"ไวพจน์ เพชรสุพรรณ" เผยชีวิตหลังห่างวงการ พร้อมฝากคำเตือนถึงนักแต่งเพลงรุ่นใหม่

ถึงแม้จะห่างหายจากการทำผลงานไปบ้าง แต่ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ ครูเพลงลูกทุ่งผู้ได้เป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักร้องเพลงลูกทุ่ง) เมื่อปี พ.ศ. 2540 ก็ยังคงมีงานร้องเพลง และงานทำขวัญนาค ระหว่างที่อาศัยอยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยล่าสุด เขาได้มาร่วมงานเสวนา ยุคทองบทเพลงลูกทุ่ง การสู้กันของคนในวงการลูกทุ่งยุคแสงสี ที่จัดขึ้นโดย สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (Thai PBS) ในวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2562 พร้อมพูดคุยกับ Sanook Music เรื่องชีวิตปัจจุบัน และความรู้สึกที่มีต่อวงการเพลงยุคนี้ 

ภาพจากงานเสวนา ยุคทองบทเพลงลูกทุ่ง การสู้กันของคนในวงการลูกทุ่งยุคแสงสี

เนื่องจาก ไวพจน์ เพชรสุพรรณ เป็นศิลปินและครูเพลงที่มีชื่อเสียงที่ไม่ค่อยได้ออกสื่อมากนัก ทำให้หลังการเสวนา ทาง Sanook Music มีโอกาสได้สอบถามเขาถึงชีวิตในปัจจุบัน รวมไปถึงความเห็นที่มีต่อวงการเพลงปัจจุบันที่ศิลปินรุ่นใหม่นิยมทำเพลงลูกทุ่งอินดี้อีสาน ซึ่งเป็นแนวเพลงที่ผสมผสานความวัฒนธรรมลูกทุ่งในอดีตและการทำงานแบบไม่จำกัดแนวคิดทางดนตรีและเนื้อหาของคนรุ่นใหม่

โดย ไวพจน์ ได้เผยเกี่ยวกับชีวิตปัจจุบัน หลังจากที่ห่างหายจากการปรากฏตัวออกสื่อว่า "ถ้าไม่มีงานทำขวัญนาค ไม่มีงานร้องเพลง ก็กลับบ้านไปอยู่บ้านที่สุพรรณบุรี ก็ทำนากันเยอะ จริงๆ ก็ไม่ได้ลงไปทำหรอก ก็ลูกหลานทำ และก็เลี้ยงปลานิล, ปลายี่สก และ ปลาตะเพียน ก็มีที่ดินเยอะ ตอนนี้ยังอยู่ในวงการเพลงลูกทุ่ง งานทำขวัญนาคเยอะเลย เพราะว่าพี่น้องให้ความเชื่อถือเชื่อมั่น ทำแล้วสนุก ทำแล้วได้สาระนะลูก"

หลังจากที่เล่าถึงการใช้ชีวิตในปัจจุบัน ทาง Sanook Music ก็มีโอกาสได้สอบถามไวพจน์ว่าเขาได้ฟังเพลงในยุคปัจจุบัน ที่ศิลปินรุ่นใหม่ทำเพลงลูกทุ่งอินดี้อีสาน โดยไวพจน์ได้ตอบกลับมาอย่างเป็นกันเองว่า "ฟังลูกฟัง มันก็ดีไปอีกแบบ เช่นนักร้องอินดี้พ่อก็รับได้ มันก็มาจากลูกทุ่ง ชอบฟังเพลงของ ก้อง ห้วยไร่ (อัครเดช ยอดจำปา) และ แซ็ค ชุมแพ (มงคล สิงชา) อะไรแบบนี้อะ เขาก็ยังไม่ทิ้งสำเนียงความเป็นลูกทุ่ง"

นอกจากจะเผยชื่อศิลปินลูกทุ่งที่ประทับใจผลงานแล้ว ไวพจน์ยังได้แสดงความเห็นต่อวงการเพลงลูกทุ่งในยุคปัจจุบันไว้ว่า "มันไม่ล่มสลายหรอก แต่ลูกทุ่งจริงๆ ก็ซบเซาหน่อย แต่ก็มีอินดี้เข้ามาแทนก็ไม่น่าน้อยใจ เพราะอินดี้ก็จะมาจากความเป็นลูกทุ่ง ก็ไม่ต้องเสียอกเสียใจ อย่างรุ่นพ่อก็คงไม่ไปริษยาใคร ใครดังพ่อก็ชื่นชมหมด พ่อไม่เคยไปเกลียดใคร แต่พ่อจะขอเตือนนักแต่งเพลงหน่อยเท่านั้นเอง แต่งเพลงให้มีสัมผัสบ้าง ให้แต่ละท่อนมันรับกัน อย่าง "รักจริงๆ เลย" ท่อนสองก็อย่าง "เห็นใจพี่บ้างไหมเอย" อย่างนี้ถือว่ามีสัมผัส ก็อยากให้มีคำสัมผัส อย่าทิ้งสำนวนของครูบาอาจารย์ รุ่นปู่ย่าตายาย หมอลำเขายังมีสัมผัส เห็นเขาร้องไวๆ นั้นมีสัมผัสนะ ไม่ได้ร้องส่งเดช คือนักแต่งเพลงรุ่นลูกรุ่นหลาน เขียนอะไรก็ได้ลูกให้มันมีสัมผัส พูดแค่นี้เขาจะรู้เลย" 

สำหรับ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ เป็นศิลปินลูกทุ่งที่มีผลงานการบันทึกเสียงมากกว่า 2,000 เพลง และมีความสามารถในการร้องเพลงแหล่จนได้รับฉายาว่า "ราชาเพลงแหล่" ซึ่งนอกจากผลงานเพลงของตัวเองแล้ว เขาก็เป็นผู้เขียนเพลงดังอย่างเช่น "แก้วรอพี่" และ "นักร้องบ้านนอก" ของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ รวมถึงเพลง "ต.ช.ด. ขอร้อง" ของ เพชร โพธาราม

>> ยุคทองเพลงลูกทุ่ง ความสุขที่ไม่มีวันหายไป