"ทศพล หิมพานต์" ย้อนชีวิตดราม่าช่วงที่หมดเงิน 10 ล้านบาทเพราะลงทุน | Sanook Music

"ทศพล หิมพานต์" ย้อนชีวิตดราม่าช่วงที่หมดเงิน 10 ล้านบาทเพราะลงทุน

"ทศพล หิมพานต์" ย้อนชีวิตดราม่าช่วงที่หมดเงิน 10 ล้านบาทเพราะลงทุน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เป็นอีกหนึ่งคนในวงการบันเทิงที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิดไปเต็มๆ สำหรับ ทศพล หิมพานต์ นักแหล่นาคชื่อดังไม่มีงานตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา เนื่องจากงานแหล่ที่มีอยู่ตลอดต้องเลื่อนยกคิวไปหมด โดยล่าสุดเขาได้แวะมารายการ ต้มยำอมรินทร์ ที่ผลิตโดย CHANGE2561 เพื่ออัปเดตชีวิตและเล่าเหตุการณ์ช่วงที่เคยลงทุนจนขาดทุน 10 ล้านบาท 

โดย ทศพล ได้เล่าถึงการเริ่มต้นทำขวัญนาคไว้ว่า "พอเป็นทศพลเสร็จแล้วเนี่ยบริษัทโฟร์เอสเขาก็ทำวงให้ คือนักร้องลูกทุ่งโฟร์เอส ตอนนั้นเดิมก็มี สีไพร ไทยแท้ มีผม ทศพล หิมพานต์ แล้วก็มีวง คาซอย ซึ่งตอนนั้นดังอยู่ในช่วงประมาณปีพ.ศ. 2539-40 เนี่ยนะครับ ก็มาทำวงประมาณหลายปีเหมือนกันนะ ประมาณ 2-3 ปี ไม่เกิน 4 ปี เนี่ย พอทำเสร็จเขาก็หยุด เพราะว่าตอนนั้นมันก็เริ่มไม่ค่อยดีแหละ เริ่มโรยก็หยุดวงเสร็จปั๊บผมก็มารับทำขวัญนาคเองอะไรเอง แล้วก็มาทำวงเองเป็นของตัวเอง"

พอเล่าถึงจุดเริ่มต้นการทำขวัญนาคเสร็จ ทศพลก็เล่าถึงการทำงานว่า "ผมรับงานหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการรับเชิญร้องเพลง มีการทำขวัญนาค การแสดงพระเวสสันดรชาดกการแสดงประกอบการเทศน์มหาชาติ รับหลายอย่าง แต่อย่างมันก็ราคาแตกต่างกันออกไป อย่างเช่นรับเชิญจะไม่แพงมากเพราะว่าเราจะไปคนเดียว แต่ว่าถ้าเป็นการแสดงพระเวสสันดรชาดกหรือว่าทำขวัญนาคเนี่ยเราจะไปเป็นทีมงาน จะมีหมอทำขวัญนาค 3 คน มีทีมงานคณะปี่พาทย์ไปด้วยทำงาน 10 คน เราใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ถามว่าหลักแสนไหม? ไม่ถึงครับ ก็คือเดือนนึง มันจะมีวันเสาร์อยู่ 4-5 วัน ใช่ไหมฮะ เขาก็ต้องการฤกษ์สะดวกคือเสาร์-อาทิตย์ เพราะฉะนั้นเสาร์-อาทิตย์เนี่ยเขาก็จะจองกันเต็มหมด ถ้าจะมาจองทีหลังก็จะไม่ได้ จองไม่ได้ปั๊บก็อยากจะได้ ก็ต้องรอคิวเรา"

ถึงแม้ว่าจะลงทุนทำวงและทีมทำขวัญนาคที่มีคิวงานแน่น แต่เขาก็ขาดทุนเป็นเงิน 10 ล้านบาทจากการทำวง โดย ทศพล ได้เล่าว่า "ตอนนั้นมันแข่งขันกันเยอะ ทั้งไฟพาร์ (ไฟประดับเวที) ไหนจะต้องออกรถออกราอะไรงี้เยอะแยะมากมาย มันสู้ไม่ไหวลงทุนก็เกือบ 10 ล้าน เพราะว่าบางทีเราได้มาเราก็ต้องจ่ายลูกน้อง คือตอนนั้นรับงานหาด้วยนะ แต่ว่าคือค่าใช้จ่ายมันสูง ไฟเสียที รถราอะไรก็ตาม การบริหารจัดการด้วย ไม่ค่อยเก่งกันด้วยมันก็เลยขาดทุนไป"

นอกจากการลงทุนทำวงแล้ว ทศพลยังได้เผยว่าการทำธุรกิจกับญาติพี่น้องก็ไม่ประสบความสำเร็จ โดยเขาได้เล่าว่า "หลังจากทำวงไม่ประสบความสำเร็จ คือไม่ทำวงแล้วขาดทุนไปหลายล้านอยู่เหมือนกันนะ ถ้าเรารับงานปั๊บเราก็จ้างทีมงานคนอื่นมาเป็นทีมงานเราอะไรประมาณนี้ เราไม่ต้องรับผิดชอบอะไรให้เขาดูแล เราก็รับสตางค์อย่างเดียวแหละว่างั้นเถอะ เสร็จแล้วหลังจากนั้นผมก็มาลงทุนให้พี่น้อง ด้วยความที่ว่าเราไม่มีเงินทองกัน ไม่มีที่ทางว่างั้นเถอะ ไม่มีที่ทำมาหากิน พอเป็นทศพลปั๊บ พอจะมีสตางค์อยู่บ้าง ก็เลยให้พี่สาวไปเลี้ยงวัว รวมแล้วประมาณ 100 กว่าตัวพันธุ์  บราห์มัน บราซิล ที่ตัวหมื่นสี่ห้าหมื่น พ่อพันธุ์ตัวเป็นแสน แสนกว่าอย่างงี้ครับ ก็ลงทุนไปหลายล้านอยู่ เราซื้อวัวตอนมันเริ่มโรย ตอนที่เขากำลังบูมๆกัน เราก็ได้แต่คิด พอเริ่มโรยเราก็ มันน่าจะได้มั้งเราก็ลง ราคามันตก เขาเลิกเล่นกัน มันเป็นยุคๆ ก็ไม่เป็นไร น้องชายก็หลังจากทำวงดนตรีแล้วเจ๊ง ออกรถไถให้ สิบล้อให้ แมคโครให้ก็ไม่ประสบความสำเร็จ น้องสาวก็ทำร้านอาหาร ร้านข้าวต้มให้ก็หมด ตอนนั้นเราก็คือได้ตังค์เราก็ส่งตังค์อย่างเดียว แต่ว่าเราไม่รู้ว่าพี่น้องเราเก่งแค่ไหนไง เรามีทุนเราอย่างให้เขาทำแต่ว่าเราไม่รู้ว่าเขาเก่งไม่เก่ง ประสบการณ์ไม่มีแต่เราก็อยากจะให้เขาทำ เพื่อที่เขาจะได้มีเงินมีทองเลี้ยงตัว แต่ที่ไหนได้มันก็ไม่เป็นไปตามฝัน" 

คลิกชมการสัมภาษณ์เต็มๆ ได้ที่นี่

ในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ ทศพลเองก็ได้เล่าถึงชีวิตปัจจุบันที่ขาดรายได้เพราะการระบาดของ ไวรัสโคโรนา จนล่าสุดได้ผันตัวมาทำธุรกิจ ลูกชิ้นทศพล พร้อมทั้งเล่าถึงการทำเพลงใหม่ออกมาให้แฟนๆ ได้ฟังกัน โดยแฟนๆ สามารถติดตามรายการ ต้มยำอมรินทร์ ได้ที่ช่อง YouTube AMARIN TVHD 

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ ของ "ทศพล หิมพานต์" ย้อนชีวิตดราม่าช่วงที่หมดเงิน 10 ล้านบาทเพราะลงทุน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook