่าวจบ เบิร์ด ก็ร้องเพลง “บ้านหลังน้อย” ที่คุณพ่อ เจมส์ แมคอินไตย์ แต่ง พร้อมโชว์เพลงในความทรงจำตอนเด็กอย่าง “ลาวคำหอม” ประกอบดนตรีเครื่องสายจากวง Singing Bird
ช่วงสุดท้ายของงาน เบิร์ด เองก็ได้ร้องเพลง “เงียบๆ คนเดียว”, “ก้อนหินกับนาฬิกา”, “เหนื่อยไหม” และ “คู่แท้” ซึ่งเขาขอให้แฟนๆ ร้องตาม ก่อนที่จะร้องเพลง “หมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ” และผลงานที่ถูกโหวตจากแฟนๆ ให้ร้องมากที่สุดอย่างเพลง “ด้วยรักและผูกพัน” พร้อมแขกรับเชิญภายใต้กระดาษโปรยเพื่ออำลาทุกคนในเวลา 5 ทุ่มตรง
ถึงแม้ว่างาน Singing Bird ครั้งที่ 1 จะมีเซ็ทลิสต์เพลงที่มากถึง 40 เพลง ซึ่งล้วนมีแนวดนตรีที่ต่างกัน แต่เบิร์ดก็ทำทุกโชว์ออกมาได้ดี สมกับการที่เขาได้เตรียมตัวฝึกซ้อมร้องเพลงสำหรับงานครั้งนี้เป็นเวลาเกือบ 4 เดือนกับครูสอนร้องเพลงแถวหน้าอย่าง โรจน์-รุ่งโรจน์ ดุลลาพันธ์ และในขณะเดียวกันเพลงในงานนี้ก็เต็มไปด้วยความหลากหลาย ตั้งแต่ผลงานชุดแรกมาจนถึงปัจจุบัน >> "ครูโรจน์" เผยตารางซ้อมสุดเป๊ะของ "เบิร์ด ธงไชย" ก่อนขึ้นคอนเสิร์ต "Singing Bird"
อีกสิ่งที่ไม่ธรรมดาเกี่ยวกับเบิร์ด ธงไชย ก็คือเสน่ห์ในการพูดคุยของเขา เพราะเนื่องจากงานครั้งนี้มีเพลงที่แตกต่างกัน ทำให้หลายๆ พาร์ทต้องมีสคริปต์ที่เป็นจุดเชื่อมระหว่างเพลง แต่เบิร์ดก็พูดคุยกับแฟนๆ อย่างเป็นกันเอง พร้อมยิงมุกตลกเป็นระยะๆ จนทำให้บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่น ซึ่งเราจะไม่แปลกใจเลย ถ้าเกิดมีผู้ชมคนไหนติดแฮชแท็กว่า #พี่เบิร์ดเป็นคนตลก
โดยนอกจากความตลกแล้ว อีกสิ่งที่เราชอบมากก็คือการที่เบิร์ดได้สอดแทรกคำขอบคุณให้กับทีมงาน รวมถึงทีมนักดนตรีแบ็คอัพระหว่างโชว์หลายๆ รอบ ต่างจากหลายๆ โชว์ที่ศิลปินจะขอบคุณทีมงานตอนจบงานครั้งเดียว ซึ่งทำให้เรารู้สึกว่าเขาให้เกียรติทีมงานมาก
ทางฝั่งของแขกรับเชิญทั้ง 5 เองก็ทำหน้าที่ได้ดี โดยสคริปต์ของงานก็เปิดโอกาสให้พวกเขาได้โชว์เสน่ห์ของตัวเอง อย่างเช่นบุคลิกที่เป็นกันเองของ แสตมป์ และ โต๋ รวมไปถึงความสามารถด้านการใช้เสียงที่หลากหลายของ โบ, โดม และ หมิว ซึ่งตัวเราจะไม่แปลกใจเลยถ้าแฟนคลับของเบิร์ด จะเริ่มสนับสนุนทั้ง 5 แขกรับเชิญหลังงานจบ
