12 เพลงดังที่คุณอาจไม่รู้ว่ามีอายุเท่าเว็บไซต์ “Sanook”
เป็นเวลา 21 ปีแล้วที่เว็บไซต์ Sanook ได้อยู่คู่ชาวไทยพร้อมนำเสนอข้อมูลและความบันเทิงรูปแบบใหม่ๆ ให้ผู้อ่านได้รับชมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นข่าวไทยและต่างประเทศ รวมไปจนถึงการอัปเดตผลงานละคร ภาพยนตร์ และงานเพลงใหม่ของศิลปินทั่วทุกมุมโลก
ช่วงปีพ.ศ. 2541 ที่เว็บไซต์ Sanook เปิดตัว ศิลปินไทยและเทศหลายๆ คนก็ได้ถือโอกาสปล่อยเพลงของตัวเองออกมา ซึ่งหลายๆ ผลงานที่ออกมาก็ประสบความสำเร็จและเป็นที่นิยมมาถึงปัจจุบัน ซึ่งทำให้วันนี้ทาง Sanook Music ขอนำเรื่องราวน่าสนใจของเพลงเหล่านั้นมาให้ทุกคนได้ชมกัน
1. กะโปโล - นิโคล เทริโอ
หลังจากที่เข้าร่วมชายคา GMM Grammy ศิลปินหญิงเสียงสดใส นิโคล เทริโอ ก็ได้แจ้งเกิดพร้อมผลงานอัลบั้มชุดแรกที่มีชื่อว่า กะ-โป-โล-คลับ พร้อมเพลงโปรโมตอย่าง “กะโปโล” ที่ทำให้แฟนๆ ได้เห็นภาพลักษณ์อันสดใสของนิโคล ถึงแม้ว่าในปีที่ออกอัลบั้มดังกล่าว เธอจะมีอายุ 26 ปีแล้วก็ตาม เพราะเธอหน้าตาเด็กกว่าวัยมาก
ความโด่งดังของเพลงในอัลบั้ม และเสน่ห์ของนิโคล ส่งให้ผลงานชุด กะ-โป-โล-คลับ มียอดขายทะลุล้านตลับ ซึ่งเป็นความสำเร็จที่ไม่ธรรมดาสำหรับศิลปินใหม่ในเวลานั้นอย่าง นิโคล เทริโอ ซึ่งปัจจุบันนี้เธอก็ยังคงมีผลงานให้แฟนๆ ได้ชมเรื่อยๆ ในฐานะศิลปินรุ่นใหญ่
2.ยาม - Labanoon
นอกจากนิโคลแล้ว Labanoon ก็เป็นอีกศิลปินที่แจ้งเกิดในปี พ.ศ. 2541 หลังเข้าร่วมแข่งเวที Hotwave Music Awards โดยพวกเขาปล่อยอัลบั้มชุด นมสด กับค่าย Music Bugs ซึ่งมาพร้อมเพลงรักอย่าง “ยาม” ที่มาพร้อมดนตรีป็อปร็อคที่เป็นเอกลักษณ์ของวง
แม้ว่าในตอนนั้นค่าย Music Bugs จะไม่ใช่ค่ายใหญ่ แต่อัลบั้ม นมสด ของ Labanoon ก็มียอดขายล้านก๊อปปี้ และทำให้วงได้มีอัลบั้มชุด 191 และ คนตัวดำ ตามมา ซึ่งปัจจุบันนี้วงก็ได้มาอยู่กับค่าย genie records และมีผลงานชุดที่ 8 N.E.W.S. ออกมาในปี พ.ศ. 2559 โดยเพลง “เชือกวิเศษ”, “พลังงานจน”, “แพ้ทาง”, “ฉันก็คง” และ “ใจกลางเมือง” จากชุดนี้ล้วนแล้วแต่มียอดชมทะลุร้อยล้านครั้ง
3. ประเทือง - ไท ธนาวุฒิ
ช่วงปีพ.ศ. 2541 ศิลปินป็อปร็อคอย่าง ไท ธนาวุฒิ (ธนาวุฒิ ชวธนาวรกุล) ได้เปิดตัวผลงานชุดแรกที่ใช้ชื่อว่า ประเทือง ที่มาพร้อมเพลงโปรโมทที่ใช้ชื่อเดียวกัน ที่เล่าถึงความรู้สึกผู้ชายที่ตกหลุมรักคนคนหนึ่ง ก่อนจะพบความลับที่คาดไม่ถึงของคนที่เขาปลื้มเมื่อหันหน้ามาสบตากัน จนเกิดท่อนฮุคสุดเกรี้ยวกราดที่ร้องว่า “ว้าย!..ว้าย!..นี่ไอ้ประเทืองนี่หว่า”
ความโด่งดังของเพลง “ประเทือง” ได้ส่งให้ ไท ธนาวุฒิ กลายเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ตัวอัลบั้มซึ่งมีชื่อเดียวกับเพลงก็ประสบความสำเร็จ โดยเพลงอย่าง “ใช่เลย” ที่เป็นอีกผลงานจากอัลบั้มชุดนี้ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนเพลง จนหนุ่มๆ หลายคนต้องขอนำเพลงนี้ไปใช้จีบสาว
4. ซมซาน - Loso
การกลับมาในปีพ.ศ. 2541 ของวง Loso พร้อมอัลบั้ม Loso Entertainment ได้สร้างความตื่นเต้นอย่างมากให้กับวงการเพลงไทย เพราะอัลบั้มดังกล่าวมียอดขาย 2 ล้านชุด ถึงแม้ว่าจะปล่อยออกมาหลังประเทศไทยเจอวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งก็ตาม
นอกจาก “ผมอยากเห็นหน้าคุณ” และ “แม่” อีกหนึ่งเพลงดังจากอัลบั้ม Loso Entertainment อย่าง “ซมซาน” ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากมีเนื้อหาที่บอกเล่าความรู้สึกแอบรักของผู้ชายคนหนึ่งที่พบนางในฝัน จนเกิดอาการว้าวุ่นเมื่อรอคอยที่จะได้พบเธอคนนั้น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่หนุ่มๆ หลายคนน่าจะเคยเจอ
5. ถ่านไฟเก่า - เบิร์ด ธงไชย
ซูเปอร์สตาร์เมืองไทยอย่าง เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ เป็นอีกหนึ่งศิลปินคัมแบ็กปล่อยอัลบั้มในปี พ.ศ. 2541 กับผลงานชุด ธงไชย เซอร์วิส ที่มียอดขายเกินล้านตลับ โดยหนึ่งในเพลงดังจากผลงานชุดนี้ก็คือ “ถ่านไฟเก่า” ซึ่งเบิร์ดได้ถ่ายทอดความรู้สึกของคนที่กังวลว่าคนรัก กำลังจะปันใจไปรักคนในความทรงจำ พร้อมโชว์เทคนิคการร้องที่ไม่ธรรมดา เนื่องจากเพลงนี้การใช้เรนจ์เสียงที่สูงต่ำสลับไปมา
เพลง “ถ่านไฟเก่า” นั้นนอกจากจะอยู่ในอัลบั้มชุด ธงไชย เซอร์วิส แล้ว ผลงานนี้ก็ได้รวมอยู่ในอัลบั้มพิเศษอย่าง ธงไชย เซอร์วิส พิเศษ ที่มียอดขาย 9 แสนก๊อปปี้ และยังเป็นหนึ่งในเพลงของ เบิร์ด ธงไชย ที่มักจะได้ความชื่นชอบจากแฟนๆ จนถูกเลือกให้มาแสดงในงาน Singing Bird ครั้งที่ 1 ตอน “เพลงตามคำขอ” >> “Singing Bird ครั้งที่ 1” สุนทรียภาพอันไม่รู้จบเมื่อ “เบิร์ด ธงไชย” ตามใจผู้ฟัง (วันแรก)
6. ชั๊บ..ชั๊บ..ชั๊บ - เจมส์ เรืองศักดิ์
ในบรรดาศิลปินค่าย RS เจมส์-เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ ถือเป็นอีกหนึ่งนักร้องขวัญใจวัยรุ่นยุค 90 ซึ่งความสำเร็จระดับล้านตลับของอัลบั้มชุด Siren Love ทำให้เขามีอัลบั้ม James FM ตามมาในเดือน กันยายน พ.ศ. 2541 พร้อมเพลงจังหวะสนุกอย่าง “ชั๊บ..ชั๊บ..ชั๊บ” ที่พูดถึงการสลัดความทุกข์ ซึ่งมาพร้อมท่าที่แฟนๆ ต้องทำมือเป็นรูปกรรไกร
ถึงแม้ว่าผลงานเพลง “ชั๊บ..ชั๊บ..ชั๊บ” จะได้รับความนิยมจากแฟนๆ แต่หลังจากที่ปล่อยผลงานเพียงแค่ 3 เดือน เจมส์ก็ได้เป็นหนึ่งในผู้ประสบเหตุเครื่องบินตกที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจนต้องรักษาตัวระยะหนึ่งก่อนที่จะกลับมาทำผลงานต่อได้ จนได้รับฉายาจากสื่อในเวลานั้นว่า “นักร้องกระดูกเหล็ก”
7. ...Baby One More Time - Britney Spears
ปี พ.ศ. 2541 หรือ ค.ศ. 1998 วงการเพลงโลกได้ต้อนรับ Britney Spears ศิลปินป็อปแดนซ์ที่มาพร้อมเพลงดัง “...Baby One More Time” ที่เปิดโอกาสให้เธอได้ขโมยหัวใจแฟนๆ ด้วยลีลาการร้องและเต้น พร้อมเสน่ห์ที่ล้นเหลือ จนผลงานดังกล่าวได้ขึ้นอันดับ 1 ชาร์ต Billboard Hot 100 และมียอดดาวน์โหลดมากกว่า 10 ล้านก๊อปปี้ และหลังจากนั้นไม่นานเธอก็ได้กลายเป็นนักร้องเจ้าของฉายา “เจ้าหญิงแห่งวงการเพลงป็อป”
ก่อนหน้าที่ Britney จะถ่ายทอดเพลง “...Baby One More Time” ผลงานนี้ก็ได้ถูกส่งให้กับวงเกิร์ลกรุ๊ป TLC เจ้าของเพลงฮิต “No Scrubs” และ “Waterfall” แต่กลับถูกปฏิเสธไป โดยสมาชิกของวงอย่าง Rozonda "Chilli" Thomas และ Tionne "T-Boz" Watkins เคยให้ตอนสัมภาษณ์ตอนโปรโมตภาพยนตร์สารคดี Crazy Sexy Cool: The TLC Story ว่าพวกเธอมองว่าเนื้อเพลงนี้ไม่เหมาะกับวง ถึงแม้จะมองว่าตัวเพลงน่าจะประสบความสำเร็จมากก็ตาม ทำให้เพลงดังกล่าวตกมาอยู่ในมือของ Britney และเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล >> 3 เพลงดัง "Britney Spears" ที่เกือบกลายเป็นผลงานของศิลปินคนอื่น
8. Pretty Fly (for a White Guy) - The Offspring
ปี พ.ศ. 2541 ศิลปินป็อปพังก์ วง The Offspring ได้สร้างสีสันให้กับวงการด้วยการปล่อยเพลง “Pretty Fly (for a White Guy)” ที่บอกเล่าเรื่องราวของชายหนุ่มที่พยายามจะวางมาดเท่ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ตัวตนเขาแบบติดตลก พร้อมดนตรีที่ทำให้แฟนๆ พร้อมใจกระโดดหลังอินโทรเริ่ม
ถึงแม้ว่าเพลง “Pretty Fly (for a White Guy)” จะติดอันดับ Billboard Hot 100 สูงสุดแค่ลำดับที่ 53 แต่ซิงเกิล “Pretty Fly (for a White Guy)” มียอดขาย 6 แสนก๊อปปี้ในประเทศอังกฤษ และ 200,000 ก๊อปปี้ในออสเตรเลีย ส่วนในไทยเพลงนี้ก็ได้รับความนิยมเมื่อถูกปล่อยออกมาเช่นกัน
9. The Boy Is Mine - Brandy x Monica
ถือว่าเป็นการร่วมงานที่สร้างความฮือฮาอย่างมากให้กับวงการเพลงฝั่งอเมริกา เมื่อ Monica ศิลปินหญิงเจ้าของเพลงดัง “For You I Will” และ Brandy นักร้องเจ้าของเพลงดัง “Have You Ever” ที่หลายคนยกให้เป็นเจ้าหญิงเพลงอาร์แอนด์บีในยุค 90 ได้โคจรมาทำเพลง “The Boy Is Mine” ที่ทั้ง 2 สาวถ่ายทอดความรู้สึกของผู้หญิงที่พยายามแย่งชิงคนรัก ซึ่งเพลงนี้ได้แรงบันดาลใจจากเพลง “The Girl Is Mine” ของ 2 ซูเปอร์สตาร์ระดับตำนานอย่าง Michael Jackson และ Paul McCartney
ผลงานเพลง “The Boy Is Mine” นับได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง เพราะเพลงนี้ติดอันดับ 1 ชาร์ต Billboard Hot 100 นานถึง 13 สัปดาห์ และยังสามารถคว้ารางวัล Best R&B Performance By A Duo Or Group With Vocals จากเวที Grammy Awards ครั้งที่ 41 โดยซีรีส์แนวมิวสิคัลชื่อดังอย่าง Glee ก็ได้นำเพลงนี้มาให้ตัวละครได้คัฟเวอร์ในซีซั่นแรกจนทำให้เด็กรุ่นใหม่ได้สัมผัสความแซ่บของเพลงนี้ด้วย
10. Torn - Natalie Imbruglia
เวลาเอ่ยชื่อศิลปินชาวออสเตรเลีย Natalie Imbruglia หลายๆ คนจะนึกถึงเธอในฐานะผู้ถ่ายทอดเพลง “Torn” ที่เดิมทีเป็นเพลงของศิลปินชาวเดนมาร์ก Lis Sørensen และวงร็อค Ednaswap ซึ่ง Natalie ก็ได้นำเพลงนี้มาคัฟเวอร์ในอัลบั้มชุด Left of the Middle ที่เป็นผลงานเปิดตัวของเธอ
เมื่อเพลง “Torn” เวอร์ชั่น Natalie ได้ถูกปล่อยออกมาปลายปี พ.ศ. 2540 หรือ ค.ศ. 1997 ผลงานนี้ก็โด่งดังไปทั่วโลกและมียอดขายมากกว่า 1 ล้านก๊อปปี้ในประเทศอังกฤษ ในขณะที่อัลบั้ม Left of the Middle มียอดขายมากกว่า 7 ล้านก๊อปปี้ ซึ้งถือว่าสูงมากสำหรับศิลปินใหม่ในเวลานั้น จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเพลง “Torn” ยังคงได้รับความนิยมทั้งในการฟังและคัฟเวอร์มาจนทุกวันนี้
11. Believe - Cher
สำหรับแฟนเพลงแล้ว Cher คือนักแสดงเจ้าของรางวัล Academy Award และศิลปินเจ้าของ Grammy Award ที่เปรียบเสมือนดาวค้างฟ้าอีกดวงหนึ่งของวงการบันเทิง และในปี พ.ศ. 2541 เธอก็ได้คัมแบ็กปล่อยอัลบั้มใหม่ที่มากับเพลงอิเล็กทรอนิกส์ป็อปอย่าง “Believe” ที่เป็นผลงานแนวแปลกใหม่สำหรับเธอ
ถึงแม้จะเปลี่ยนแนวจากผลงานที่แฟนๆ คุ้นเคย แต่เพลง “Believe” ก็โด่งดังจนขึ้นอันดับ 1 ชาร์ต Billboard Hot 100 ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2542 และทำให้ Guinness World Records ได้บันทึกไว้ว่า Cher เป็นศิลปินหญิงที่อายุมากที่สุดที่ได้ครองอันดับ 1 ชาร์ตดังกล่าว ด้วยวัย 52 ปีในขณะนั้นและในขณะเดียวกันนี่ก็เป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปีที่เธอได้กลับมาขึ้นอันดับ 1 ชาร์ต Billboard หลังจากปล่อยเพลง “Dark Lady” ในปี พ.ศ. 2517 (ค.ศ. 1974) ซึ่งพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่าเธอยังคงมีไฟที่จะเดินหน้าสู่ความสำเร็จใหม่ๆ
12. I Don’t Want to Miss a Thing - Aerosmith
ปิดท้ายด้วยผลงานของวงร็อครุ่นใหญ่อย่าง Aerosmith ที่ได้ถ่ายทอดเพลง “I Don’t Want to Miss a Thing” ประกอบภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง Armagedon ซึ่งนักแสดงนำภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวอย่าง Liv Tyler เองก็เป็นลูกสาวแท้ๆ ของ Steven Tyler นักร้องนำวง Aerosmith โดยเพลง “I Don’t Want to Miss a Thing” ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วจนครองอันดับ 1 ชาร์ต Billboard Hot 100 ตั้งแต่สัปดาห์ที่เปิดตัว
นอกจากตัวซิงเกิลเพลงจะมียอดขายในอเมริกาและอังกฤษมากกว่า 1 ล้านก๊อปปี้ ผลงานเพลง I Don’t Want to Miss a Thing” ก็ได้ถูกนำเสนอให้เข้าชิงรางวัล Academy Award ครั้งที่ 71 สาขา Best Original Song หรือเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และเข้าชิงรางวัล Worst Original Song หรือเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดแย่จากเวที Golden Raspberry Award ครั้งที่ 19 พร้อมกัน ซึ่งเป็นเรื่องประหลาดมาก แต่สุดท้าย Aerosmith ก็ไม่ได้รางวัล 2 สาขานี้กลับบ้าน
เป็นเวลานานกว่า 21 ปีแล้วที่ 12 ผลงานเพลงในบทความนี้ได้สร้างความบันเทิงและพาผู้ฟังย้อนไปสู่ความทรงจำพิเศษในวันวาน ซึ่งทางเราก็เชื่อว่าผลงานเหล่านี้จะอยู่คู่กับแฟนๆ ต่อไป เช่นเดียวกับเว็บไซต์ Sanook ที่จะคอยนำเสนอข่าวและความบันเทิงให้กับทุกคนไปตลอดเช่นกัน
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