6 เหตุการณ์ยังคงตราตรึงจาก Flume Live in Bangkok
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ภาพจากคอนเสิร์ตใดคอนเสิร์ตหนึ่งจะยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำแม้เวลาจะล่วงเลยผ่านมาสักพัก มันต้องมีอะไรบางอย่างที่ติดอยู่ในหัวสมอง คั่งค้างอยู่ในความรู้สึก สำหรับผู้เขียน Flume Live in Bangkok จัดโดย White Noise คือคอนเสิร์ตที่สามารถทำเช่นนั้นได้โดยไม่มีข้อโต้แย้ง
ณ ค่ำคืนหนึ่ง ณ เซ็นเตอร์พ้อยท์ สตูดิโอ ซอยลาซาล สถานที่แห่งนี้ไม่ได้จัดคอนเสิร์ตมานานนม และถือเป็นเวนิวลำดับต้นๆ ในใจของผู้เขียน ด้วยระบบเสียงที่ “ไม่เคย” ทำให้ผิดหวัง ผู้คนต่างหลั่งไหลมารอ Flume หรือในชื่อจริงว่า Harley Edward Streten ดีเจและโปรดิวเซอร์ชาวออสเตรเลีย เหตุผลสำคัญก็มีอยู่ไม่กี่ประการนักหรอก
แรกสุดก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาคือดีเจที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งของยุคนี้ ต่อมาคงเป็นเรื่องของสุ้มเสียงทางดนตรีที่ไม่ค่อยจะเหมือนใคร แต่เอกลักษณ์ถือว่าจัดจ้าน สามก็คือหลากหลายเพลงของ Flume กลายเป็นเพลงชาติในงานปาร์ตี้อย่างง่ายดาย ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็ “Never Be Like You” นั่นแหละ แถมยังมีการแสดงสดที่เร่งเร้าอารมณ์พลุ่งพล่านเป็นที่สุด และที่สำคัญ เขาชนะรางวัลแกรมมี่ อวอร์ดส์ เป็นที่เรียบร้อยแล้วจากสาขา Best Dance/Electronic Album กับอัลบั้ม Skin นั่นเอง ทั้งหมดทั้งมวล... ตอนนี้เขาอายุอานามเพียง 27 ปี
การแสดงสดเต็มรูปแบบของ Flume ในเมืองไทย จึงเป็นอะไรที่น่าดูน่าชมเป็นอย่างยิ่ง และนี่คือ 6 เหตุการณ์ยังคงติดตาตรึงใจจาก Flume Live in Bangkok
06 Pyra สาวคนนี้มีดีกว่าหน้าตา
แม้จำนวนผู้ชมจะยังไม่มากนัก แต่ศิลปินเปิดคนแรกของงานอย่าง Pyra ก็สามารถสร้างความตกตะลึงไปทั่วฮอลล์ได้อย่างน่าทึ่ง ไม่ใช่เพียงเพราะเธอมีรูปร่างและหน้าตาที่ดี แต่เป็นเพราะเธอมี “จิตวิญญาณ” ของความเป็นศิลปินต่างหาก บีตอิเล็กทรอนิกส์หลากหลายสไตล์ ตะวันตกบ้าง เอเชียนบ้าง ที่สอดแทรกไลน์กีตาร์แปลกแปร่งพอเป็นบรรยากาศ เพลงของ Pyra ไม่ได้เข้าถึงง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถ
แต่ที่ต้องกล่าวชมสุดตัวสุดหัวใจก็คือเรื่องของเอเนอร์จี้ที่ล้นเหลือ วิ่งพล่านทั่วเวที จู่ๆ ก็ลงมากลางฮอลล์ด้านล่าง ปืนบันไดขึ้นไปร้องเพลง แล้วก็ลงจากบันไดมาให้แฟนๆ ได้กอดเธอแบบฟรีๆ แถมเซลฟี่ให้อีกต่างหาก บอกเลยว่า “ลูกบ้า” ของศิลปินสาวคนนี้น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง มีเพียงเรื่องความแข็งแรงของร่างกายที่ช่วงท้ายของโชว์มีอาการหอบเล็กน้อย รวมถึงความคมของโชว์ที่ยังเพิ่มความเด็ดขาดลงไปได้อีกตามชั่วโมงบิน
05 วอร์มร่างกายเดือดๆ กับ KH
หากเอ่ยชื่อเพียงแค่ KH หลายคนอาจสงสัย แต่ชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน ขันเงิน เนื้อนวล แห่ง Thaitanium นั่นเอง คราวนี้เขาขอสวมบทบาทการเป็นดีเจแบบฉายเดี่ยว ซึ่ง... หนุ่มขันก็ทำได้ตามมาตรฐานจากที่เคยดูในครั้งก่อนๆ และดูเหมือนว่าลิสต์เพลงในคราวนี้จะค่อนข้างมีความ “แมส” พอสมควร นั่นอาจทำให้โชว์ของ KH ไม่ได้พีค และเราก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือเซอร์ไพรส์มากสักเท่าไหร่ ที่เด็ดมากๆ คงต้องยกให้วิชวลด้านหลังที่เสมือนกับว่าเรากำลังดูมิวสิควิดีโอเพลงสากลอย่างไรอย่างนั้น อย่างไรก็ตามถือได้ว่าเป็นการวอร์มร่างกายที่ยอดเยี่ยมเอามากๆ ในการเตรียมต้อนรับ Flume ในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า