ส่วนภาพรวมงาน ทางทีมผู้จัดก็ทำออกมาได้ดี ทั้งในพาร์ทการร้อยเรียงเพลงทั้งหมดเป็นภาพใหญ่ ไปจนถึงการคัดสรรนักดนตรีมากความสามารถมาสนับสนุนโชว์ ไม่ว่าจะเป็นมิวสิคไดเร็กเตอร์อย่าง โหน่ง-วิชญ วัฒนศัพท์ ผู้สร้างสรรค์สกอร์ประกอบภาพยนตร์ในนาม Hualampong Riddim หรือคอนดักเตอร์อย่าง แจ็ค-อภิสิทธิ์ วงศ์โชติ ซึ่งอยู่เบื้องหลังซาวด์ดนตรีเพลง “เรา” ของ Cocktail ที่ดูแลภาพรวมดนตรีเครื่องสาย หรือทีมคอรัสที่นำโดย ก้อย-ชิดชนก มัญชุรัตน์ และ เกี้ย-ชุติกาญจน์ พิมลวงศ์ ผู้เป็นคนเบื้องหลังโชว์รายการร้องเพลงอย่าง The Mask Singer จึงไม่แปลกว่าทำไมพาร์ทดนตรีงานนี้ถึงแข็งแรงและส่งเสริมการแสดงได้ค่อนข้างดี
ในมุมมองของเราปัญหาที่เจอกับงาน Singing Bird ครั้งนี้ก็มีแค่การที่เสียงของเบิร์ดแอบจมไปกับเสียงดนตรีในบางพาร์ท หรือการที่บางครั้งเสียงไมค์ของเบิร์ดแอบเบาไปอย่างเช่นตอนร้องเพลง “พริบตา” และการที่เกิดเหตุสับสนเล็กน้อยในส่วนของการฝากของ ที่ป้ายรับฝากหมด แต่ทางทีมงานก็แก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้ดี ด้วยการติดป้ายไว้ที่สัมภาระซึ่งมีเบอร์โทรศัพท์ผู้ฝากติดอยู่
ตลอดระยะเวลา 4 ชั่วโมงในงาน เราเองก็สัมผัสได้ว่า คอนเสิร์ต Singing Bird ครั้งที่ 1 ตอน "เพลงตามคำขอ" ไม่ใช่แค่งานที่มีขึ้นเพื่อเล่นเพลงตามคำขอของแฟนๆ แต่คืองานที่เขาเปิดโอกาสให้ทุกคนได้สัมผัสตัวตนเขามากขึ้น และก็เป็นงานที่เต็มไปด้วยความตั้งใจของ เบิร์ด ธงไชย ที่อยากมอบความสุขให้แฟนๆ ที่รอมานาน ไม่ว่าจะเป็นการได้ใกล้ชิดศิลปินที่พวกเขารัก หรือการสานฝันให้แขกรับเชิญที่ล้วนแล้วแต่มองเบิร์ดเป็นไอดอล ซึ่งความตั้งใจทั้งหมดนี้ก็ทำให้เรารู้สึกอิ่มใจและอยากรู้มากว่าคอนเสิร์ต Singing Bird รอบต่อไปจะเป็นแบบไหน และจะมีความพิเศษอะไรที่เหนือความคาดหมายอีกบ้าง
ขอบคุณภาพจาก GMM Grammy
Story : Sidhipong W.
>> 10 ศิลปินไทย ที่ "เบิร์ด ธงไชย" ควรร่วมงานด้วยสักครั้ง
>> “แบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์” รีเทิร์น ความสนุกจากซูเปอร์สตาร์พลังบวก “เบิร์ด ธงไชย”
>> เฌอปราง นำทีม "BNK48" เล่าความประทับใจ หลังขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ "เบิร์ด ธงไชย"
อัลบั้มภาพ 20 ภาพ