“ที่สุด” แห่งวงการเพลงประจำปี 2019 โดยทีมงาน Sanook Music
ในปี 2019 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป ทาง Sanook Music ได้นำเสนอเรื่องราวน่าสนใจของวงการเพลงทั้งไทยและเทศ ซึ่งหลายๆ ผลงานที่เรานำเสนอเรื่องราว ก็ได้เข้ามาอยู่ในใจของพวกเราด้วย วันนี้ทางทีมบรรณาธิการ Sanook Music เลยได้เลือกผลงานที่เป็น "ที่สุด" ในใจของพวกเรา มาให้ทุกคนได้ชมกันอีกครั้ง ซึ่งหลายผลงานที่เราหยิบยกมานั้น อาจจะเป็นที่ชื่นชอบของผู้อ่านด้วยก็ได้
Music Video of the Year >> ไม่รู้ทำไม - Whal & Dolph
Nominees : You Need to Calm Down - Taylor Swift / แวะ - Rooftop
Sidhipong W.
นอกจากการทำเพลงแบบไร้ข้อจำกัดทางดนตรี และโดนใจผู้ฟัง แก๊งปลาแห่งค่าย What The Duck อย่าง Whal & Dolph ที่มาพร้อมสมาชิกอย่าง นักร้องนำ ปอ-กฤษสรัญ จ้องสุวรรณ (คุณดอล์ฟ) และมือกีตาร์ น้ำวน-วนนท์ กุลวรรธไพสิฐ (คุณวาฬ) ก็ขึ้นชื่อเรื่องการทำเอ็มวีที่มาพร้อมพล็อตที่ชวนให้อุทานว่า "คิดได้ไง" ด้วย และปีนี้พวกเขากับผู้กำกับไฟแรงอย่าง อัตตา เหมวดี มากับมิวสิควิดีโอแนวกึ่งแฟนตาซี "ไม่รู้ทำไม" ที่เล่าเรื่องราวของกลุ่มคนที่ตัดสินใจทิ้งคนรักกลางสนามกีฬาแล้วหนีไป แต่ระหว่างทางพวกเขาต้องเจออุปสรรคมากมายอย่าง พายุฝน ที่ทำให้บางคนตัดสินใจกลับไปหาคนรัก แต่ในขณะเดียวกันก็มีบางคนที่ฝ่าพายุสำเร็จ แม้ต้องเจอความเจ็บปวดหลังผ่านมันไปได้ ซึ่งเมื่อเราได้ชมเอ็มวีเราก็รู้สึกทึ่งที่ทีมงานและศิลปินสามารถทำเรื่องราวออกมาให้มีความแฟนตาซี แต่ก็ยังสามารถสะท้อนเรื่องจริงของหลายคู่รัก ที่เลิกราและกลับมาคบกันเพราะเจอสิ่งที่ทำให้เขาเปลี่ยนใจ โดยเราเองตอนที่ดูเอ็มวีก็เจอทั้งความรู้สึกทึ่งกับซีนต่างๆ ที่แอบดูเหนือจินตนาการ และรู้สึกหน่วงเมื่อเห็นบทสรุปของคู่รักคู่หนึ่งในตอนจบ
Music Video of the Year >> Talk - Two Door Cinema Club
Nominees : You Need to Calm Down, ME! - Taylor Swift / Bury A Friend - Billie Eilish / Superhuman - NCT 127
Jurairat N.
คิดหนักเหมือนกันว่าจะเลือกอะไร ตอนแรกมิวสิควิดีโอของ Taylor Swift ก็มาแรงในใจมากเพราะภาพสวย และยังมีช็อต ‘ศัตรูที่รัก’ การรวมตัวกันเลิฟ ๆ ของ Taylor และ Katy ที่เป็น talk of the town ในขณะนั้น แต่สุดท้ายมาลงตัวที่ “Talk” ของ Two Door Cinema Club เพราะนอกจาก OK Go แล้ว เรายกให้ TDCC เป็นอีกวงที่ทำ MV ได้โดนใจหลายเพลง สำหรับเพลงนี้คู่สีที่ใช้น้ำเงินแดง ที่เป็นคอนเซ็ปต์หลักของทั้งอัลบั้มนี้ได้อย่างน่าประทับใจแล้ว การตัดต่อสวย ๆ การวางองค์ประกอบศิลป์ การเลือกภาพ (แบบกวน ๆ ) ให้ตรงกับเนื้อเพลงแต่ละท่อน คิดว่าทีมงานและศิลปินทำการบ้านมาดี เตรียมตัวมาดี แม้ว่าจะไม่ได้ใช้ทุนสร้างอลังการมาก แต่เราประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ดู และอยากให้มีคนดูเอ็มวีนี้กันเยอะ ๆ just wanna give a shout out for this!
Music Video of the Year >> กลัวว่าความคิดถึงของฉันจะทำร้ายเธอ – Lomosonic
Chanon B.
ราวๆ 5-6 ปีที่แล้ว มิวสิควิดีโอเพลง “ขอ” จากอัลบั้ม Echo & Silence ของวงดนตรี Lomosonic เคยทำให้ผู้เขียนหนักหนาสาหัสทางความรู้สึกมากเท่าไหร่ ในปีนี้เอ็มวี “กลัวว่าความคิดถึงของฉันจะทำร้ายเธอ” ก็ทำหน้าที่นั้นได้ดีพอๆ กัน แม้ความรุนแรงจะเป็นรองเพลงข้างต้นอยู่เล็กน้อยก็ตาม ด้วยโทนสี การเล่าเรื่องที่ตัดต่อฉับไว แต่เข้าใจได้ไม่ยาก ยิ่งเมื่อเล่าเรื่องความสัมพันธ์ที่ไม่ว่าใครก็เคยประสบพบเจอ เริ่มรัก เลิกรัก อีกทั้งนักแสดงนำก็ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีเหลือเกิน สุดท้ายสิ่งที่น่าสนใจก็คือ ทั้งสองเพลงกำกับโดยทีม Hello Filmaker นั่นเอง
Concert of the Year >> D2B Infinity 2019
Nominees : POTATO Magic Hours Concert #มันคือเรื่องจริง / Two Door Cinema Club Live in Bangkok
Sidhipong W.
สำหรับเราแล้วคอนเสิร์ต D2B Infinity 2019 ไม่ได้มีดีแค่เทคโนโลยีที่สามารถพา บิ๊ก-ปาณรวัฐ กิตติกรเจริญ กลับมาอยู่บนเวทีได้อีกครั้ง แต่การแสดงสดของ แดน-วรเวช ดานุวงศ์ และ บีม-กวี ตันจรารักษ์ ทั้งการร้อง เต้น เล่นดนตรี ก็ทำให้เราได้เซอร์ไพรส์แทบตลอดงาน และในขณะเดียวก็มีช่วงที่น้ำตาไหลออกมา เพราะความสวยงามของมิตรภาพพวกเขาและบิ๊ก โดยงานครั้งนี้ แดน-บีม และ CoolFahrenheit ได้พาเพลงของ D2B และแดน-บีม มาเรียบเรียงดนตรีให้สดใหม่ ทั้งในแง่ของซาวด์และการสอดแทรกท่อนแร็ปใหม่ๆ พร้อมทั้งเสนอเรื่องราวของวงในมุมของแฟนคลับ และนำพร็อพแสงสีเสียงเอฟเฟกต์ ไปจนถึงไอเทมดังจากยุค 2000 มาประกอบโชว์แบบจัดเต็ม ก่อนจะปิดท้ายด้วยการส่งข้อความอันอบอุ่นของทั้ง 3 สมาชิก พร้อมทั้งเพลงใหม่อย่าง "ยังคิดถึง (กันหรือเปล่า)" แทนของที่ระลึกให้เหล่า Sniper (แฟนคลับ D2B) โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในงาน ทำให้เราเองต้องใช้เวลาหลายวันเลยทีเดียวที่จะมูฟออนจากสิ่งที่เกิดขึ้นในฮอลล์ และดีใจที่ทางผู้จัดทำคอนเสิร์ตรอบอังกอร์ที่มีชื่อว่า D2B Infinity Fun+ 2020 ขึ้นมา
>> "D2B Infinity 2019" ปรากฏการณ์ความสุขที่ไร้จุดสิ้นสุดจาก "บิ๊ก-แดน-บีม"
Live Nation BEC-Tero / VIJI Corp
Concert of the Year >> John Mayer Asia Tour Live in Bangkok 2019
Nominees : LAUV Live In Bangkok 2019 / Two Door Cinema Club Live in Bangkok 2019 / 2019 MONSTA X WORLD TOUR 'WE ARE HERE' IN BANGKOK / 2019 IU Tour Concert [LOVE, POEM] In Bangkok / Lee Jin Hyuk Fan Meeting "JIN HYUK: HAE [T.Y.F.L]" in Thailand
Jurairat N.
