GMM Music เผย อัลบั้มเต็มจะกลับมา เดินหน้าบุกตลาดโชว์บิส พร้อมผลักดันศิลปินใหม่

ถือได้ว่าเป็นข่าวคราวในแวดวงดนตรีของประเทศไทยที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับการแถลงข่าวถึงการเติบโตของ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค (GMM Music) ในรอบปี 2562 ที่ผ่านมา รวมถึงแผนยุทธศาสตร์เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยมี ภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว โดยสิ่งที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากสำหรับวงการเพลงบ้านเราก็คือ การหวนคืนกลับมาลงทุนทำอัลบั้มเต็มให้กับศิลปินอย่างเต็มตัว

หากกล่าวถึงเรื่องตัวเลขทางธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค ได้เผยว่า ในปี 2562 สามารถทำรายได้รวมสูงที่สุดในรอบ 10 ปีกับตัวเลข 4,014 ล้านบาท แบ่งเป็นกำไร 472 ล้านบาท ซึ่งมาจากธุรกิจ Digital Music, Showbiz และ การบริหารลิขสิทธิ์ แต่สิ่งที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นก็คือ 3 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลา “ปรับโครงสร้าง” ขององค์กร และหลังจากนี้คือการ “สร้าง” อะไรบางอย่างขึ้นมาใหม่จากการลงทุนและร่วมมือกับพันธมิตร ซึ่ง จีเอ็มเอ็ม มิวสิค ก็ได้วางแผนยุทธศาสตร์เอาไว้ในอีก 5 ปีหลังจากนี้ จะมีประเด็นอะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับวงการเพลงบ้าง Sanook Music รวบรวมมาให้อ่านกันด้านล่างนี้เลย

อัลบั้มเต็มจะกลับมาอย่างเต็มรูปแบบ

ไม่มีใครซื้อซีดีแล้ว ศิลปินเขาไม่ทำอัลบั้มเต็มกันแล้ว... นี่คือเสียงร่ำลือในวงการที่ได้ยินกันมาอย่างหนาหู แน่นอนว่ายังคงมีศิลปินทำอัลบั้มเต็มกันอยู่ แต่หากเทียบกับอดีต ปริมาณก็ลดลงอย่างน่าใจหาย ทว่า จีเอ็มเอ็ม มิวสิค ยังมองเห็นลู่ทางในการดึงดีเอ็นเอที่แท้จริงของเหล่าศิลปินออกมาจากการทำอัลบั้มเต็ม และพร้อมจะลงทุนในจุดนี้ ทั้งในรูปแบบ Mega album และ Digital album สำหรับศิลปินที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะทำอัลบั้มเต็ม ซึ่งทาง ภาวิต เองก็ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องเสี่ยง แต่ต้องบาลานซ์ตัวเลขให้เป็น แถมยังเปิดอิสระในการร่วมมือกับศิลปินทุกค่าย ทุกแนวเพลง ใช่ว่าจะผลักดันเพียงแค่ศิลปินใน จีเอ็มเอ็ม มิวสิค เท่านั้น

ศิลปินหน้าใหม่พร้อมแจ้งเกิด

หลายคนอาจตั้งข้อสงสัยว่า ศิลปินหน้าใหม่ภายใต้ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค มีไม่มากนัก แต่ ภาวิต ก็ได้ชี้แจงว่า มีการส่งเสริมศิลปินหน้าใหม่มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น TaitosmitH เจ้าของเพลง “แดงกับเขียว” ที่กลายเป็นที่พูดถึงอย่างรวดเร็ว, Three Man Down ที่มีเพลงฮิตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หรือแม้แต่ Clockwork Motionless วงดนตรีอินดี้เล็กๆ ที่สามารถพาเพลง “ปล่อย” ก้าวสู่ร้อยล้านวิวได้ ซึ่งหลังจากนี้ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค เตรียมทุ่มงบกว่า 300 ล้านบาทในการมองหาดาวดวงใหม่ ซึ่งก็มีโอกาสที่จะได้ทำอัลบั้มเต็มเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นยังมีแผนจะร่วมมือกับบริษัทพัฒนาศิลปินระดับโลกเพื่อยกระดับในเรื่องคุณภาพอีกด้วย

ภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)

บุกตลาดออริจินัล ซาวด์แทร็ก

ภาพยนตร์หรือละครสักเรื่องย่อมต้องมีเพลงประกอบ แพลนของ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค คือการทำเพลงประกอบให้กับละครจากทุกช่อง และภาพยนตร์จากทุกค่าย เรียกได้ว่าครอบคลุมทั้งตลาด อย่างโปรเจกต์ Secre7 Room ที่ผนึกกำลังกับช่อง 7 ก็ถือเป็นการเปิดตัวที่น่าสนใจ เสริมด้วยเซกเมนต์ของ Big name, Teen Idol, Superstar และ Hip Hop แต่จะออกมาเป็นรูปแบบไหน ต้องติดตาม

เดินหน้างานโชว์บิสเต็มกำลัง

แม้ว่าจะมีงานอย่าง Big Mountain, นั่งเล่น และคอนเสิร์ตใหญ่ของศิลปินหลากหลายเบอร์เป็นเครื่องการันตีความสำเร็จ ทว่า จีเอ็มเอ็ม มิวสิค ไม่ขอหยุดอยู่แค่นี้ เพราะนอกจากจะยังจัดเต็มสำหรับ Music Festival ที่จะบุกทั่วประเทศ รวมถึง Solo Concert ทั้งศิลปินปัจจุบัน, หน้าใหม่ และกลุ่มเรโทรแล้ว ยังขอเพิ่มเติมด้วย Theme Concert ที่จะร่วมมือกับ Creator จากแวดวงอุตสาหกรรมอื่น นอกจากนั้น ยังเตรียมพร้อมกลายร่างเป็น Promoter จัดคอนเสิร์ตระดับนานาชาติอีกด้วย

นอกจากที่เรากล่าวมาแล้ว ยังมียุทธศาสตร์อื่นๆ ตามมาอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น

• การสร้างผลิตภัณฑ์ของศิลปินที่เจ้าตัวจะได้กำไรหรือขาดทุนจริงๆ ในที่นี้ไม่ใช่ Merchandise หรือสินค้าที่ระลึกแต่อย่างใด โดยจะทำกับศิลปินในสังกัด จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เท่านั้น
• พยายามเดินหน้าจับมือทุกค่ายเพลงในการสร้างประโยชน์ทางรายได้จากทุกช่องทางการค้าร่วมกัน นอกเหนือจากที่ทำ MP3 อยู่แล้วแต่เดิม
• ร่วมมือกับสื่อชั้นนำทั่วประเทศและแพลตฟอร์มรายใหญ่แบบครบวงจร
• การเข้าซื้อกิจการที่สามารถสร้างโอกาสในการเติบโตอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดดทางธุรกิจ
• พัฒนาเรื่องการทำ Data ไปสู่การสร้างสรรค์โอกาสในการทำการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการดูแค่สถิติและความเป็นไปได้ นอกจากนั้นยังมุ่งหน้าสู่การทำ Personalization เพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ที่น่าสนใจขึ้นมา

ทั้งนี้ทั้งหมดทั้งมวลเป็นแผนยุทธศาสตร์ของ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค ในอีก 5 ปีหลังจากนี้ บ้างก็อาจเริ่มทำไปแล้ว บ้างก็อยู่ในขั้นตอนการเจรจา บ้างก็กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววัน คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า สิ่งใหม่ที่ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค กำลังจะสร้างขึ้นนั้น จะส่งต่อแรงกระเพื่อมสู่วงการเพลงบ้านเราอย่างไรบ้าง