เปิดตัว “MILK!” อะคาเดมีทางดนตรีในรูปแบบ Artist Service Platform ครั้งแรกในไทย
แถลงข่าวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 สำหรับ “MILK!” ในบทบาทการเป็น Artist Service Platform ครั้งแรกของประเทศไทย นำทีมมาโดย 2 ผู้บริหารค่าย What The Duck ซึ่งถือได้ว่าเป็นบริษัทแม่ของ MILK! อย่าง มอย-สามขวัญ ตันสมพงษ์ และ บอล-ต่อพงศ์ จันทบุบผา หรือ บอล Scrubb นั่นเอง
MILK! คือชุมชนคนดนตรีที่อยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ For Better Community ถือกำเนิดจากไอเดียตั้งต้นของพฤติกรรมการฟังเพลงที่เปลี่ยนไป ด้วยจำนวนศิลปินซึ่งสามารถนำเสนอผลงานผ่านช่องทางออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อัตราการปล่อยเพลงของศิลปินที่ถี่ขึ้น แนวเพลงหลากหลายมากขึ้น ส่งผลต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมเพลงไทยในช่วงขวบปีที่ผ่านมา ต่อยอดไปสู่แนวคิดที่อยากจะพัฒนาศิลปินอิสระกลุ่มนี้อย่างจริงจัง สนับสนุนและผลักดันพวกเขาให้เติบโตในทิศทางที่ถูกต้อง
MILK! ไม่ใช่ค่ายเพลง... แต่เปรียบเสมือนอะคาเดมี
มอย และ บอล เน้นย้ำบนเวทีตั้งแต่แรกว่า MILK! ไม่ใช่ค่ายเพลงดั่งเช่นที่ What The Duck เป็น โดยแตกต่างทั้งในเรื่องของแนวคิดและกระบวนการการทำงาน หาก What The Duck เปรียบได้กับทีมฟุตบอลทีมหนึ่ง MILK! ก็คือทีมอะคาเดมีของสโมสรนั้น ศิลปินที่ทีมงานเล็งเห็นว่ามีศักยภาพจากการไปสเกาต์ (scout) ตามสถานที่ต่างๆ ก็จะมีการเชิญมาพูดคุย เซ็นสัญญา และเข้ามาอยู่ภายใต้การดูแล ให้คำปรึกษาในด้านต่างๆ ต่อไป
MILK! ย่อมาจากตัวอักษรภาษาอังกฤษ 4 ตัวคือ M = Music (ดนตรี), I = Independence (ความอิสระ), L = Learning (การเรียนรู้) และ K = Knowledge (ความรู้) ซึ่ง 2 บอสใหญ่อย่าง มอย และ บอล เน้นย้ำเรื่อง “ความอิสระ” มากที่สุด โดยอธิบายว่า ศิลปินที่เข้ามาอยู่ใน MILK! นั้นจะได้รับอิสระในการทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีการไปเปลี่ยนตัวตนของพวกเขาแต่อย่างใด เพียงแต่จะให้คำปรึกษา คำแนะนำ เพื่อชี้แนวทางให้ศิลปินได้เรียนรู้ และค้นพบว่าสิ่งที่ดีที่สุดของพวกเขาคืออะไร
คัดเลือกศิลปินด้วยความชอบ... และสัญชาตญาณ
ระหว่างที่งานแถลงข่าวกำลังดำเนินไป พร้อมกับตัวแทนศิลปิน 3 เบอร์แรกของ MILK! อย่าง Loserpop, Quicksand Bed และ Varis ที่ขึ้นไปกล่าวความในใจ เราก็แอบสงสัยเล็กน้อยว่า 3 ศิลปินข้างต้นนั้นแตกต่างจากวง ลานดอกไม้ ที่เพิ่งจรดปากกาเซ็นสัญญากับ What The Duck ไปเมื่อไม่นานมานี้อย่างไร เพราะหากมองจากคนภายนอกเข้ามาก็จะรู้สึกว่า พวกเขาเหล่านี้ก็คือ “วงอินดี้” ไม่ต่างกัน
บอล ต่อพงศ์ ชี้แจงกับทีมงาน Sanook Music ว่า ในมุมมองของเขา ลานดอกไม้ ค่อนข้างชัดเจนในทุกองค์ประกอบ แนวทางการทำเพลง สไตล์ รวมไปถึง อัตราการเติบโตของแฟนของ ลานดอกไม้ ที่มีแบบก้าวกระโดด ซึ่งอาจจะแตกต่างจากศิลปิน 3 เบอร์แรกของ MILK! ที่กำลังเริ่มต้นและมีพัฒนาการที่ดีอย่างค่อยเป็นค่อยไป MILK! ก็จะมองว่าสามารถเพิ่มเติมทักษะในด้านใดเข้าไปอีกได้บ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกล้วนแล้วแต่เกิดจาก “ความชอบ” และ “สัญชาตญาณ” ทั้งสิ้น
“ยกตัวอย่างง่ายๆ หากเป็นศิลปินของ What The Duck มันอาจจะเป็นคำแนะนำในเชิง มันควรจะเป็นแบบนั้น หรือ มันต้องเป็นแบบนั้นนะ อีกทั้งตัวศิลปินเองก็มีเป้าหมายที่ค่อนข้างชัดแล้วว่าตัวเองต้องการอะไร กว่าตอนที่เริ่มทำในช่วงแรก แต่สำหรับ MILK! มันจะเป็นเชิงคำถามมากกว่าว่า เป็นแบบนั้นดีไหม แบบนี้ดีกว่าหรือเปล่า แล้วให้ตัวศิลปินได้เรียนรู้ด้วยตัวของพวกเขาเอง” บอลอธิบายเพิ่มเติม
ห้าม ซ้ำ ชั้น!
ระยะเวลาที่ศิลปินจะมาอยู่ภายใต้การดูแลของ MILK! ตามข้อสัญญาคือ 2 ปี และสามารถเพิ่มได้อีก 1 ปี หากยังต้องการเรียนรู้อะไรเพิ่มเติม หมดจากนี้ ศิลปินก็จะเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของตนเอง อาจจะกลับไปเป็นศิลปินอิสระเต็มตัวอีกครั้ง อาจจะมีค่ายน้อยใหญ่มาจีบให้ไปร่วมงาน MILK! เปิดอิสระให้กับศิลปินอย่างเต็มที่
ภายใต้ระยะเวลาดังกล่าว MILK! ก็พร้อมจะสนับสนุนศิลปินในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
- การพัฒนาศิลปิน (Artist and Repertoire) ทั้งเรื่องของเพลงและทัศนคติที่ดี
- การให้คำปรึกษาด้านการวางแผนการตลาด และประชาสัมพันธ์ (Marketing and communication consultancy) ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ, กลยุทธ์เกี่ยวกับ Relationship รวมไปถึงการทำงานกับสื่อต่างๆ ด้วย ซึ่งในจุดนี้ MILK! ได้พันธมิตรอย่าง CJWorx เอเจนซีชื่อดังของเมืองไทยมาวางกลยุทธ์ให้
- ทุนสนับสนุน (Funding) ซึ่ง MILK! มีทุนให้ไปทำเพลง รวมถึงโปรดักชั่นด้านต่างๆ แต่ละวงก็จะได้ทุนจำนวนหนึ่งไปจัดสรร ซึ่งเม็ดเงินตรงนี้ทางศิลปินไม่ต้องชดใช้คืนแต่อย่างใด
นอกจากนั้นทาง MILK! ยังเปิดอิสระให้กับการรับงานของแต่ละศิลปินที่สามารถรับเองได้ หรือจะให้ MILK! ประสานงานให้ก็ได้ โดยเป้าหมายสำคัญคือให้ศิลปินมี “พื้นที่” ในการแสดงความสามารถให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อีกทั้งยังได้อีกหนึ่งพาร์ตเนอร์อย่าง Believe Digital ซึ่งเป็น Music Distributor ระดับท็อปมาช่วยผลักดันเพลงสู่มิวสิคสตรีมมิ่งทั่วโลกได้อีกด้วย
ทำ MILK! แล้วได้อะไร?
อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ หลายคนคงสงสัยว่า MILK! จะสร้างรายได้กลับสู่องค์กรได้มากเท่าไหร่? ด้วยวิธีการไหน? มอย-บอล กลับตอบคำถามนี้ในทิศทางที่ต่างออกไป
“MILK! ไม่ใช่ยูนิตสำหรับการสร้างรายได้ โอเค มันอยู่ในลิสต์แหละ แต่มันไม่ใช่ priority แรก ใน 3 ปี 5 ปีข้างหน้าอาจมีรายได้เข้ามาก็ได้ แต่มันไม่ใช่ความตั้งใจของเราในตอนนี้”
ดูเหมือนว่าคำตอบของคำถามที่ว่า MILK! จะอยู่อย่างไร คงไม่สำคัญเท่า MILK! กำลังจะทำอะไรต่อ คงต้องติดตามกันต่อไป แต่อย่างน้อยในวันแถลงข่าว MILK! ก็ให้โอกาสและพื้นที่สำหรับ 3 วงอย่าง Loserpop, Quicksand Bed และ Varis ที่ได้พบปะสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ และได้โชว์ฝีมือการเล่นสดด้วยตัวตนของพวกเขาอย่างแท้จริงเรียบร้อยแล้ว
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ FB : MILKbkk
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