คุยกับ “Jeremy Zucker” ถึงเพลงอกหักอันสวยงามจากอัลบั้มเต็มชุดแรก "love is not dying" | Sanook Music

คุยกับ “Jeremy Zucker” ถึงเพลงอกหักอันสวยงามจากอัลบั้มเต็มชุดแรก "love is not dying"

คุยกับ “Jeremy Zucker” ถึงเพลงอกหักอันสวยงามจากอัลบั้มเต็มชุดแรก "love is not dying"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เกิดกระแสความฮอตดังไกลข้ามประเทศ หลังจากที่ศิลปินอินดี้ป็อประดับโลกอย่าง Jeremy Zucker เจ้าของเพลงดัง comethru” ที่มียอดสตรีมกว่าพันล้านครั้ง ได้ปล่อยผลงานอัลบั้มแรก love is not dying ออกมาให้แฟนเพลงได้ฟัง และยังได้รับฟีดแบ็คที่ดีจากสื่อมวลชนต่างประเทศ รวมไปถึงสื่อมวลชนในประเทศไทยให้การต้อนรับศิลปินหนุ่มหน้าหวานคนนี้อย่างอบอุ่น ผ่านงาน Jeremy Zucker – love is not dying Press Conference เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา

Jeremy Zucker ลงลึกถึงการทำงานเบื้องหลังด้วยตนเอง ตั้งแต่แต่งเนื้อร้อง ทำนอง และการนั่งโปรดิวซ์เพลงเอง ทั้ง 15 เพลงในอัลบั้ม ทำให้สื่อมวลชนที่ได้เข้าฟังงานแถลงข่าวในครั้งนี้ ทึ่งในความสามารถของเขา บวกกับรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ เฟรนลี่ ขี้เล่น ที่ทำให้สื่อไทยในบ้านเราหลงเสน่ห์ของเขาทันที ตั้งแต่เริ่มพูดคุย บรรยากาศในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประทับใจในความเป็นกันเองของศิลปิน Jeremy Zucker สลับกันยกมือถามคำถามแบบเจาะลึก เพื่อให้ได้รู้จักตัวตนของ Jeremy Zucker มากขึ้น

jeremyzucker-pressconfere


comethru” เป็นเพลงสร้างชื่อเสียงให้กับคุณเป็นอย่างมาก จากยอดสตรีมกว่า 1 พันล้านครั้ง ชีวิตของคุณหลังจากนั้นเปลี่ยนไปบ้างหรือไม่?

Jeremy: เปลี่ยนไปมากเลยครับ ก่อนปล่อยเพลง “comethru” ผมไม่รู้เลยว่ามันจะเวิร์คไหม ไม่รู้เลยว่าจะได้ทัวร์รอบโลกแบบนั้น และยังได้ทำเพลงต่ออีกนานขนาดนี้ เพลงนี้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศค่อนข้างมากด้วย เลยทำให้ผมรู้ว่า นี่คือสิ่งที่ผมต้องการทำจริงๆ ไม่ใช่อะไรที่ผมจะทำแค่ช่วงสั้นๆ แต่ผมจะอยู่บนถนนสายนี้ไปอีกนาน อีกสิ่งที่เปลี่ยนไปมากๆ ในชีวิตคือโอกาสที่ผมได้ทัวร์ต่างประเทศ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ช่วงเดือนกันยายนปีที่แล้ว (2019) แฟนเพลงให้การตอบรับดีมาก ไม่คิดมาก่อนว่าจะได้รับความรักมากขนาดนี้จากแฟนๆ ในประเทศที่ผมยังไม่เคยไปมาก่อน ผมเลยรอไม่ไหวที่จะได้กลับไปหาทุกๆ คนอีกเร็วๆ โดยรวมคือเพลงนี้เปลี่ยนชีวิตผมมากจริงๆ ครับ หวังว่าผมจะมีเพลงฮิตอีกสักเพลงนะ แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร ยังไง “comethru” ก็ยังเป็นเพลงที่สุดยอดสำหรับผมอยู่ดี

love is not dying เป็นอัลบั้มเต็มชุดแรกของคุณ ที่คุณเขียนเพลงทั้งหมด 13 เพลงในสตูดิโอที่ Brooklyn ช่วยเล่าถึงช่วงที่ทำอัลบั้มนี้ให้ฟังหน่อย

Jeremy: ผมเริ่มเขียนเพลงในอัลบั้มนี้ตั้งแต่ช่วงทัวร์ตามที่ต่างๆ ไม่แน่ใจว่าเพลงแรกที่เขียนคือ always, i’ll care” หรือ “julia” เขียนตอนกลับมาจากช่วงที่เป็นศิลปิน headline ทัวร์อเมริกาครั้งแรก แล้วก็เริ่มเขียนเพลง “somebody loves you” แล้วก็ไปทัวร์ที่ยุโรป แสดงโชว์ในเทศกาลดนตรีฤดูร้อน จากนั้นก็ไปทัวร์ที่เอเชีย แล้วก็กลับบ้าน ทำอัลบั้มต่อจนจบครับ ขั้นตอนการทำงานจะแบ่งเป็น 2 อย่าง ผมเขียนเพลงเสร็จไปครึ่งอัลบั้มตอนจบทัวร์แรก แล้วก็มาต่ออีกครึ่งหนึ่งที่เหลือหลังจากทัวร์จบอีกที การทำเพลงสำหรับผมยังถือว่ามันยังใหม่มาก การได้เจอกับแฟนๆ ผมรู้สึกเหมือนผมเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จแล้ว พอผมได้พลังจากแฟนเพลงทำให้ผมมีความมั่นใจมากขึ้น และเริ่มทำเพลงต่อตามสไตล์ และสัญชาตญาณของตัวเอง ลองก้าวเข้าไปในความเสี่ยง ไม่กลัวที่คนจะมองว่าผมทำเพลงแตกต่างออกไปจากเดิม ซึ่งผมโอเคที่จะได้ยินอย่างนั้นเพราะผมทำเองหมดทุกอย่าง มีแค่ผมกับคอมพิวเตอร์ แต่งเพลง ร้องเองทั้งหมด และผมสนุกกับขั้นตอนนี้มากๆ

คอนเซปต์ของอัลบั้ม love is not dying เป็นอย่างไร

Jeremy: ไอเดียของอัลบั้มนี้มาจากความรู้สึกว่าทุกอย่างกำลังแย่ลงเรื่อยๆ แต่มันยังมีความสวยงามของมันก่อนที่ทุกอย่างพังทลายลงไปทั้งหมดครับ

3 คำที่อธิบายถึงอัลบั้ม love is not dying ได้ดีที่สุด

Jeremy: ผมขอเลือกเป็น beauty (สวยงาม), crashing (เสียงชน,สมบูรณ์) และ hope (ความหวัง) ครับ

ถ้ามีเพื่อนที่เพิ่งอกหักมา จะมอบเพลงไหนในอัลบั้ม love is not dying ให้เพื่อนฟัง

Jeremy: ขึ้นอยู่กับว่าผมอยากให้เขารู้สึกดีขึ้น หรือให้จมดิ่งไปกับอารมณ์อกหักให้เต็มที่นะครับ จริงๆ “julia” น่าจะเป็นเพลงที่ตรงกับอารมณ์อกหักมากที่สุด เป็นเพลงที่พูดถึงการพยายามก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายตอนที่มีปัญหาความสัมพันธ์ต่างๆ และมองหาเรื่องดีๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ถ้าอยากจะดำดิ่งกับความรู้สึกเศร้าๆ ต่อไปก็แนะนำ “fullstop” หรือ “hell or flying” ครับ

เลือกเพลงที่อยากมอบให้กับแฟนๆ ในช่วงกักตัวจากโควิด-19

Jeremy: ผมคงเลือกเพลง always, i’ll care” ให้กับทุกคนครับ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่อยากให้ทุกคนรู้เอาไว้ว่ายังมีคนที่ยังรัก และเป็นห่วงคุณอยู่เสมอ เป็นเพลงที่มีความหมายดี และน่าจะเป็นเพลงที่ทำให้คุณรู้สึกว่าคุณยังเป็นที่รักของคนอื่นๆ อยู่

ถ้าอยากร่วมงานกับศิลปินท่านอื่นในอนาคต คุณอยากร่วมงานกับใคร

Jeremy: ทุกครั้งที่มีคนถามคำถามนี้ ผมคิดไม่ค่อยออกเท่าไรว่าอยากทำงานกับใคร เพราะผมยังชอบทำงานคนเดียวอยู่ แต่ถ้าร่วมงานกับใครก็ได้ อาจจะเลือกเป็น The 1975 หรือ LANY คงจะเจ๋งมากๆ ครับ

ช่วงกักตัวจากโควิด-19 อย่างนี้อาจทำให้ศิลปินหลายคนต้องเผชิญกับช่วงเวลายากลำบาก รวมถึงปัญหาโรคซึมเศร้าได้ คุณผ่านช่วงเวลานี้ไปได้อย่างไร

Jeremy: มันเป็นเรื่องยากสำหรับทุกคนนะครับ เพราะมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ผมก็ค้นพบบางอย่างที่ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้น อย่างแรกคือหางานอดิเรกที่คุณชอบทำฆ่าเวลาไปได้เรื่อยๆ ผมก็มีอ่านหนังสือ ทำอาหาร ฟังเพลงก็ช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้น ลืมเรื่องราวแย่ๆ ไปได้บ้าง และการได้ออกไปข้างนอกบ้างก็ช่วยได้เหมือนกัน บางคนที่ไม่ต้องกักตัวก็สามารถใส่หน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างจากคนอื่น แล้วออกไปเดินข้างนอกบ้างก็ได้ แบบนี้จะดีกว่าล็อคตัวเองอยู่ในห้องคนเดียวนานๆ

ฟังเพลงอัลบั้ม love is not dying ได้ที่นี่

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook