ชวน “ปอย Portrait - โอ ปวีร์” คุยตอนอยู่บ้าน ว่าด้วยการปรับตัวและโปรเจกต์คัฟเวอร์สุดหฤหรรษ์

แน่นอนว่าในช่วงวิกฤตจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ส่งผลกระทบไปถึงทุกแวดวงไม่เว้นแม้แต่ศิลปินเพลงที่งานถูกแคนเซิลเกลี้ยง และจำต้องอยู่บ้านเพื่อลดความเสี่ยงในการรับและแพร่เชื้อ ก่อเกิดเป็นโปรเจกต์ทางออนไลน์มากมายที่น่าตื่นเต้น รวมไปถึง “BOXX FROM HOME” จากค่าย BOXX MUSIC ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน

โปรเจกต์นี้ไม่ใช่การไลฟ์เพื่อพบปะแฟนเพลงอย่างที่ช่วงนี้เห็นกันบ่อยครั้ง ทว่านี่คือการปล่อยเพลงใหม่จำนวน 14 เพลงจาก 14 ศิลปินในสังกัด ทุกวันวันละ 1 เพลง ที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นก็คือ การหยิบเพลงของศิลปินในค่ายมาคัฟเวอร์ในหนนี้ จะไม่มีใครได้รู้ว่าแต่ละคนหยิบเพลงอะไรไปทำใหม่ ไม่มีใครรู้ว่าจะปล่อยเพลงออกมาวันใด นั่นหมายความว่าตัวศิลปินเองก็ต้องมาลุ้นพร้อมแฟนเพลงนี่แหละ ว่าเพื่อนพี่น้องร่วมค่ายจะสร้างสรรค์อะไรออกมาให้ได้ฟังกัน

นั่นจึงเป็นที่มาที่ Sanook Music ชวน 2 ตัวแทนจากโปรเจกต์ BOXX FROM HOME อย่าง Portrait หรือ ปอย-ตวัน ชวลิตธำรง และ โอ-ปวีร์ คชภักดี มาต่อสายสนทนากัน ไม่ว่าจะเป็นการอยู่บ้าน จนไปถึงการปรับตัวต่างๆ นานาในโมงยามนี้

 

ช่วงนี้ที่สถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด ทุกคนต่างกักตัวเองอยู่แต่ในบ้าน หลายค่ายเพลงก็เริ่มขยับตัวทำนู่นทำนี่ในฝั่งออนไลน์มากขึ้น อยากรู้ว่า BOXX FROM HOME จากค่าย BOXX MUSIC แตกต่างจากโปรเจกต์อื่นๆ อย่างไร?

ปอย: อย่างแรกที่แตกต่างเลยก็คือ เราจะปล่อยเพลง 14 วัน 14 เพลง ก็คือวันละเพลงแบบรวดเดียว ฟังกันแทบจะไม่ทันเลยทีเดียว (หัวเราะ) อีกอันหนึ่งที่รู้สึกเซอร์ไพรส์ผมมากก็คือ ผมและศิลปินทุกคนจะไม่รู้เลยว่า ใครทำเพลงอะไร ใครคัฟเวอร์เพลงของใคร รู้แค่เฉพาะทีมงานเท่านั้น อย่างคุณโอ ปวีร์ ผมก็ไม่รู้ว่าเขาคัฟเวอร์เพลงใครนะ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าจะปล่อยเมื่อไหร่ ลำดับการปล่อยก็ไม่รู้ คือศิลปินเองก็ต้องมานั่งลุ้นกันทุกวันเช่นกัน เพราะได้ฟังพร้อมแฟนเพลงนั่นแหละ

โอ: สิ่งหนึ่งที่ผมว่ามันน่าสนใจก็คือ เราไม่รู้ใช่ไหมว่าเพลงไหนจะปล่อยวันไหน แต่เท่าที่ปล่อยออกมา 5 เพลงแล้วเนี่ย เหมือนเพลงถูกสร้างมาให้เหมาะกับการนั่งชิลๆ สบายๆ จิบกาแฟอยู่ที่บ้าน ผ่อนคลายจากสถานการณ์ต่างๆ

มีการบรีฟใดๆ จากทีมงานไหม?

ปอย: ไม่นะ ไม่รู้ว่าโอได้รับบรีฟมาอย่างไรหรือเปล่า

โอ: สำหรับผมคือ... ไม่ได้รับบรีฟอะไรเลยครับ (หัวเราะ) เขาบอกว่า โออยากทำเพลงอะไรก็ลองทำมา แค่นี้เลยครับ

ปอย: ผมกำลังสงสัยว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญด้วยซ้ำ เหมือนไม่มีใครบรีฟว่าต้องทำเป็นแนวชิลๆ แต่ทุกคนพร้อมใจกันทำเวอร์ชั่นฟังสบายๆ ออกมาโดยไม่ได้นัดหมายกัน

ปอย Portrait

แล้วการเลือกเพลงมาคัฟเวอร์ล่ะ?

ปอย: ก็ไม่มีใครมากำหนดเช่นกันครับ เลือกเอา ใครเลือกก่อนได้ก่อน เร็วกว่าได้เปรียบ (หัวเราะ) ถ้าซ้ำทีมงานก็จะบอกว่า มีคนเลือกเพลงนี้ไปแล้วนะ ไปเลือกเพลงอื่น

เพลงที่ทั้งคู่เลือก เป็นตัวเลือกแรกเลยไหม?

ปอย: ตัวเลือกแรกครับ

โอ: ผมก็เหมือนกันครับ

คือตอนนี้เพลงที่ทั้งคู่เลือกมาคัฟเวอร์ยังไม่ถูกปล่อยออกมา พอจะแง้มๆ ใบ้ให้แฟนๆ Sanook Music สักหน่อยได้ไหม?

ปอย: เพลงที่ผมเลือกมาคัฟเวอร์เป็นเพลงที่ไม่ค่อยดังของศิลปินคนนั้นครับ เหมือนกับเป็นเพลงซ่อน ไม่ค่อยได้โปรโมต แล้วบังเอิญว่าเป็นเพลงที่ผมอยากร้องมาตลอดด้วย โชคดียังไม่ค่อยมีใครมุ่งเป้าไปทางนั้น ก็เลยรีบจองก่อน คือผมอยู่กับเพลงนี้มาตั้งแต่กระบวนการแรกเลยนะ ชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ฟัง เป็นเพลงที่ผูกพัน แล้วก็อยากเอามาร้องตั้งนานแล้ว ผมว่ามันเหมาะกับ Portrait ดี

โอ: ของผมใบ้ยากมากเลยอะ (หัวเราะ) เอาเป็นว่า เป็นเพลงโฟล์คฟังสบายๆ ชิลๆ แล้วกันครับ อยากทำอะไรแบบนี้ดูสักครั้งในชีวิต เครื่องดนตรีไม่ได้เยอะมาก แต่สวยงามดี

แน่นอนว่าการทำงาน การส่งเพลงในช่วงนี้ วิธีการมันอาจจะไม่เหมือนเดิม?

ปอย: คือการทำเพลงจริงๆ มันสามารถทำได้อยู่แล้วโดยที่ไม่ต้องเจอกัน มันแค่พูดคุยผ่านโทรศัพท์ แล้วส่งงานผ่านอินเทอร์เน็ต เพียงแต่ในช่วงนี้เราอาจจะไม่สามารถทำกระบวนการบางอย่างได้ เช่น การประชุมพร้อมหน้าพร้อมตา เปิดชาร์ต เปิดพรีเซนต์ให้ดูอะไรอย่างนี้ จริงๆ ช่วงนี้ยังไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้ แต่ก็ไม่แน่ ถ้ายังต้องอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ อีกสัก 2 เดือนขึ้นไป มันอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานอีกรอบหนึ่ง ถามว่าทำได้ไหม ผมเชื่อว่าในที่สุดทุกคนจะสามารถหาทางออกกันเจอ และจะรู้ว่าต้องอยู่กับมันอย่างไรโดยที่ไม่เป็นทุกข์เกินไป นี่ผมก็ไม่เคยอยู่บ้านนานขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต (หัวเราะ)

ในเชิงการเป็นค่ายเพลงต้องปรับตัวเยอะแค่ไหน?

