มินอา (Mina) อดีตสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป AOA จากค่าย FNC Entertainment (ค่ายเดียวกันกับ CNBlue, F.T.Island, N.Flying, SF9 และ Cherry Bullet) โพสต์ข้อความยาวเล่าความรู้สึกของเธออย่างละเอียดใน Instagram ส่วนตัว โดยเปิดเผยว่า ในช่วงที่เธอเป็นสมาชิกวง AOA เธอถูกบูลลี่โดยสมาชิกรุ่นพี่คนหนึ่งอยู่นานนับ 10 ปี จนทำให้เธอเป็นโรคซึมเศร้าถึงขั้นพยายามฆ่าตัวตาย แต่เธอนึกถึงแม่จึงทำให้เธอพยายามกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติเพื่อดูแลแม่อีกครั้ง

โพสต์แรกเธอออกมาพูดโต้ตอบชาวเน็ตคนหนึ่งที่ส่งข้อความไปหาเธอว่า “ไปให้พ้น” เธอจึงเริ่มออกมาเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาว่าเธอต้องเจอกับความยากลำบากในชีวิตอย่างไรมาบ้าง เริ่มจากการที่เธอตอบกลับคนที่ส่งข้อความมาหาเธอว่า เธอก็อยากจะไปให้พ้นเหมือนกัน แต่เธอต้องอยู่ดูแลแม่ เธอต้องทำงานหาเงินตั้งแต่ยังเด็กเพราะสถานะทางการเงินของครอบครัวเธอไม่สู้ดีนัก หลังจากที่ต้องเสียพ่อของเธอไป เธอร้องไห้ในห้องรอขึ้นแสดง แต่ก็มีรุ่นพี่คนหนึ่งลากเธอเข้าไปในตู้เสื้อผ้า บอกให้เธอหยุดร้องไห้เพราะเธอกำลังทำให้เสียบรรยากาศ เธอพยายามบอกรุ่นพี่คนนั้นว่าเธอกลัวที่พ่อของเธอได้จากเธอไปแล้ว แต่รุ่นพี่คนนั้นกลับบอกเธอในสิ่งที่เธอจำได้โดยไม่มีวันลืม ในวันนั้นที่ต้องนั่งรถกลับไปกับรุ่นพี่คนนั้น เธอต้องกินยาคลายกังวล และยานอนหลับเพื่อข่มตาตัวเองให้หลับ เธอต้องตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไปให้ดีที่สุด แต่ในใจเธอกลับรู้สึกแหลกสลาย และเธอสารภาพว่าเคยพยายามฆ่าตัวตายเพราะรุ่นพี่คนนั้นมาครั้งหนึ่งด้วย

นอกจากนี้เธอยังเผยอีกว่า เธอรับได้ที่หลายคนจะไม่เคยให้ความเคารพนับถือในฐานะศิลปินไอดอล หรือนักแสดงคนหนึ่ง เพราะเธอยอมรับว่าเธอไม่เก่ง แต่เธอก็มีความสุขและเธอก็รู้ดีว่าตัวเองพยายามอย่างเต็มที่แล้ว และยังรักที่จะอยู่ในวงการนี้ต่อไป เธอไม่เคยอยากเลิกเป็นไอดอล และจริงๆ แล้วเธอไม่เคยอยากออกจากวง AOA ด้วยซ้ำ แต่เพราะมีใครคนหนึ่งในวงที่เกลียดเธอ เธอเลยขอยอมออกจากวงหลังจากที่โดนรังแกมาตลอด 10 กว่าปีเพื่อจบเรื่องนี้จริงๆ จะดีกว่า แม้ว่าเธอจะอยากหันกลับไปต่อว่าคนคนนั้นมากแค่ไหนก็ตาม

แต่หลังจากที่เธอออกจากวง พ่อของสมาชิกคนนั้นก็เสียชีวิต เธอได้ไปร่วมงานศพและสมาชิกคนนั้นเข้าไปร้องไห้กับเธอ และมาขอโทษกับเธอ ทำให้เธอรู้สึกเสียใจ และเข้าใจถึงความรู้สึกที่สมาชิกคนนั้นต้องเผชิญเช่นกัน

แต่หลังจากที่เธอพักงาน เธอก็ยังคงรู้สึกว่างเปล่า มีแต่ความรู้สึกเจ็บปวดและหวาดกลัว แม้ว่าจะมองข้ามทุกอย่างแย่ๆ ไปแล้ว แต่ก็ยังมีเรื่องอื่นๆ เกิดขึ้นมากมาย เธอเหนื่อยกับคอมเมนต์มากมายในโลกอินเตอร์เน็ต ที่ไม่อยากเห็นหรือไม่อยากได้ยินเสียงเธอ แต่เธอก็ยังต้องทำงานเพื่อดูแลแม่ เธอจึงบอกว่าไม่ต้องรัก ไม่ต้องสนใจเธอก็ได้ แค่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียวก็พอ

หลังจากเธอจึงโพสต์ต่อถึงเรื่องที่หลายคนคอมเมนต์ต่อจากโพสต์แรกว่าทำไมเธอถึงออกมาพูดเรื่องสมาชิกคนนั้นในวง AOA มินอาจึงเล่าว่า ในช่วงที่พ่อของเธอกำลังป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล เธอก็กำลังอยู่ในช่วงโปรโมตเพลงใหม่ เธอกลัวที่จะเสียพ่อไปจากโรคมะเร็งตับอ่อนระยะสุดท้าย แต่เธอก็ฝืนยิ้มและจดจำบทบาทที่เธอได้รับ ที่เธอต้องแสดงในระหว่างที่เธอทำกิจกรรมโปรโมตเพลงใหม่กับเพื่อนๆ ในวง เธอไม่กล้าไปเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาลเพราะเมื่อไรก็ตามที่เธอได้เห็นพ่อ เธอคงทนไม่ได้ที่จะร้องไห้ แม้ว่าน้องสาวของเธอจะบอกเธอว่า พ่อของเธอเริ่มพูดไม่ค่อยได้แล้ว แต่ก็บอกว่าอยากเห็นหน้าเธอก็ตาม

แต่เมื่อเธอคิดว่าถ้าเธอร้องไห้ระหว่างทำกิจกรรมโปรโมต ถ้าเธอโดนรุ่นพี่คนนั้นดุอีกเธอจะทำอย่างไร ในตอนนั้นเธอยังเด็ก เธอกลัวการถูกดุอย่างมาก และนั่นทำให้เธอไม่กล้าไปหาพ่อแม้ว่าเธอจะมีโอกาสไปพ่อได้มากกว่าที่ควรจะเป็น สุดท้ายเธอก็ปล่อยให้พ่อของเธอเสียชีวิตโดยที่มีสมุดโน้ตเขียนถามหาลูกสาวของตัวเองอยู่ข้างเตียง โดยที่ตอนนั้นเธอยังคงทำงานอยู่

แต่เธอได้ยินมาว่าเมื่อถึงคราวที่เป็นพ่อของรุ่นพี่คนนั้นป่วย รุ่นพี่คนนั้นได้พาครอบครัวไปพักในห้อง VIP และยกเลิกตารางงานทั้งหมด เธอหวังว่าจะไม่ใช่เรื่องจริง เพราะเธอหวังว่ารุ่นพี่คนนั้นจะรับมือกับสถานการณ์นี้ได้ดีเหมือนที่รุ่นพี่เคยดุเธอเอาไว้เมื่อในอดีต ว่าห้ามร้องไห้ จะทำให้เสียบรรยากาศ และรุ่นพี่คนนั้นเป็นคนบอกเธอเองว่าอย่าให้ใครต้องเป็นห่วงเพราะเรื่องของเธอคนเดียว เธอยังคงจำได้ดีว่ารุ่นพี่คนนั้นพูด และทำอะไรกับเธอ แม้ว่ามันจะเลือนลางไปบ้างก็ตาม

ทุกครั้งที่เธอคิดถึงเรื่องนี้ เธอต้องพักกินยา แม้ว่าจะเป็นเพียงคำพูดไม่กี่คำที่รุ่นพี่คนนั้นอาจจะพูดโดยไม่ตั้งใจ แต่มันกลายเป็นแผลในใจเธอไปตลอดชีวิต