ปี 2019 เป็นปีแห่งคอนเสิร์ตโดยแท้จริง ขนาดคนที่ชอบดูคอนเสิร์ตมาก ๆ อย่างเรายังรู้สึก “เหนื่อย” กับการไปดูคอนเสิร์ตเป็นครั้งแรกในชีวิต (รวมถึงแฟนมีตติ้งของฝั่ง K-POP ด้วย) แถมงานยังชนกันจนต้องเลือกดู ผู้จัดงานก็พัฒนาสเกลงานให้ใหญ่ขึ้น แสง สี เสียงอลังการมากขึ้นเรื่อย ๆ เลยทำให้เลือกยากมาก ๆ ว่าชอบงานไหนมากที่สุด แต่ที่ลอยลำมาตั้งแต่แรกและเราคิดว่า “ต้องเป็นคอนเสิร์ตนี้แล้วล่ะ” ตั้งแต่เพลงแรกที่ขึ้นมาบนเวที ก็ต้องเป็นคอนเสิร์ตของพี่ John Mayer ที่แฟน ๆ รอคอยกันมาอย่างยาวนาน พร้อม setlist แบบเรียงตามเวลาปล่อยเพลง ซึ่งเป็นการเรียงเพลงที่แปลกใหม่มาก ไม่เคยดูคอนเสิร์ตแบบนี้มาก่อน ที่เปิดด้วยซิงเกิลฮิตสุด ๆ อย่าง “No Such Thing”, “Your Body Is A Wonderland” แล้วไล่เวลาตามอัลบั้มมาเรื่อย ๆ มาจบที่เพลงล่าสุด “I Guess I Just Feel Like” แถมพี่จอห์นยังใส่เต็มแมกซ์ในแบบที่คุ้มค่าทุกวินาทีที่ได้ดู เพลินตาที่ความหล่อ เพลินหูที่ได้ฟัง และเพลินใจที่ได้ชมเพอร์ฟอร์มานซ์ระดับโลกในไทย ให้เล่าอีกกี่ครั้งก็ยังประทับใจอยู่ดี
อย่างที่บอกว่าปีนี้มีคอนเสิร์ตดี ๆ เยอะมาก เป็นกันเอง แต่เต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์ของ Lauv, ดีจนแทบจะหาข้อติไม่ได้ทั้งภาพและเสียงจาก Two Door Cinema Club, เกิดคาดสุด ๆ กับ Monsta X, คุณภาพเน้น ๆ ของ จองเซอุน และมาแรงแซงโค้งกับ IU ที่คอนเสิร์ตเพลงป็อปหนักบัลลาดจะลากยาวไปที่ 3.30 ชม. ได้ แถมอีกนิดกับแฟนมีตติ้งที่ชอบที่สุดของพี่จินฮยอก สนุกมาก ไม่เบื่อเลยสักนาที เป็นมาตรฐานที่ดีให้กับการจัดแฟนมีตติ้งของศิลปินอื่น ๆ ต่อไป
>> John Mayer Asia Tour Live in Bangkok 2019 ความสุนทรียะจากเสียงกีตาร์และทุกเพลงที่อยากได้ยิน
Concert of the Year >> The Yers 10 Years
Chanon B.
ขับเคี่ยวกันหลายคอนเสิร์ตเหลือเกิน แต่ท้ายที่สุดคอนเสิร์ตใหญ่ฉลองครบรอบ 10 ปีของ The Yers ก็เข้าวินในสาขานี้ แม้จะโยกย้ายสู่ค่ายใหญ่ แต่ตัวตนในการแหกขนบบางอย่าง การสร้างซาวด์เฉพาะของตนเอง รวมถึงเรื่องราวที่วนเวียนอยู่กับความหม่นเศร้ายังคงชัดเจน ผู้เขียนในฐานะคนฟัง จากวัยรุ่นในรั้วมหาวิทยาลัย สู่การเป็นพนักงานบริษัท ความเข้าใจในบทเพลงของ The Yers สอดคล้องไปกับประสบการณ์ชีวิตที่มีมากขึ้น การได้ค่อยๆ ทบทวนเรื่องราวของ The Yers แบบ “ทุกเพลงทุกแทร็ค” ที่ปล่อยออกมาก็อิ่มเอมมากๆ แล้ว เผลอลืมตัวกระโดดแบบลืมอายุเลยล่ะ!
>> “The Yers 10 Years” คอนเสิร์ตที่ทำให้รู้ว่า “กีตาร์แบนด์” ยังมีลมหายใจ
New Face of the Year >> AUTTA
Nominees : Valentina Ploy / Dept
Sidhipong W.
ท่ามกลางแร็ปเปอร์ยุคใหม่ที่แจ้งเกิดในปีที่ผ่านมา AUTTA (กร-อัษฎกร เดชมาก) ได้มาพร้อมความแตกต่างในแง่การทำผลงาน เพราะนอกจากการแร็ปที่จัดจ้านจนสามารถคว้า รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จากรายการ The War is On 4 รวมถึงการบอกเล่าเรื่องโรคซึมเศร้าได้อย่างตรงไปตรงมาบนเวที The Rapper 2 ความสามารถในฐานะนักกีตาร์แจ๊ส ได้ทำให้เขามาพร้อมการแร็ปในวิธีไม่เหมือนใคร ด้วยการเขียนตัวโน้ตเป็นทำนองไว้ก่อน และวางคำลงไปในเมโลดี้ที่ทำขึ้น จนเพลงที่เขาทำนั้นมีเอกลักษณ์ชัดเจน ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดเจนในซิงเกิล "ชายหน้ามึน" ที่เขาปล่อยออกมา โดยนอกจากการทำเพลงและการแร็ปแล้ว อีกเรื่องที่น่าทึ่งก็คือ AUTTA เพิ่งเริ่มสนใจเพลงฮิปฮอปในปี 2017 หรือเมื่อ 2 ปีผ่านมานี่เอง และสิ่งนี้ก็ทำให้เราอยากรู้มากว่าเมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น เขาจะมาพร้อมผลงานในรูปแบบไหน
New Face of the Year >> Billie Eilish
Nominees : Ava Max / Chung Ha / Lewis Capaldi
Jurairat N.
กับน้อง Billie Eilish ไม่ได้เป็น love at first sight เท่าไร เพราะช่วงที่เพลง “bad guy” ดังใหม่ ๆ บอกตรง ๆ ว่า ‘ไม่ใช่แนวเลย’ ชอบดนตรีมาก แต่ไม่ชอบสไตล์การร้องของน้องเท่าไร ได้แต่บ่นเสียดายว่าถ้าร้องชัดถ้อยชัดคำกว่านี้จะเป็นศิลปินที่ชอบมาก และจะคอยติดตามคนหนึ่งเลยทีเดียว แต่พอเวลาผ่านไป กระแสแรงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้อยากฟังก็ต้องได้ยินเพลงของน้องเรื่อย ๆ และได้ชมการแสดงสดของน้องใน Coachella บอกได้คำเดียวว่า เด็กคนนี้มีของ และเมื่อได้ฟังเสียงสด ๆ ก็เริ่มเข้าใจว่า จริง ๆ แล้วเสียงดีและมีเอกลักษณ์มาก ๆ ฟังไปฟังมา เพลงอื่น ๆ เริ่มฟังเพราะ เริ่มชอบมากขึ้นเรื่อย ๆ bias ที่ตั้งเอาไว้ตั้งแต่แรกก็ค่อย ๆ พลังทลายลงไปทีละนิด ๆ จนเริ่มชื่นชม และให้กำลังใจน้องมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับศิลปินรุ่นใหม่ได้ดีจริง ๆ ทางด้านของ Chung Ha ที่ประสบความสำเร็จเกินคาดกับงานเดี่ยว Ava Max ม้ามืดที่เพลงดัง ฟังเพราะอยู่หลายเพลง และ Lewis Capaldi ศิลปินอายุน้อยที่แต่งเองร้องเอง และทำเพลงได้ลึกราวกับอยู่ในวงการดนตรีมานาน แต่ละคนมีฝีมือ น่าติดตาม และเป็นกำลังใจให้ไม่แพ้กัน
New Face of the Year >> H 3 F
Chanon B.
ติดตามวงดนตรีวงนี้มาสักพัก กระทั่งปีนี้ H 3 F มีอัลบั้มเต็มชุดแรกในชีวิตอย่าง Family Product ประเด็นแรกคือ ถ้าไม่ทราบมาก่อนว่าพวกเขาเป็นวงสัญชาติไทย ก็อาจนึกว่าเป็นวงนอกกระแสเท่ๆ จากประเทศใดประเทศหนึ่ง ด้วยความที่ H 3 F สรรค์สร้างเนื้อร้องออกมาเป็นภาษาอังกฤษ ซาวด์ละมุนละไมในแนวทางป็อปผสมกลิ่นอายบลูส์และฟังก์อย่างชัดเจน นี่คือความแตกต่างไปจากวงรุ่นใหม่วงอื่นๆ ในเมืองไทย และหากว่าในอนาคต H 3 F จะออกไปโบยบินในต่างประเทศก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ส่วนแทร็คแนะนำขอยกให้ “Be Your Man” ที่ผู้เขียนยกให้เป็น เดอะ เบสต์
Song of the Year >> Land of The Free - The Killers
Nominees : ตราบใดที่เธอยังมีชีวิต - น้อย Pru / FHERO - F.HERO Feat. โอม Cocktail
Sidhipong W.
ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพลง "Land of The Free" ของ 3 นักฆ่าผู้มีดนตรีเป็นอาวุธอย่าง The Killers ได้มัดใจเราอย่างเร็ว ด้วยเนื้อหาที่เสียดสีสังคมประเทศที่พยายามทำตัวเหมือนเป็นดินแดนเสรีภาพ แต่จริงๆ กลับเต็มไปด้วยความหลอกลวงและกฎที่จำกัดชีวิตประชาชนแบบหาเหตุผลไม่ได้ และนอกจากเนื้อหาที่ตรงไปตรงมา จนทำให้เพลงนี้เปรียบเสมือนจดหมายเหตุของยุคนี้ที่ถูกทำมาในรูปแบบเพลง ดนตรีเพลงนี้ผสมผสานกลิ่นอายความร็อคของ The Killers และ เสียงจากวงคอรัสผิวสีที่เปรียบเสมือนความในใจของประชาชนที่เฝ้ามองสังคมที่เต็มไปด้วยความปั่นป่วน ก็ทำให้เราสัมผัสอารมณ์ที่ทางวงต้องการสื่อ พร้อมทั้งสามารถฟังเพลงนี้ได้อย่างไม่เบื่อ
Song of the Year >> 괜찮아도 괜찮아 (That's okay) - D.O. 디오
Nominees : Don’t Need Your Love - NCT Dream x HRVY / Lauv & Troye Sivan - i'm so tired...
Jurairat N.
ผลิตผลจากโปรเจกต์พิเศษของ SM Entertainment กับ STATION 3 ที่เต็มไปด้วยเพลงดี ๆ เพราะ ๆ เพียบ เหมือนเป็นที่ปล่อยของของ SM เลยก็ว่าได้ ในซีซั่น 3 นี้เราได้ฟังเพลงดี ๆ จากโปรเจกต์นี้เยอะพอสมควร สุดท้ายเลือกเพลงของ D.O. เพราะฟังแล้วให้กำลังใจตัวเองดี อารมณ์เย็น ๆ เหงา ๆ แต่ไม่เศร้า เพลงป็อปอะคูสติกเรียบง่าย แต่ดึงศักยภาพการร้องเพลงของ D.O. สมาชิก EXO ออกมาได้ดี เผลอแปบเดียวเราก็นั่งฟังเพลงนี้วนลูปไปเรื่อย ๆ โดยไม่เบื่อไปพักหนึ่งเลยทีเดียว ใครเบื่อเพลง K-POP ตามสมัยนิยม น่าจะชอบเพลงนี้ได้ไม่ยาก ไม่อยากให้มองข้าม
อย่างที่บอกว่าเพลงจากโปรเจกต์นี้มีเพลงดี ๆ เพียบ อีกเพลงที่ชอบจึงเป็นเพลงจาก STATION 3 อีกเช่นกัน เพลงอิเล็กโทรป็อปสนุก ๆ ที่เอา NCT Dream กับศิลปินตะวันตก HRVY มาร้องและเต้นด้วยกันอย่างกลมกลืน กับอีกเพลงของ Lauv และ Troye Sivan ที่ทำเพลงออกมาได้อย่างลงตัว มีความเป็นตัวเองของทั้งคู่ปรากฎอยู่ในเพลงอย่างชัดเจน แบ่งท่อนร้องกันได้อย่างยุติธรรม ติดหูง่าย ทั้งสองเพลงนี้เป็นเพลงเศร้าที่ทำดนตรีออกมาสนุกจนลืมเศร้าได้ดีทั้งคู่เช่นเดียวกัน เลยทำให้ชอบสองเพลงนี้ไปด้วย
Song of the Year >> FHERO – F.HERO feat. โอม Cocktail
Chanon B.
แร็ปในจังหวะ 6/8 … จินตนาการไม่ออกเหมือนกันว่ามันจะออกมาในรูปแบบไหน แต่ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ หรือ F.HERO ก็ทำให้สิ่งข้างต้นเป็นจริง กับถ้อยคำสุดพลุ่งพล่านที่บอกเล่าชีวิตของเขาอย่างตรงไปตรงมา ยิ่งแมสเสจที่อยากจะเอื้อนเอ่ยว่า อยากให้จดจำเขาในตัวตนที่แท้ มิใช่เป็นเพียงแร็ปเปอร์ที่มีแต่ผลงานฟีทเจอริ่งกับคนอื่น ก็สะท้อนความเป็นจริงในฐานะศิลปินที่บรรจงสร้างศิลปะเช่นเขาได้อย่างชัดเจนที่สุด
Album of the Year >> นี่แหละชีวิต - น้อย Pru
Nominees: INTO THE NEW ERA - F.HERO / Cocktail - Cocktail / When We All Fall Asleep, Where Do We Go? - Billie Eilish / Hollywood's Bleeding - Post Malone
ท่ามกลางศิลปินที่บอกเล่ามุมมองที่มีต่อสังคมผ่านผลงานตัวเอง น้อย-กฤษดา สุโกศล แคลปป์ หรือ น้อย Pru ได้มาพร้อมอัลบั้มชุด นี่แหละชีวิต ที่เขาได้เล่าความรู้สึกของตัวเอง หลังพบเจอเรื่องราวในโลกยุคปัจจุบัน และความคิดเห็นของเขาที่มีต่อเหตุการณ์เหล่านั้นผ่าน 12 เพลงในอัลบั้ม ซึ่งมีทั้งเพลงที่สื่อถึงการใช้ชีวิตอย่าง "อัตตา", "แด่ศาลที่เคารพ", "ประเทศไทย" และ "นี่แหละชีวิต" เพลงรักที่สร้างรอยยิ้มอย่าง "ห้วงรัก" และ "เล็กน้อยมหาศาล" ไปจนถึงเพลงอย่าง "ตราบใดที่เธอยังมีชีวิต" และ "แค่เรา" ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อมอบพลังให้กับผู้ฟัง ซึ่งถึงแม้ว่าน้อย Pru จะเป็นคนที่ไม่เล่นเครื่องดนตรี แต่เขาก็สามารถกำหนดว่าเพลงไหนในอัลบั้ม ควรมีซาวด์แบบไหน และได้ โหน่ง-วิชญ วัฒนศัพท์ แห่งวง The Photo Sticker Machine ทีมงานเบื้องหลังสกอร์หนัง GTH อย่าง ซักซี๊ด ห่วยขั้นเทพ และอีกหลายนักดนตรีมาช่วยออกแบบและบันทึกเสียงในส่วนของซาวด์ให้สมบูรณ์และทำให้เราเข้าใจสิ่งที่น้อยอยากสื่อชัดเจน จนผลงานนี้เป็นอีกหนึ่งมาสเตอร์พีซไม่ธรรมดา
Album of the Year >> ~how i'm feeling~ - LAUV
Nominees : No.6 Collaborations Project - Ed Sheeran / When We All Fall Asleep, Where Do We Go? - Billie Eilish
ขอโทษที่เอาหวีดก่อน เพราะอัลบั้มเต็มยังไม่ออก (อัลบั้มออก มีนาคม 2020) แต่หลายเพลงที่ปล่อยออกมาแล้วอยู่ในอัลบั้มแน่ ๆ เป็นการรวมเพลงที่ชอบมาก ๆ ชอบที่สุดในปี 2019 หลายเพลง ทั้ง "Drugs & the Internet", "f**k, i'm lonely" (featuring Anne-Marie), "Sims", "Mean It" (with LANY), "i'm so tired..." (with Troye Sivan) และ "Sad Forever" แถมอัลบั้มนี้จะมีทั้งหมด 21 เพลงด้วย เลยขอรีบชอบล่วงหน้าก่อนเลย เชื่อมือ Lauv ว่าเพลงจะต้องออกมาถูกใจแน่นอน เพลงสีเทา ๆ เศร้า ๆ หม่น ๆ ทำเองออกมามีเอกลักษณ์ ฟังแค่อินโทรก็รู้ว่าเป็น Lauv แถมเพลงที่ featuring กับศิลปินอื่นก็ยังคงสไตล์แนวเพลงของตัวเองเอาไว้ได้อย่างชัดเจน มีศิลปินไม่กี่คนที่ทำได้แบบนี้จริง ๆ ส่วนอัลบั้ม nominees อีกสองอัลบั้มที่เลือกมา ก็เป็นอัลบั้มที่แปลกใหม่เช่นกัน ทั้งของ Ed Sheeran ที่กล้าที่จะทำอะไรใหม่ ๆ ฉีกกฎทุกแนวเพลงที่ตัวเองทำ แล้วทำออกมาได้ดีด้วย กับอัลบั้มของ Billie Eilish ที่ไม่ต้องบอกทุกคนก็น่าจะรู้ว่าฉีกกฎอัลบั้มเพลงป็อปจากศิลปินอายุ 17 ปีได้มากแค่ไหน ความหม่นอย่างสวยงามของเพลงทำให้หยุดฟังไม่ได้จริง ๆ
Album of the Year >> Into the New Era – F.HERO
Chanon B.
Into the New Era ของ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ (F.HERO) คือ “อัลบั้มมาสเตอร์พีซ” ของวงการเพลงเมืองไทยประจำปีนี้ และอีกหนึ่งอัลบั้มที่จะเป็นตำนานของวงการเพลงฮิปฮอปบ้านเรา พาร์ตแรกจัดโอลด์สคูลมาหนักๆ ตามแนวถนัดของเขา พาร์ตหลัง ฟักกลิ้ง ฮีโร่ บุกเข้าสู่ดินแดนฮิปฮอปใหม่ในรูปแบบที่หลากหลายและน่าเซอร์ไพรส์ในหลายๆ เพลง ฝีมือการเขียนไรม์ของแร็ปเปอร์ผู้นี้ยังคงจัดจ้าน ยอมซูฮกอย่างง่ายดายก็ว่าได้ ยังไม่นับรวมถึงแขกรับเชิญทั่วฟ้าเมืองไทย ไล่ตั้งแต่รุ่นเล็กยันรุ่นใหญ่ อาจารย์ไข่ มาลีฮวนน่า, น้าแอ๊ด คาราบาว หรือแม้แต่ สุนทรี เวชชานนท์ ก็มีชื่ออยู่บนปกอัลบั้ม
Artist of the Year >> F.HERO
>> Nominees - แว่นใหญ่-โอฬาร ชูใจ / Billie Eilish / แสดมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข
Sidhipong W.
สำหรับเราแล้ว F.HERO คือแร็ปเปอร์ที่เขย่าวงการเพลงฮิปฮอปปีนี้ ด้วยการปล่อย INTO THE NEW ERA อัลบั้มที่สะท้อนหลายมิติชีวิตเขา ไม่ว่าจะเป็นมุมของคนที่เป็นลูกชายอย่าง "บนพระจันทร์" และ "ใหญ่แล้วอดเอา" หรือเพลงที่สื่อถึงชีวิตอย่าง "FHERO", "Alarm (สวัสดีวันจันทร์)" และ "คาด-ตะ-กอน" ไปจนถึงเพลงสนุกสนานระดับร้อยล้านวิวที่แอบแฝงแง่คิดดีๆ อย่าง "เสือสิ้นลาย" และ "มีแค่เรา" จนเรามองว่านี่คือมาสเตอร์พีซอีกชิ้นของวงการฮิปฮอป โดยนอกจากอัลบั้มเดี่ยวแล้ว ฟักกลิ้ง ฮีโร่ ยังได้รับโอกาสได้ร่วมฟีทเจอริ่งกับ Babymetal วงไอดอลเมทัลระดับโลกที่ไม่เคยมีศิลปินรับเชิญในเพลงตัวเองมาก่อน ซึ่งการที่เขาสามารถเติมความเดือดให้กับเพลง "PA-PA-YA" ก็ทำให้แฟนเพลงต่างชาติเริ่มยอมรับความสามารถเขาด้วย ซึ่งเหตุผลที่กล่าวมา ก็ทำให้เราต้องยกให้ตำแหน่ง Artist of the Year ให้ F.Hero แบบไม่ลังเลเลย
Artist of the Year >> NCT
>> Nominees - Billie Eilish / Post Malone / BLACKPINK
Jurairat N.
ปี 2019 เป็นปีที่ NCT ทำงานหนักมาก ๆ ทุกยูนิต ไม่ว่าจะเป็น NCT 127 กับความพยายามตีตลาดอเมริกาด้วย “Regular”, “Superhuman” และ “Highway to Heaven” ยูนิตจีน WayV ที่มี “Regular” เวอร์ชั่นจีนนำร่องออกมาก่อน จากนั้นก็เริ่มมีทางของตัวเองอย่าง “Take Off” จนมาถึงผลงานล่าสุดกับ “Moonwalk” และ “Love Talk” ที่มีเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษออกมาด้วย ไหนจะ NCT Dream ที่ทำเพลงออกมาได้ดีเกินคาดอย่าง “Don’t Need Your Love” และ “BOOM” และโปรเจกต์กลุ่มพิเศษ SuperM ที่มี แทยง, มาร์ค จาก NCT 127 และ เตนล์, ลูคัส จาก WayV เป็นสมาชิกอยู่ด้วย ก็ทำเพลงและแสดงเพอร์ฟอร์มานซ์ออกมาได้ดี เป็นปีแห่งการทำงานหนักของสมาชิก NCT ทั้งหมดจริง ๆ และได้ผลตอบรับค่อนข้างน่าพอใจอีกด้วย จึงขออนุญาตยกตำแหน่งศิลปินแห่งปีให้ไปแบบเต็มหัวใจ และเฝ้ารอ NCT 2020 อย่างใจจดใจจ่อ
Artist of the Year >> F.HERO
Chanon B.
ไร้ข้อกังขา ไม่มีข้อสงสัยใดๆ สำหรับสาขาศิลปินแห่งปี ฟักกลิ้ง ฮีโร่ พิสูจน์ตัวเองมาเนิ่นนาน ทั้งๆ ที่ความสามารถของเขามีอยู่เต็มเปี่ยม แต่การลงมือทำอัลบั้ม Into the New Era ซึ่งบรรจุเอาไว้มากถึง 32 แทร็คคือการประกาศก้องว่า เขาทำได้ และทำได้ดีเอามากๆ เสียด้วย