ปอย: ผมว่าเยอะนะ คือผมก็ไม่ได้อยู่ในกระบวนการทุกภาคส่วน ก็เลยไม่เห็นว่าตอนนี้มันมีความกระทบกระเทือนอะไรบ้าง แต่ได้ยินมาคร่าวๆ ว่าต้องหยุดหลายๆ อย่างไว้ โดยเฉพาะเรื่องแผนการปล่อยเพลง ตอนนี้เหมือนเป็นช่วงของการดูท่าที ว่าจะเป็นการหยุดระยะสั้นหรือระยะยาว ถ้ามันจะเป็นระยะยาวจริงๆ อีกไม่นานคงมีการประกาศภายในค่ายว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง

โอ ปวีร์

แล้วในฐานะการเป็นศิลปินล่ะ?

โอ: ผมคิดได้ 2 มุมนะ คือแน่นอนอยู่แล้วว่าเรื่องแพลนต่างๆ มันต้องเปลี่ยนไปหมด งานทุกอย่างต้องหยุด มันเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถจะไปห้ามมันได้ แต่ในอีกแง่มุมมันก็ทำให้เรามีโอกาสค้นพบช่องทางอื่นๆ ได้เช่นกัน เช่น เราสามารถที่จะไลฟ์กับแฟนเพลงของเราได้มากขึ้น มีเวลาหาช่องทางใหม่ๆ ในการโปรโมตตัวเอง คือก็ต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน อย่างแฟนเพลงเขาเข้าไปอยู่ในแอปฯ TikTok มากขึ้น ผมก็โหลดมาเล่น ให้มันไปด้วยกันได้อย่างที่ไม่ลำบากจนเกินไป แล้วก็ได้มีโอกาสทบทวนตัวเอง ซ้อม อยู่กับสิ่งที่เราต้องใช้มันประกอบอาชีพให้มากที่สุด เพราะมันเป็นเรื่องที่ผมก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น แล้วผมก็รู้ว่าทุกคนก็ไม่คาดคิดเช่นกัน

ย้อนกลับไปตอนที่ยังไม่มีการปล่อยเพลงในโปรเจกต์ BOXX FROM HOME ออกมา ส่วนตัวทั้งคู่อยากฟังการคัฟเวอร์ของใครมากที่สุด?

โอ: ตอบแบบตรงๆ เลยคือ ไม่ได้คิดเลยครับว่าอยากฟังของใครเป็นพิเศษ แต่อยากรู้ว่างานที่จะออกมาในแต่ละเพลงจะเป็นรูปแบบไหนมากกว่า เสียงร้องพี่ปอยจะออกมาเป็นอย่างไร มาร์ค (ธัชพล) หรือ Copter จะร้องแบบไหน อย่างนี้มากกว่า

ปอย: ของผมมีครับ ผมอยากฟัง The White Hair Cut เพราะว่าเขามีความเป็นเอกลักษณ์ของเสียงสูงมาก อยากรู้ว่าถ้าเวลาเขาคัฟเวอร์เพลงคนอื่นจะเป็นอย่างไร เคยฟังแต่ที่เขาทำเพลงของตัวเอง อยากรู้ว่าเขาจะออกมาจากพื้นที่ปลอดภัยหรือ safe zone ของตัวเองได้ขนาดไหน อันนี้เป็นสิ่งที่ผมเฝ้ารอ

พอเห็นคำว่า BOXX FROM HOME เรานึกถึงห้องสี่เหลี่ยมภายในบ้าน อยากรู้ว่าห้องๆ ไหนคือพื้นที่ที่พวกคุณชอบมากที่สุด?

โอ: ผมชอบห้องนอนครับ เมื่อก่อนผมอยู่หอ เคยอยู่ที่ห้องสัปดาห์หนึ่งไม่ไปไหนเลย คือผมเป็นคนที่ชอบอยู่ในห้อง แล้วก็ใช้เวลาอยู่ในห้องนอนมากที่สุด ก็เลยค่อนข้างจะมีความผูกพันกับห้องตัวเองมากเป็นพิเศษครับ

ปอย: น่าจะเป็นห้องนั่งเล่นครับในช่วงนี้ เอาไว้กินข้าว นั่งเล่นเกม เล่นกับหมา ใช้เวลาอยู่กับภรรยา ทำกิจกรรมด้วยกัน ออกกำลังกาย เล่นเกม มันจะเป็นพื้นที่ที่เราได้ใช้เวลากับคนในครอบครัวเรา

คาดหวังอะไรกับโปรเจกต์ BOXX FROM HOME บ้างไหม?

โอ: ผมแทบไม่มีการคาดหวังอะไรเลยครับ แค่ผมต้องการทำเพลงฟังสบายในช่วงเดือนที่อุณหภูมิมันอาจจะเฉียดไปถึง 40 องศาเซลเซียส ยิ่งเรามีเพลงที่เพราะๆ ชิลๆ ให้แฟนๆ ได้ฟังในเวลาที่เขา work from home อยู่บ้าน ผมว่าสิ่งที่เขาจะได้คือความสุข ความสบายหู ความผ่อนคลาย ไม่ได้คาดหวังให้มันป็อปปูลาร์ขนาดนั้น แค่ต้องการให้มันเป็นเพลงที่ทำให้เขาสบายใจ เป็นเพื่อนเขาเวลาทำงานแค่นั้นพอ

ปอย: ในตอนนี้เราต้องอยู่บ้านเพื่อส่วนรวม แต่ในวิกฤตนั้นก็เกิดโอกาสขึ้น นั่นก็คือมีเพลงใหม่ขึ้นมาให้ฟัง 14 เพลงเลย มันเป็นเพลงที่อยู่นอกเหนือแผนของค่ายด้วยซ้ำ คิดกันเร็วๆ แล้วทำกันเดี๋ยวนั้นเลย ด้วยความที่อยากให้ทุกคนมีอะไรฟังตอนที่ต้องอยู่บ้านกัน แล้วก็เหมือนกับเราได้กลับมาตีความเพลงของพี่ๆ น้องๆ ใน BOXX MUSIC ด้วย เพลงที่เคยปล่อยไปแล้ว หรือเพลงที่บางคนอาจจะลืมไปแล้ว เราเอากลับขึ้นมาปัดฝุ่นใหม่ ตีความใหม่ มันก็เหมือนกับได้ฟังเพลงต่างๆ ในแง่มุมใหม่ๆ อีกรอบหนึ่งครับ

อ่านกันจนมาถึงตอนนี้ BOXX FROM HOME ปล่อยเพลงออกมาแล้ว 5 เพลง นับตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน เป็นต้นมา ไม่ว่าจะเป็น “ฉันต้องคิดถึงเธอแบบไหน” โดย มาร์ค-ธัชพล จุลเกษม, “ยังคิดถึง” โดย ฝ้าย-ปัถยา วาสนสิริ, “ฉันก็ยังจะบอกรักเธอ” โดย Copter, “เธอบอกว่าฉันไม่ดี” โดย อิ้งค์-วรันธร เปานิล และล่าสุด “เหงา เหงา” โดย The White Hair Cut ที่เหลือจะมีเพลงอะไรและคัฟเวอร์โดยใครบ้าง มาลุ้นกันต่อนะ