นอกจากนี้มินอายังเล่าว่า เมื่อถึงเวลาที่เธอกำลังจะออกจากวง มีเวลา 5 นาทีที่จะพูดคุยก่อนจะจากกัน มินอาตัดสินใจพูดเรื่องนี้กับรุ่นพี่คนนั้น แต่รุ่นพี่คนนั้นกลับบอกว่าจำไม่ได้ว่าเคยพูดอะไรแบบนั้น จนสมาชิกอีกคนต้องเป็นคนช่วยเธอพูดแทนว่ารุ่นพี่พูดแบบนั้นกับมินอาจริงๆ จึงทำให้มินอาช็อกจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีก และเธอก็จากสมาชิกในวงออกมาทั้งๆ แบบนั้น พร้อมกับความสงสัยว่า ไม่มีใครรู้ว่าทำไมรุ่นพี่คนนั้นถึงได้เกลียดเธอมากขนาดนี้

ทั้งหมดนี้เป็นข้อความที่มินอาโพสต์ลง Instagram ส่วนตัว ระหว่างนั้นก็มีชาวเน็ตแอบเห็น จีมิน สมาชิกวง AOA โพสต์ Instagram Story ด้วยคำว่า “นิยาย” ก่อนจะลบออกไป และจีมินเป็น 1 ใน 3 สมาชิกที่เป็นรุ่นพี่ของมินอา นอกจากนี้พ่อของจีมินเพิ่งเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2020 ที่ผ่านมาอีกด้วย จึงทำให้ชาวเน็ตหลายคนคาดเดากันว่าคนที่มินอาพูดถึงอาจจะเป็นจีมิน และหลังจากนั้นไม่นานมินอาก็โพสต์ภาพรอยแผลที่ข้อมือ พร้อมกับบอกว่ารอยแผลเป็นนี้เธอเข้ารับการรักษา 3-4 ครั้งจนมันค่อยๆ จางลง คราวนี้เธอโพสต์ชื่อเต็มๆ ว่า "พี่จีมิน" และบอกว่าเธอคงไม่ฟ้องร้องอะไรเพราะไม่มีเงิน และไม่ต้องการค่าชดเชยหรือค่ารักษาเยียวยาจิตใจแต่อย่างใด สิ่งที่เธอต้องการคือให้จีมินยอมรับว่าทำผิดกับเธอ และมาขอโทษเธออย่างจริงใจเท่านั้น

98e9caa96930737fa3ad9e381c2c2 จีมิน AOA

66180593_2190475624394327_116 มินอา อดีตสมาชิก AOA

mina-scar ภาพรอยแผลบนข้อมือของมินอา

หลังจากที่มินอาออกมาเปิดเผยเรื่องราวในชีวิตของเธอที่หลายคนไม่เคยรู้ แฟนเพลงจึงให้กำลังใจเธอผ่านแฮชแท็ก #WeLoveYouKwonMina และ #WeLoveYouMina จนติดเทรนด์ในไทย และหลายๆ ประเทศ

มินอาลาออกจากวง AOA ในช่วงเดือนเมษายนปี 2019 หลังจากเป็นช่วงต้องต่อสัญญาใหม่ แล้วมินอาตัดสินใจไม่ต่อสัญญาเพื่อลุยงานเดี่ยว และงานแสดง ตามหลังจากเพื่อนร่วมวงอีก 2 คน ยูคยอง (สมาชิกเฉพาะวงซับยูนิต AOA Black) และ โชอา ที่ออกจากวงในปี 2016 และ 2017 ตามลำดับ ขณะนี้ AOA จึงเหลือสมาชิก 5 คน ได้แก่ จีมิน ยูนา ฮเยจอง ซอลฮยอน และ ชานมี ผลงานล่าสุดคือมินิอัลบั้มชุดที่ 6 ที่มีชื่อว่า New Moon และเพลงไตเติลแทร็ก “Come See Me” เมื่อปี 2019

อัลบั้มภาพ "มินอา" อดีตสมาชิก AOA เผยเคยคิดฆ่าตัวตายเพราะถูกพี่ในวงบูลลี่มากว่า 10 ปี ภาพที่ 3 / 35

"มินอา" อดีตสมาชิก AOA เผยเคยคิดฆ่าตัวตายเพราะถูกพี่ในวงบูลลี่มากว่า 10 ปี