“โควิด-19” กับผลกระทบต่อวงการดนตรี ที่มากกว่าเรื่องอดดูคอนเสิร์ต | Sanook Music

“โควิด-19” กับผลกระทบต่อวงการดนตรี ที่มากกว่าเรื่องอดดูคอนเสิร์ต

“โควิด-19” กับผลกระทบต่อวงการดนตรี ที่มากกว่าเรื่องอดดูคอนเสิร์ต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม 2019 หรือไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ไม่ได้ทำให้ผู้จัด และแฟนเพลงต้องบ่นเสียดาย เสียเงิน เสียเวลากับการขอเงินคืน ยกเลิกตั๋วเครื่องบิน-ที่พัก เพราะคอนเสิร์ตยกเลิกหรือเลื่อนจัดกันเป็นว่าเล่นเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบมากกว่านั้น

งาน South By Southwest หรือ SXSW งานเทศกาลอินเตอร์แอกทีฟ ภาพยนตร์ และดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในโลกงานหนึ่งที่มีคนร่วมงานมากกว่า 200,000 คน ถูกยกเลิกโดยกรมสาธารณสุขของเมือง Austin 1 สัปดาห์ก่อนเริ่มจัดงานจากสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาด ส่งผลให้เมือง Austin ขาดรายได้ที่ประเมินจากปีที่แล้วไม่ต่ำกว่า 271 ล้านปอนด์ หรือราว 10.8 พันล้านบาท นอกจากนี้ประกันยังไม่ครอบคลุมเหตุระบาดของโรคติดต่อ จึงทำให้ผู้จัดสูญเสียรายได้มหาศาล จนขาดทุนและต้องเลย์ออฟลูกจ้างจำนวนมากออกอย่างเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้เทศกาลดนตรีระดับโลกอีกหลายงานที่กำลังจะจัดขึ้นตามมาก็เริ่มทยอยเลื่อนออกไปมากมาย ทั้งเทศกาลดนตรี EDM ชื่อดังอย่าง Ultra ที่เมือง Miami และเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Coachella ก็เลื่อนไปจัดในเดือนตุลาคม ซึ่งก็ทำให้สูญเสียเงินไปกว่า 1 พันล้านปอนด์ หรือราว 40.2 พันล้านบาทเช่นกัน

หลายๆ ประเทศในยุโรป เช่น ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ และ 16 เมืองในประเทศเยอรมันนีมีกฎห้ามคนรวมตัวกันในที่ใดที่หนึ่งมากกว่า 1,000 คนขึ้นไป นั่นหมายความว่างานคอนเสิร์ตต่างๆ ไม่ห้ามไม่ให้จัดโดยสิ้นเชิง ในขณะที่ประเทศสาธารณรัฐเช็กห้ามไม่ให้มีการรวมตัวของคนมากกว่า 100 คนขึ้นไปเท่านั้น ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศอิตาลีก็พุ่งสูงขึ้นจนกลายเป็นรองแค่เพียงประเทศจีนในเวลาอันรวดเร็ว 

มองมาที่ฝั่งประเทศเอเชียกันบ้าง หากติดตามวงการดนตรีของฝั่งเอเชียอย่างประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น เราจะเห็นว่าค่ายเพลง และศิลปินยกเลิกหรือเลื่อนการจัดคอนเสิร์ต และแฟนมีตติ้งออกไปอย่างไม่มีกำหนด งดการรวมตัวกันของแฟนคลับกับศิลปิน และเน้นการโปรโมตเพลงผ่าน live streaming และพูดคุยกับแฟนเพลงผ่านการ chat แทน

มีการประเมินคร่าวๆ ถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งในแง่ของการจัดงาน รายได้ของผู้จัด ค่ายเพลง รวมถึงศิลปินที่ไม่ได้ขึ้นแสดง รวมทั่วโลกแล้วทั้งสิ้นอาจมีมูลค่ามากถึง 54,000 ล้านปอนด์ หรือมากกว่า 2,100 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว


งานอีเวนท์ คอนเสิร์ตเลื่อน/ยกเลิก สูญเสียรายได้มากขึ้นเรื่อยๆ

หนึ่งในผู้จัดงานคอนเสิร์ตให้สัมภาษณ์กับ NME ว่า “มันเป็นเรื่องยากที่จะได้ข้อมูลจากวงในมาว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น เพราะสถานการณ์ในแต่ละวันมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพราะแต่งานมันก็มีความหลากหลายแตกต่างกันไป ตอนที่เราคิดว่าภาพรวมกำลังจะได้แล้ว สุดท้ายจิ๊กซอว์ที่เราต่อกันมาทั้งหมดก็ถูกโยนทิ้งเละเทะอีกรอบ แต่ที่แน่ๆ คือเราสูญเสียรายได้จากวงดนตรีที่จะมาเล่นให้เรา รวมถึงงานอื่นๆ ต่อไปอีกหลายทอด และสุดท้ายเหล่าแฟนเพลงก็จะเริ่มค่อยๆ เปย์ให้ศิลปินน้อยลงเรื่อยๆ เช่นกัน”

สำหรับเทศกาลดนตรีใหญ่ที่ยังเหลืออยู่ในตอนนี้คงจะเป็น Glastonbury ที่ยังออกมาอัปเดตว่าจะจัดในเดือนมิถุนายน และจะประกาศไลน์อัพให้หมดในเดือนพฤษภาคมนี้ อย่างไรก็ตามยังไม่มีอะไรรับประกันว่างานจะยังจัดอยู่ 100% เพราะแน่นอนว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในแต่ละวันที่ต้องคอยอัปเดตกันอยู่เสมอ

ดร. เอียน เอ เทย์เลอร์ อาจารย์ประจำภาควิชาอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮมซิตี้ ให้ข้อมูลว่า วงการดนตรีไม่มีทางที่จะหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับจากไวรัส COVID-19 ความร้ายแรงขึ้นอยู่กับมาตรการที่รัฐบาลจะออกมาช่วย หรือจัดการวิกฤติที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นๆ ว่าจะเปลี่ยนจาก “จำกัด” การขยายตัวของเชื้อไวรัส (containment) ซึ่งเป็นหนึ่งใน 4 มาตรการที่ทางรัฐบาลอังกฤษเตรียมไว้ ไปจนถึงการทดลอง “ทิ้งระยะห่างจากสังคม” (social distancing) เหมือนอย่างที่ในหลายๆ ประเทศสั่งห้ามไม่ให้มีการรวมตัวกันของคนจำนวนมาก รวมไปถึงการจัดคอนเสิร์ตด้วย

kanyewestPhoto by Kevin Winter/Getty ImagesKanye West แสดงคอนเสิร์คที่ The Forum

จากคอนเสิร์ตยกเลิก กระทบไปจนถึงธุรกิจอื่นๆ

แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ถึงช่วงวิกฤติหนักในหลายประเทศ แต่เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบถึงพฤติกรรม และความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้หลายคนไม่อยากเข้าร่วมงานคอนเสิร์ต หรือการแสดงใดๆ ก็ตาม ตั้งแต่การตามหาซื้อสบู่ เจลล้างมือ แอลกอฮอล์ต่างๆ ไปจนถึงความคิดที่ว่าไม่ควรเข้าร่วมงานแสดงสดต่างๆ ไม่ว่าในงานนั้นจะมีมาตรการป้องกันอย่างเต็มที่ก็ตาม

ธุรกิจจัดคอนเสิร์ต และอีเวนท์ต่างๆ ก็ว่าหนักแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อไปถึงธุรกิจท่องเที่ยวด้วย เพราะมีคนจำนวนมากที่เดินทางไปต่างประเทศเพื่อร่วมชมคอนเสิร์ต และร่วมงานเทศกาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นธุจกิจสายการบิน โรงแรม รวมไปร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆ ตามแหล่งรวมนักท่องเที่ยว ที่คาดว่าน่าจะสูญเสียรายได้ไปจำนวนมากเช่นกัน จากที่ธุรกิจดนตรีที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวนี้เคยสร้างรายได้มากถึง 4.5 พันล้านปอนด์ หรือราว 181 พันล้านบาทเลยทีเดียว

“การยกเลิกการจัดงานต่างๆ เป็นผลกระทบที่ค่อนข้างชัดเจนต่อธุรกิจต่างๆ ในวงกว้างที่เคยได้ผลประโยชน์จากการจัดงานเหล่านี้ ทั้งโรงแรม แท็กซี่ ร้านนั่งชิลล์ตอนกลางคืน ร้านอาหาร ทุกอย่างจะสูญเสียรายได้ลงเรื่อยๆ หลังจากการจัดงานใหญ่ๆ ถูกยกเลิก”

ทางแก้ไข หรือวิธีเยียวยาผู้ประกอบการเหล่านี้ ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะมีมาตรการอะไรออกมาช่วยเหลือ หรือรองรับการสูญเสียรายได้มหาศาลในช่วงเวลานี้


ศิลปินต้องชิงยกเลิกงานก่อน เพราะประกันไม่ชดเชยให้

ทางด้านศิลปินก็ได้รับผลกระทบไม่น้อย Laura Jane Grace นักร้องสาวจากวง Against Me! ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “วงดนตรีที่ออกมายกเลิกการเข้าร่วมคอนเสิร์ต หรืองานต่างๆ เพราะบริษัทประกันออกมาอัปเดตว่าบริษัทไม่จ่ายค่าชดเชยให้ในกรณีที่ศิลปินถูกยกเลิกงานจากการระบาดของไวรัส ฉันเข้าใจเพราะฝั่งของเราก็ทำแบบเดียวกัน”

“ศิลปินส่วนใหญ่ไม่มั่นใจต่อสถานการณ์ไวรัสระบาดในขณะนี้ เพราะบริษัทประกันออกมาบอกว่าประกันของเขาไม่ครอบคลุมกรณีนี้ นอกจากนี้ผู้จัดยังอาจไม่สามารถขอเงินประกันชดเชยในฝั่งของเขาได้ด้วยเช่นกัน และยังไม่มีการยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือจากรัฐบาลเผื่อเจอสถานการณ์ที่มันย่ำแย่กว่าเดิม ด้วยงานแสดงขนาดมากกว่า 1,000 คนเข้าร่วมหลายงานที่ถูกยกเลิกไปแบบนี้ จะเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของใครหลายคนแน่นอน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากๆ”

Théo Quiblier เอเจนซี่ของวงสวิส Two Gentleman ให้ข้อมูลว่า “เรากำลังประสบปัญหาที่เราไม่เคยพบเจอมาก่อน ศิลปินจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าแพลนทัวร์คอนเสิร์ตที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้จะยังมีอยู่เหมือนเดิมไหม และคนที่ยังไม่ได้เริ่มทัวร์ก็ไม่แน่ใจว่าจะได้ทัวร์หรือเปล่า และยังกลัวกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในกรณีที่ไม่สามารถไปทัวร์ในบางประเทศได้อีกด้วย ตอนนี้ทุกคนมืดแปดด้านมากๆ”

Naomi Pohl เลขานุการของสหภาพนักดนตรีของอังกฤษ (The Musicians’ Union) ให้คำแนะนำว่า “นักดนตรีควรมีเงินเก็บเผื่อว่าไม่มีงานเข้ามาราว 2-3 เดือน แต่ส่วนใหญ่นักดนตรีมักหวังได้รับเงินใช้แบบงานต่องานมากกว่า”


เมื่อทุกอย่างกลับมา อย่าลืมไป Enjoy the show กันอีกครั้ง

แม้ว่าด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้จะทำให้ใครหลายคนเกิดอาการ “กลัว” ที่จะไปอยู่ในสถานที่ที่มีคนรวมอยู่เป็นจำนวนมากอย่างคอนเสิร์ต แต่ในอนาคตหากทุกอย่างเริ่มค่อยๆ กับมาเข้าสู่สภาวะที่ดีขึ้นแล้ว อย่าลืมร่วมงานคอนเสิร์ตต่างๆ กันได้เหมือนเดิม และร่วมสนับสนุน ช่วยผู้จัด ค่ายเพลง และศิลปินฟื้นฟูวงการเพลงที่ต้องซบเซาลงจากเหตุการณ์นี้กันให้มากๆ เพราะไม่ว่าอย่างไรเสน่ห์ของการแสดงสดบนเวทีก็ยังยากที่จะมีอะไรมาแทนที่ได้ และตราบได้ที่เรายังมีศิลปินดีๆ อยู่ในโลกใบนี้ คอนเสิร์ตต่างๆ ก็ยังคงต้องมีต่อไป เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ทางดนตรีที่ไม่มีวันเข้าใจได้หากไม่ได้มาสัมผัสด้วยตนเอง

เราจะรอจนกว่าวันนั้นจะมาถึง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook