JAMnight Live! with Toro y Moi ราตรีที่หยุดขยับแข้งขาไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!
คงไม่มีคำกล่าวใดที่จะเหมาะสมไปกว่า สมศักดิ์ศรีแห่งการเป็นเจ้าพ่อชิลเวฟอย่างแท้จริง นี่คือโชว์ที่เต็มไปด้วยกรู๊ฟแห่งความสุข สุขในแบบที่อธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้หลังจากคอนเสิร์ต JAMnight Live! with Toro y Moi โดย HAVE YOU HEARD? สิ้นสุดลง
Chaz Bundick หรือที่ในวงการรู้จักด้วยชื่อเสียงเรียงนามว่า Toro y Moi บินตรงสู่ประเทศไทย กับความตื่นเต้นของบรรดานักดนตรีและนักฟังเพลงตัวจริงเสียงจริง เพราะนักร้อง นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกันวัย 32 ปีผู้นี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นอีกหนึ่งอัจฉริยะในวงการเพลงแห่งยุค จากการหยิบจับสีสันดนตรีแนวต่างๆ มาผสมผสานให้อยู่ในกรู๊ฟชวนโยกได้อย่างน่าหลงใหล จนกลายเป็นศิลปินตัวเอ้ที่เทศกาลดนตรีน้อยใหญ่ทั่วโลกต่างต้องการ
อุ่นเครื่องให้สถานที่จัดแสดงอย่าง Voice Space คึกคักกันก่อนเสียหน่อยกับ Gym and Swim วงทรอปิคอลป็อปสัญชาติไทยที่พักหลังๆ ออกเดินสายทัวร์คอนเสิร์ตตามประเทศต่างๆ ในแถบเอเชียอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยความที่ดูวงดนตรีวงนี้ติดๆ กันมาหลายงาน จึงทำให้ไม่เห็นความแตกต่างนัก ทว่าทั้ง 5 สมาชิกก็ยังคงความเป็นตัวของตัวเอง ทั้งในเรื่องไลน์คมๆ ของพาร์ตดนตรี รวมถึงเพอร์ฟอร์แมนซ์สนุกๆ มุขฮาๆ ติดปลายนวมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งพวกเขาก็นำทุกเพลงฮิตมาจัดวางได้อย่างไหลลื่นไม่ว่าจะเป็น “Don’t Leave Me Behind”, “Yuuwahuu”, “Octopussy” หรือแม้แต่ล่าสุดอย่าง “Fifa20”
Gym and Swim
บอกเลยว่า ณ ขณะนั้นร่างกายพร้อมมาก เหมือนได้จ็อกกิ้งรอบ Voice Space ไปแล้ว 3-4 รอบกับ Gym and Swim รอคอยให้ Toro y Moi ก้าวขึ้นสู่เวที ซึ่งในวินาทีดังกล่าวมันเป็นอะไรที่เรียบง่ายมากๆ แต่ก็เท่มากๆ เช่นกัน เพราะเวทีด้านหลังไม่ได้มีวิชวลใดๆ แม้แต่นิดเดียว แต่กลับฉาบสีส่องสว่างไปทั่ว ทีมนักดนตรีแบ็คอัพก้าวขึ้นเวทีด้วยยูนิฟอร์มสีส้ม ส่วนพระเอกของเรามีเพียงเสื้อยืนสกรีนชื่อตนเองแบบสะท้อนแสงห่อหุ้มร่างกาย
Toro y Moi
เริ่มต้นด้วยความเนิบๆ จาก “Mirage” แต่กลับพาทุกคนในฮอลล์เข้าสู่ภวังค์แห่งท่วงทำนองชิลเวฟได้แสนง่ายดาย ก่อนจะขยับบีตขึ้นมาแบบจัดจ้านด้วย “Rose Quartz” และกลับมาสู่การเคลื่อนย้ายร่างกายแบบเบาๆ อีกครั้งกับ “No Show” และพาทุกคนเต้นรำไปกับอีกหนึ่งเพลงดัง “Ordinary Pleasure” ในกลิ่นอายดิสโก้
หลังจากนั้น Toro y Moi ก็จัดหนักให้แฟนเพลงชาวไทยอีกถึง 15 แทร็กแบบยาวๆ ทั้งชวนเต้น ดำดิ่ง โยกตัวกันพองาม อาทิ “Monte Carlo”, “Girl Like You”, “50-50”, “So Many Details”, “Say That”, “Baby Drive It Down” เป็นต้น และปิดท้ายด้วย “Freelance” ที่ทำเอาฮอลล์กระหึ่มจากทั้งเสียงร้องตามในท่อน “อาๆๆๆ เอๆๆๆ” และเท้าที่ไม่อยู่นิ่ง คือไม่ว่าเทมโป้จะช้าหรือเร็ว ผู้คนด้านล่างก็พร้อมจะเคลื่อนไหวไปกับบีตและกรู๊ฟอย่างเต็มอกเต็มใจเป็นที่สุด
การได้รับสมญานามว่าเจ้าพ่อชิลเวฟไม่ได้เป็นเรื่องเกินจริงแต่อย่างใด แถมในการแสดงสด Toro y Moi ยังเพิ่มมิติที่น่าสนใจในพาร์ตดนตรีเข้าไปแบบ... โอ้โห เก่งและเท่มาก มันเป็นความลงตัวที่ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป ซึ่งกรู๊ฟในแต่ละเพลงที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นนั้นมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป ทว่ายังคงความเป็นตัวตนของตัวศิลปินเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม
ซาวด์โดยรวมช่วงแรกเหมือนจะยังหาจุดลงตัวอยู่พอสมควร แต่เมื่อเข้าที่แล้วก็ยาวๆ กันไปทั้งคืน แต่ที่ไม่ต้องสรรหาอะไรใดๆ คงต้องยกให้ซาวด์กลองชุดที่สแนร์จูนได้เพราะมาก เครื่องทองเหลืองน้อยชิ้น เสริมด้วยแพดอีกเล็กน้อย แต่ได้ยินแล้วดีงามกับโสตประสาทเสียเหลือเกิน และที่ดีงามไปกว่านั้นคงต้องยกให้เสียงซินธิไซเซอร์อันหลากหลาย บ้างก็ร่วมสมัย บ้างก็เก๋ากึก ทว่าเมื่อมันดังก้องขึ้นก็สามารถดึงดูดเราเข้าไปในเพลงได้ไม่ยากเย็น ด้านไลท์ติ้งก็น้อยๆ แต่พองาม ซึ่งถือเป็นจุดแข็งในการขับเน้นบรรยากาศที่เป็นเอกเทศในแต่ละเพลงได้ดีทีเดียว
มากไปกว่านั้นเรายังมองว่า การเดินไปเรื่อยๆ โดยรอบบนเวทีของ Toro Y Moi กลายเป็นองค์ประกอบศิลป์ที่น่าสนใจสำหรับการแสดงสด อาจจะด้วยตำแหน่งของมือคีย์บอร์ด มือเบส และมือกลองที่ถูกจัดวางเอาไว้อย่างตั้งใจ ซึ่งเมื่อ Toro Y Moi เดินไปสู่จุดต่างๆ ก็ทำให้เกิดมิติตื้นและลึกที่ผู้ชมสามารถสัมผัสได้ด้วยตาเปล่า ยิ่งเผื่อผสานเข้ากับอารมณ์อันแตกต่างของแต่ละเพลง ก็ยิ่งทำให้ JAMnight Live! with Toro y Moi เป็นโชว์ที่แทบจะสมบูรณ์แบบในทุกด้าน
ด้วยความสัตย์จริง ความรู้สึกหลังโชว์จบในค่ำคืนนั้นไม่ได้หวังให้ Toro y Moi กลับมาเยือนเมืองไทยอีกครั้ง แต่หวังให้เขาเล่นต่อไปอีกสักชั่วโมงสองชั่วโมงได้ไหม อารมณ์ความสนุกยังค้างอยู่เลย!
Story by: Chanon B.
Photos by: Krirakrit Worawetkulsage/HAVE YOU HEARD?
อัลบั้มภาพ 54 ภาพ