04 มากกว่าคำว่า “การแสดงสด”
ล่วงเลยมาสู่ Flume Live in Bangkok อย่างเต็มภาคภูมิ ไม่รู้จะเรียกว่า “คอนเสิร์ต” หรือ “การแสดงสด” ได้เต็มปากหรือไม่ เพราะตลอดทั้งโชว์มีคำมากมายผุดเข้ามาในหัว ไม่ว่าจะเป็น “ละครเวที”, “ผลงานศิลปะ” หรือแม้กระทั่ง “อุปรากร” สิ่งที่เกิดขึ้นบนเวทีไม่มีช็อตไหนที่คาดเดาได้แม้สักช็อตเดียวว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ไล่เรียงมาตั้งแต่การพ่นสเปรย์คำว่า Hi, This is Flume. การเจาะเหล็กจนเกิดประกายไฟ การทุบทำลายข้าวของบนเวที ทีมงานขึ้นมาปัดกวาดเช็ดถู แถมทุกสิ่งทุกอย่างถูกนำไปใส่บนจอยักษ์ด้านหลัง ด้วยการจัดวางอย่างมีชั้นเชิง และเต็มไปด้วยองค์ประกอบศิลป์ ทุกอย่างผ่านการ “ดีไซน์” อย่างละเอียดยิบทุกนาที... ไม่สิ ทุกวินาทีด้วยซ้ำไป
03 Never Be Like You
ไม่ต้องรอให้ถึงเพลงท้ายๆ หรือแม้กระทั่งช่วงอังกอร์ Flume จัดเพลงที่เรียกได้ว่าดังที่สุดของเขาอย่าง “Never Be Like You” มาตั้งแต่เพลงที่ 3 หรือ 4 เลยมั้ง คือบรรยากาศตอนนั้นรู้สึกเหมือนอยู่ในเฟสติวัลต่างประเทศ ทุกคนต่างร้องตาม โบกไม้โบกมือไปตามท่วงทำนอง ฟินสุดอะไรสุดกับการได้ฟังเพลงนี้ในราตรีนั้น
02 ซาวด์ระดับโลก
อย่างที่เกริ่นไปในช่วงแรกของบทความว่า เซ็นเตอร์พ้อยท์ สตูดิโอ ไม่เคยทำให้ผิดหวังกับเรื่องระบบเสียง Flume Live in Bangkok ก็เช่นกัน ซาวด์ดีในระดับที่ว่า ไม่ว่าคุณจะเดินไปอยู่ในจุดไหน คุณจะได้ยินเสียงเดียวกันทุกพื้นที่... เราไม่ได้อวย แต่มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ และยิ่งเมื่อผสมผสานกับไลท์ติ้งสุดอลังการ มันคือความตื่นตาตื่นใจอันน่าหลงใหล
ความยาวของโชว์ราวๆ ชั่วโมงครึ่งนั้นไม่ได้ทำให้โสตประสาทถูกทำร้ายแม้แต่นิดเดียว และยิ่งบีตของ Flume นั้นไม่ใช่ท่วงทำนองแบบ EDM ดาษดื่นทั่วไป มีการเล่นกับจังหวะทางดนตรีที่แปลกและแตกต่างออกไป นั่นทำให้เราได้ฟังเพลงอิเล็กทรอนิกส์ในแบบที่ไม่ต้องเน้นเบสอึกทึกครึกโครม อีกทั้งโชว์ของดีเจหนุ่มคนนี้ยังเต็มไปด้วยไดนามิก มีช่วงให้พัก มีช่วงกระแทกกระทั้น นั่นคือเสน่ห์ในแบบ Flume ที่เปิดประสบการณ์ใหม่ในการดูการแสดงสดของเราอย่างแท้จริง
01 Flume ทำให้รู้ว่า “การลืมหายใจเป็นเช่นไร”
เมื่อ Flume Live in Bangkok จบลง บอกตามตรงว่าเรารู้สึกเหนื่อยไม่น้อย นั่นอาจเป็นเพราะเราตั้งใจดูโชว์ของเขา พยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ และมันไม่สามารถละสายตาไปจากเวทีได้เลย เรากลับมาย้อนคิดว่า เมื่อสักครู่เราลืมหายใจไปชั่วขณะหรือไม่... มันอาจจะเป็นเช่นนั้น
ที่กล่าวชมมามากมายก็ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องติ ก็คงจะเป็นเรื่องที่จอดรถที่ค่อนข้างแคบ ทำให้การจราจรเมื่อโชว์สิ้นสุดลงนั้นติดขัดอยู่นานเอาการ รวมถึงทางเข้าฮอลล์ซึ่งใช้เพียงประตูเดียว ส่งผลให้ก่อนโชว์ของ Flume จะเริ่มขึ้นเกิดความแออัดอยู่บ้างนั่นเอง
แต่ท้ายที่สุดเราขอยกให้ Flume Live in Bangkok เป็นอีกหนึ่งโชว์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดประจำปีนี้ การรับชมสิ่งแปลกตาแปลกหูออกไปคือสิ่งที่หลายคนถวิลหา และ Flume ได้สร้างประสบการณ์การชมคอนเสิร์ตรูปแบบใหม่ให้คอเพลงและคอปาร์ตี้ชาวไทย จนเราขอยกให้เขาเป็น “ปีศาจร้ายแห่งวงการอิเล็กทรอนิกส์” ที่สรรสร้างอะไรให้เกิดขึ้นก็ได้ ตราบใดที่เขาอยู่บนเวที... บนดินแดนแห่ง Flume อันแสนมหัศจรรย์
อัลบั้มภาพ 52 ภาพ