(G)I-DLE – Oh my god : คือ "พระเจ้า" หรือ "คนรัก" ที่เป็น "หญิง" โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง
ท่ามกลางวงเกิร์ลกรุ๊ปจากเกาหลีใต้ที่มีมากมายสารพัด ตั้งแต่วงดังระดับโลกไปจนถึงวงที่ยุบวงไปแล้วเรายังไม่รู้ถึงการดำรงอยู่ด้วยซ้ำ ผู้เขียนขอฟันธงเลยว่า (G)I-DLE (อ่านว่า ‘ไอเดิล’) คือวงผู้หญิงที่น่าจับตาที่สุดของวงการเคป็อป ณ ตอนนี้ โดยไม่ใช่เพราะพวกเธอสวย เซ็กซี่ หรือ น่ารัก หากแต่เพลงของวงนี้ ‘ต่าง’ ออกไปจากวงอื่นๆ อย่างชัดเจน
(G)I-DLE ประกอบด้วยสมาชิก 6 คน คนที่เด่นที่สุดคือ โซยอน ผู้ควบตำแหน่งหัวหน้าวง คนแต่งเพลง ผู้ออกแบบคอนเซ็ปต์ (หลายคนคุ้นหน้าเธอจากการร่วมรายการ Produce 101 และ Unpretty Rapstar) มีการตั้งแง่ว่าตัวตนของโซยอนโดดเด่นเกินไปจนกลบเมมเบอร์คนอื่น แต่มันก็แลกมาด้วยทิศทางของเพลงที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จะเห็นได้ว่าเพลงช่วงแรกอย่าง "Latata" หรือ "Senorita" ยังมีความป็อปและสนุกสนานอยู่ ทว่าผลงานหลังจากนั้นจะมีความซับซ้อนและหนักแน่นขึ้นทั้งภาคดนตรีและเนื้อหา
คลิกชมเอ็มวี LION - (G)I-DLE
ผู้เขียนเริ่มสนใจ (G)I-DLE เมื่อครั้งพวกเธอร่วมเข้าแข่งรายการ Queendom จากโชว์เพลง "Put It Straight" ที่เป็นธีมฝันร้าย จนการแสดงออกมาน่ากลัวหลอกหลอน ไม่มีความแบ๊วแบบวงเกิร์ลกรุ๊ปทั่วไป ส่วนในรอบสุดท้ายวงแข่งด้วยเพลง "Lion" ที่กลายเป็นซิงเกิลน่าจดจำประจำปี 2019 ด้วยเนื้อหาทรงพลังว่าด้วยการลุกขึ้นสู้ของผู้หญิงที่ไม่แยแสต่อความเจ็บปวดและบาดแผลใดๆ
คลิกชมเอ็มวี Oh my god - (G)I-DLE
ซิงเกิลล่าสุดอย่าง "Oh my god" ที่ปล่อยออกมาในเดือนเมษายน 2020 ก็ถือว่าน่าประทับใจมาก แม้ตัวเพลงอาจจะไม่เปรี้ยวเท่า "Lion" แต่ถือเป็นงานที่น่าค้นหา การฟังแต่ละครั้งจะค้นพบอะไรใหม่ๆ เสมอ ส่วนมิวสิควิดีโอออกมาในโทนสีสันจัดจ้าน เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ชวนตีความ เป็นผลงานกำกับโดย Rigend Film Studio ที่เคยมีผลงานเอ็มวีเด่นๆ หลายตัว เช่น "FIESTA" ของ IZ*ONE และ "FLASH" ของ X1
การตีความมิวสิควิดีโอเพลง Oh my god สามารถทำได้หลายทางด้วยกัน มันอาจเป็นเรื่องการเข้าหาพระเจ้าและศาสนา อย่างที่เห็นว่ามีซิมโบลิกทั้งไวน์แดง แอปเปิ้ล และไม้กางเขน แต่จุดที่น่าสนใจคือท่อนฮุคที่ร้องว่า “Oh my god / She took me to the sky” หาก She = god ก็แปลว่าวงยังย้ำแนวคิดเฟมินิสต์ต่อไป อย่างที่สังเกตได้ว่าแดนเซอร์ของ (G)I-DLE เป็นหญิงล้วนเกือบทุกโชว์, เอ็มวีเพลง "LION" ไม่มีผู้ชายปรากฏตัวเลย และคราวนี้พวกเธอกำลังสร้างโลกที่พระเจ้าอาจเป็นเพศหญิง
เราอาจวิเคราะห์เพลงนี้ในเชิงความรักก็ได้ เนื้อหาโดยรวมว่าด้วยตัวเอกที่กำลังอารมณ์กระเจิดกระเจิงไปกับคนคนหนึ่งจนลืมเรื่องการใช้เหตุผล เธอรู้ว่าความสัมพันธ์นี้อันตราย แต่ก็พร้อมจะกระโจนเข้าหา อาจมองว่า Oh my god เป็นคำอุทาน และ She ในที่นี้คือ ‘คนรักหญิง’ ของตัวเอก เช่นนั้นแล้วเพลงนี้จึงมีเนื้อหาว่าด้วยคู่รักเลสเบี้ยนซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมเกาหลียังไม่ยอมรับ ในช่วงครึ่งหลังของเอ็มวีจึงด้วยไปด้วยอุปสรรคอย่างลวดหนามและโคลนตม กระทั่งไม้กางเขนก็อาจมีความหมายไปในทางเดียวกัน ตามที่พวกเคร่งศาสนามักอ้างว่า "พระเจ้าสร้างผู้ชายให้คู่กับผู้หญิง"
ยังมีรายละเอียดอื่นๆ ที่ชวนขบคิด เช่น ชื่อเพลง "Oh my god" ที่เลือกใช้อักษรจีตัวเล็ก (g) อาจสื่อว่า god ในที่นี้ไม่ใช่พระเจ้า (God) แต่คือคนรัก (หญิง) ที่ตัวเอกเชิดชูประหนึ่งพระเจ้า หรือท่อนฮุคที่ร้องว่า "เธอพาฉันโบยบินสู่ท้องฟ้า เธอทำให้ฉันเห็นดวงดาว” ก็ชวนให้คิดแบบติดเรทว่ากำลังพูดเรื่องการบรรลุจุดสุดยอด นอกจากนั้นฉากตอนต้นที่มินนี่เดินแหวกผ้าม่าน ตัวผ้าก็ดันมีลักษณะเหมือน ‘จิ๊มิ’ เสียด้วย ดังนั้นมันอาจหมายถึงการช่วยตัวเองของผู้หญิงก็ได้
ความกิ๊บเก๋ของมิวสิกวิดีโอยังอยู่ที่การเริ่มต้นด้วยภาพของมินนี่ในชุดขาว แต่ตอนจบเธอกลับเปรอะเปื้อนไปด้วยหมึกสีดำ เพราะไม่ว่าจะความรักแบบเลสเบี้ยนหรือการสำเร็จความใคร่ของผู้หญิงก็ล้วนถูกมองว่าเป็นสิ่งต้องห้ามในสังคมอนุรักษ์นิยม แต่ถ้าถามว่าตัวละครในเอ็มวีเพลงนี้แคร์กับการที่ตัวเองต้องแปดเปื้อนหรือเปล่า ก็ต้องตอบว่า...ไม่เลยสักนิด
____________________
ผู้เขียน - คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง
(Kanchat Rangseekansong)
เปิดโลกดนตรีและไอดอลกับคันฉัตร