IZ*ONE-BLOOM*IZ : ปิดฉากไตรภาคดอกไม้และก้าวต่อไปของสาวๆ โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง

หลังจากลุ้นกันอยู่หลายรอบในที่สุด BLOOM*IZ (อ่านว่า ‘บลูม-อาย’) อัลบั้มเต็มชุดแรกของสาวๆ IZ*ONE ก็วางจำหน่ายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากเดิมที่เคยกำหนดไว้ตอนพฤศจิกายน 2019 แต่ต้องเลื่อนออกไปเพราะพิษดราม่าโกงคะแนนรายการ Produce 48 สำหรับรายละเอียดเรื่องนี้สามารถฟังได้ทาง ติ่งแตก Podcast EP1 นะจ๊ะ (ถือโอกาสโฆษณารายการเสียเลย)

IZ*ONE

สำหรับผลตอบรับต่อ BLOOM*IZ ก็ถือว่าถล่มทลาย เพียงแค่วันแรกมียอดขายปาไปราว 184,000 แผ่น ครองสถิติยอดขายเปิดตัวสูงสุดในบรรดาเกิร์ลกรุ๊ป เอาชนะสถิติเดิมของ TWICE หรือ BLACKPINK ได้ สาเหตุที่ยอดแรงขนาดนี้คงเพราะแฟนคลับอัดอั้นกันมานานว่าตกลงวงจะได้ไปต่อหรือไม่ พอวงกลับมาเลยซัพพอร์ตกันแบบเต็มที่ จนเมื่อช่วงกลางมีนาคม ยอดขายก็ทะลุสี่แสนแผ่นไปแล้วเรียบร้อย

อัลบั้ม BLOOM*IZ ยังคงเล่นกับคอนเซ็ปต์ ‘ดอกไม้’ ต่อเนื่องจากผลงานสองชิ้นก่อนอย่าง "La Vie en Rose" (ดอกกุหลาบ) หรือ "Violeta" (ดอกไวโอเล็ต) พอเป็นการปิดไตรภาคก็เลยเป็นการบานสะพรั่งของดอกไม้ (ตามคำว่า bloom) คีย์อาร์ตของอัลบั้มจึงเป็นดอกไม้หลากสีสัน เช่นเดียวกับเพลงเปิดตัวอย่าง "FIESTA" ที่หมายถึงงานเฉลิมฉลอง มีนัยทั้งการฉลองการออกอัลบั้มเต็มครั้งแรกและการกลับคืนสู่วงการ ตัวมิวสิกวิดีโอโดดเด่นด้วยการเล่นกับสีสันแทบจะทุกเฉดสีในโลกนี้ ดูเอ็มวีครั้งแรกถึงกับอุทานว่า "สีสดได้อี๊กกกก"

คลิกชมเอ็มวี FIESTA - IZ*ONE 

 

BLOOM*IZ ทำออกมาสามเวอร์ชันด้วยกัน คือ I Was, I Am และ I Will สะท้อนถึงสามช่วงวัย ความเยาว์วัย, ความสาว และความเป็นผู้ใหญ่ ทั้ง 12 แทร็คในอัลบั้มมีบรรยากาศสอดคล้องไปทางนั้น คือมีทั้งเพลงสนุกสนานและเพลงช้า แต่โดยรวมยังคงเอกลักษณ์ของ IZ*ONE ได้ คือเสียงร้องแหลมสูงประหนึ่งไม่ห่วงชีวิตตอนร้องสด (แต่น้องๆ ก็ลิปซิงค์เป็นส่วนใหญ่ เอาน่า ท่าเต้นเขายาก เข้าใจได้) ทำนองเพลงที่มีโทนน่ารักสดใส และงานโปรดักชั่นที่ดูพิถีพิถัน ไม่ค่อยจะมีแทร็คที่รู้สึกว่าทำส่งๆ สักเท่าไร

ส่วนตัวแล้วเพลงที่ผู้เขียนชอบในอัลบั้มจะเป็นพวกเพลงจังหวะเร็ว เช่นไตเติ้ลแทร็คอย่าง "FIESTA" หรือเพลงแนวเซ็กซี่แบบ "AYAYAYA" ส่วนเพลงบัลลาดอย่าง "YOU & I" หรือ "SOMEDAY" ออกจะตามมาตรฐานไปสักหน่อย อีกส่วนที่ชอบคือเพลงค่อนข้างมีลักษณะเป็นคอนเซ็ปต์เช่น เพลงจังหวะกลางๆ ทำนองล่องลอยชวนฝันอย่าง "DREAMLIKE" หรือ "DAYDREAM" ก็มีคำว่า dream อยู่ในชื่อ หรือเพลงแรกของอัลบั้มมีชื่อว่า "EYES" ส่วนเพลงสุดท้ายชื่อว่า "OPEN YOUR EYES" เป็นเพลงอิเล็กทรอนิกส์ที่ปิดอัลบั้มได้อย่างสวยงาม

ผลงาน 3 ชุดแรกของ IZ*ONE ต้องยกความดีให้กับ ฮันซองซู ท่านประธานจากค่าย Pledis ที่ทำหน้าที่โปรดิวเซอร์ แม้ว่าค่าย Pledis จะทำเราช้ำใจอยู่หลายครั้ง ทั้งความไม่ชัดเจนของ After School และวง Pristin ที่ยุบวงในเวลาเพียงสองปี แต่ต้องยอมรับว่าฮันซองซูทำได้ดีกับการดูแลการผลิตของไตรภาคดอกไม้ อย่างไรก็ดี เมื่อมีนาคมฮันซองซูได้ประกาศว่าจะยุติบทบาทหน้าที่โปรดิวเซอร์ของ IZ*ONE และส่งไม้ต่อให้คนอื่น เราก็ได้แต่หวังว่าโปรดิวเซอร์คนใหม่จะรักษาคุณภาพของวงไว้ได้

ก้าวต่อไปของ IZ*ONE ถือเป็นเรื่องน่าจับตาอย่างยิ่ง อย่างที่ทราบกันว่าวงนี้มีระยะสัญญาเพียงสองปีครึ่ง ก่อนที่สมาชิกแต่ละคนต้องกลับไปสังกัดดั้งเดิมของตัวเอง (น่าจะช่วงเมษายน 2021) เวลาทุกวินาทีของ IZ*ONE จึงมีค่า แถมดันเสียไปเกือบสามเดือนจากดราม่าโกงคะแนน แล้วช่วงปี 2020 ยังมีวิกฤตไวรัส โควิด-19 อีก ทำให้ทัวร์คอนเสิร์ตของวงต้องล่าช้าไปด้วย (ได้ข่าวแว่วมาว่าสาวๆ จะมาไทยด้วย)

ถือได้ว่าเป็นวงที่มีอุปสรรคมากมายเหลือกิน แต่คงต้องท่องในใจว่าควรเก็บเกี่ยวช่วงเวลาที่น่าประทับใจเหล่านี้ไว้ให้มากที่สุด ตามสำนวนที่เขาว่า Enjoy it while it lasts!

____________________

ผู้เขียน - คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง

(Kanchat Rangseekansong)

เปิดโลกดนตรีและไอดอลกับคันฉัตร