Pharrell รับ “Blurred Lines” ที่ทำกับ Robin Thicke เป็นเพลงเหยียดเพศ
เพลงฮิตในปี 2013 “Blurred Lines” ที่ Pharrell Williams ร่วมทำกับ Robin Thicke ดูจะไม่ใช่เพลงโปรดของ Pharrell อีกต่อไปแล้ว เมื่อเขาออกมายอมรับว่า เพลงนี้มีเนื้อหาเหยียดเพศ กดขี่ข่มเหงเพศหญิง
แม้ว่าจะมีข่าวออกมาว่าบรรดามหาวิทยาลัยหลายแห่งไม่อนุญาตให้เปิดเพลงนี้ในงานเลี้ยงของมหาวิทยาลัยเพราะมีเนื้อเพลงที่ไม่ค่อยดีอย่าง “I know you want it” (ผมรู้ว่าคุณอยาก...) แต่ในขณะนั้นตัวของ Pharrell เองยังไม่เข้าใจนักว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
Pharrell ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร GQ ว่า “คือตอนที่มีปัญหาเกี่ยวกับเนื้อเพลงนี้ขึ้นมา ผมก็แบบ… ‘พูดเรื่องอะไรกันน่ะ ?’ ก็เห็นว่ามีผู้หญิงตั้งหลายคนที่ชอบเพลงนี้กันนี่นา แถมเปิดปุ๊บก็เต้นปั๊บกันทุกคน และเนื้อเพลงอย่าง ‘I know you want it’ ก็เป็นประโยคที่ผู้หญิงก็ร้องตามกันตลอดเวลา ผมเลยไม่เข้าใจว่าเพลงนี้มันส่อไปในทางนั้นได้อย่างไร”
แต่แล้วเขาก็เริ่มเข้าใจในภายหลังว่า การใช้ภาษาในเพลงนี้โดยผู้ชายเป็นคนสื่อมันออกมา มันดูไม่ค่อยดีจริง ๆ “การเอาเปรียบผู้หญิงโดยไม่สนใจว่าเขาจะเป็นอย่างไร นั่นไม่ใช่นิสัยของผม หรือแม้กระทั่งมุมมองในการมองสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตของผมเลย มันสำคัญนะถ้าเรื่องเหล่านี้มันส่งผลกระทบถึงผู้หญิงหลายคน”
“ผมเริ่มตระหนักว่าเราอยู่ในโลกของการกดขี่ข่มเหงผู้หญิง ผมไม่เคยนึกถึงเรื่องนี้มาก่อน ไม่เคยคิดว่าเพลงบางเพลงของผมจะจัดอยู่ในเพลงประเภทนี้ด้วย นั่นทำให้ผมอึ้งไปเลย”
ในปี 2013 Pharrell เคยออกมาปฏิเสธอย่างต่อเนื่องว่าเพลงนี้มีส่วนสนับสนุนนิสัยการบังคับขู่เข็ญผู้หญิง (ให้มีเพศสัมพันธ์) “ถ้าลองมองย้อนกลับไปที่เนื้อเพลงทั้งหมด จะเห็นว่าเนื้อเพลงพูดถึง ‘เธอเป็นผู้หญิงที่ดี และผู้หญิงดี ๆ ก็ยังมีความต้องการ และนี่แหละถึงเป็นที่มาของเส้นกันบาง ๆ ที่เลือนลาง (blurred lines)’” Pharrell ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Pitchfork “เธอแสดงออกความรู้สึกเหล่านั้นผ่านท่วงท่าในการเต้น เพราะว่าเธอวางตัวว่าเป็นผู้หญิงที่ดี ผู้คนต่างพากันปั่นกระแสให้คนอื่นไม่ชอบเพลงนี้ แต่ไม่เป็นไรผมรับความคิดเห็นเหล่านั้นได้”
แม้ว่ากระแสตอบรับในบางมุมมองจากคนทั่วไปต่อเพลงนี้จะไม่ดีนัก แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความโด่งดังของเพลงนี้แต่อย่างใด เพราะสามารถไต่ไปถึงอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงทั่วโลก ทั้งอังกฤษ อเมริกา และในประเทศอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม “Blurred Lines” ไม่ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ของเนื้อเพลงเท่านั้น แต่ในปี 2015 ยังถูกกล่าวหาว่าก็อปทำนองเพลง “Got to Give It Up” ของ Marvin Gaye จนถูกเรียกค่าเสียหาย 7.4 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 225 ล้านบาทเพื่อจ่ายให้กับทรัพย์สินของ Marvin Gaye และยังต้องจ่ายอีก 5 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 152 ล้านบาทสำหรับการตัดสินบนชั้นศาลครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนธันวาคม 2018
อัลบั้มภาพ 20 ภาพ