รีวิว “Top Hits Thailand” มิวสิคเฟสฯ ออนไลน์ที่ช่วยคลายความคิดถึงให้คอดนตรี
เมื่อแปะป้ายว่าเป็นเทศกาลดนตรีออนไลน์ครั้งแรกของเมืองไทย แน่นอนว่ามันมาพร้อมกับความคาดหวังที่สูงเอาการ และในวันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา “Online Music Festival Top Hits Thailand” ก็ผ่านพันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กับความยาวกว่า 8 ชั่วโมงที่น่าจะทำให้แฟนเพลงคลายความคิดถึงมิวสิคเฟสติวัลในรูปแบบปกติไปได้บ้าง
แอบเสียดายไม่น้อยที่ผู้เขียนไม่ได้รับชมการแสดงสดของไลน์อัพในช่วงบ่ายเลย กว่าจะเข้าระบบก็เข้าสู่เพลงสุดท้ายจากโชว์ของ Tilly Birds และ Three Man Down ที่มาร่วมร้องเพลง “ความคิดถึงที่ฉันได้เคยส่งไปในคืนที่ฝนโปรยลงมา” ซึ่งเป็นการนำสองเพลงฮิตอย่าง “คิด(แต่ไม่)ถึง” และ “ฝนตกไหม” มาผสมผสานกันได้ลงตัวมากๆ ก่อนจะไล่เรียงดูโชว์ตั้งแต่นั้นไปจนจบ ไม่ว่าจะเป็น JAYLERR x PARIS, อิ้งค์-วรันธร เปานิล, The TOYS, Oh Wonder และปิดท้ายด้วย Scrubb
พูดถึงเฉพาะเรื่องโชว์โดยส่วนตัวผู้เขียนไม่ได้รู้สึกว้าวมากนัก โดยส่วนใหญ่ก็ยังคงมาตรฐานของแต่ละคนได้เป็นอย่างดีทั้ง อิ้งค์ วรันธร และ Scrubb, The TOYS มีความคล้ายคลึงกับคอนเสิร์ตใหญ่ของเขาที่จัดไปเมื่อปีก่อนทั้งในเรื่องการเรียบเรียงเพลงใหม่และโปรดักชั่น โดยเฉพาะการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในช่วงจบโชว์ที่เหมือนกันแบบเป๊ะๆ (มีเพียงวิชวลอุกกาบาตถล่มโลกที่เพิ่มเข้ามา) ทว่าที่ชื่นชอบมากๆ ขอยกให้ซีนเปิดของหนุ่มทอยที่ทำเอาเหล่าแฟนคลับใจแป้วอยู่พักใหญ่ เพราะเขาปรากฏตัวอยู่บนจอ แล้วนำสแตนดี้ของตนเองมายืนตระหง่านที่ไมโครโฟนแทน ในขณะที่ JAYLERR x PARIS ยังดูมีความเคอะๆ เขินๆ เก้ๆ กังๆ โดยเฉพาะช่วงที่ต้องมาเลือกแฟนเพลงเพื่อพูดคุย ส่วน Oh Wonder มาแบบอะคูสติกเวอร์ชั่นที่ให้ความรู้สึกไปอีกแบบ เพียงแต่ตอนแรกคิดว่าจะจัดเต็มซินธ์ป็อปแบบฟูลแบนด์ ก็เลยต้องปรับอารมณ์อยู่สักพัก
แต่ที่น่าประทับใจมากๆ ของงาน “Online Music Festival Top Hits Thailand” คงยกให้เรื่องระบบแสง และวิชวลต่างๆ ทั้งนี้เนื่องด้วยพื้นที่ที่ใหญ่โตขึ้นจากคอนเสิร์ตออนไลน์ครั้งแรกที่ What The Duck จัดเมื่อเดือนก่อนนั่นก็คือ Whal & Dolph Online Market ทำให้ผู้จัดและทีมงานสามารถรังสรรค์ความเวอร์วังอลังการได้มากยิ่งขึ้น อย่างเรื่องไลท์ติงคือบอกตามตรงว่าเทียบเท่าเทศกาลดนตรีจริงๆ แบบไม่ผิดเพี้ยน ในขณะที่วิชวลเอฟเฟกต์ต่างๆ ก็จัดเต็มมากกว่าครั้งก่อนอย่างเห็นได้ชัด
เพียงแต่...
ภาพที่ไม่ค่อยคมชัดนักทำให้ค่อนข้างรู้สึกเสียดายวิชวลต่างๆ ที่ทีมผู้จัดคิดขึ้นมา มันแทบจะไม่เกิด impact ใดๆ กับผู้เขียน ในเรื่องภาพรวมเรารู้แหละว่า สิ่งที่เราเห็นคืออะไร ต้องการจะสื่อสารอะไร สีสันจี๊ดจ๊าดแค่ไหน แต่หากลงลึกในเรื่องรายละเอียดก็คงต้องบอกว่า... แอบเสียดายมากๆ ส่วนเรื่องระบบเสียงไม่มีคอมเมนต์ใดๆ อาจจะคล้ายคลึงกับที่แสดงความคิดเห็นไปคราวก่อนว่า น่าจะขึ้นอยู่กับลำโพงหรือหูฟังของแต่ละคนมากกว่า
นอกเหนือจากนั้นผู้เขียนยังแอบเสียดายการใช้ประโยชน์จากภาพผู้ชมที่ปรากฏขึ้นบนจอที่โดยส่วนตัวคิดว่าน้อยไปสักหน่อย เพราะบ่อยครั้งจะเน้นไปที่โปรดักชั่นแสงสีเสียงมากกว่า เนื่องจากผู้เขียนรู้สึกว่า กิมมิกของเทศกาลดนตรีออนไลน์ครั้งนี้คือจอของผู้ชมที่เรียงรายอยู่อย่างมากมายระดับพันกว่าคน ซึ่งส่วนใหญ่เราจะเห็นในบางช่วงของโชว์ และช่วงพูดคุยกับแฟนคลับเสียเป็นส่วนมาก
ครั้งแรกย่อมไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ หรือแม้แต่การแสดงสดโดยปกติก็ย่อมเกิดปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องแก้ไขแทบทั้งสิ้น เช่นเดียวกับ “Online Music Festival Top Hits Thailand” ที่ก็เกิดปัญหาทางเทคนิคอยู่เป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็นเสียงสะท้อน, เสียงทีมงานที่เล็ดรอดออกมา, ได้ยินเสียงนับคิวเข้าโชว์ เป็นต้น ซึ่งก็คงเป็นสิ่งที่ทีมผู้จัดได้เรียนรู้ และเชื่อว่าหากมีครั้งต่อๆ ไป ปัญหาดังกล่าวก็จะมีน้อยลงหรือแทบไม่เกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ
และก็อย่างที่ผู้เขียนจั่วหัวไว้ตั้งแต่แรกว่า การได้มาเห็นการแสดงสดของศิลปินหลากหลายแนวอีกครั้ง แม้จะเป็นในรูปแบบออนไลน์ก็ตาม นั่นก็ทำให้เรา “นึกถึง” และ “คิดถึง” บรรยากาศที่เราเดินไปตามเวทีต่างๆ ได้กระโดดโลดเต้น ได้ตะโกนร้องเพลงดังๆ การรอคอยให้ถึงเวลาแสดงของศิลปินที่เราตั้งใจมาดู หรืออะไรก็ตามแต่ที่เป็นเสน่ห์แห่งเทศกาลดนตรี ซึ่งในจุดนี้ก็ต้องกล่าวขอบคุณทีมงานและศิลปินทุกๆ คนที่ทำให้บรรยากาศเหล่านั้นย้อนกลับมา
เพราะอย่างน้อยใน “จอ” นั้น เราก็ได้เห็นหลายคนเต้น หลายคนร้องเพลงตาม หลายคนยิ้มด้วยความปลาบปลื้ม หรือแม้แต่ป้ายไฟต่างๆ และเราก็เชื่ออย่างสุดใจว่า ทุกคนคงรอคอยที่จะได้กลับไปสัมผัสบรรยากาศมิวสิคเฟสติวัลแบบจริงๆ ในสักวัน
อัลบั้มภาพ 99 ภาพ