I-LAND : WHO AM I - คอนเสิร์ตใหญ่(ออนไลน์)ครั้งแรกของ (G)I-DLE โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง
(G)I-DLE (อ่านว่า ‘ไอเดิล’) เกิร์ลกรุ๊ปสมาชิก 6 คน เป็นศิลปินจากค่าย Cube Entertainment ที่เพิ่งเดบิวต์เมื่อปี 2018 เริ่มสร้างชื่อเสียงจากเพลงที่หลายคนคุ้นหูอย่าง "LATATA" (2018) และ "Senorita" (2019) ส่วนในไทยเองก็ได้รับความสนใจไม่น้อย เพราะหนึ่งในเมมเบอร์ของวงนี้มีคนไทยด้วย นั่นคือ มินนี่-ณิชา ยนตรรักษ์
วงได้รับความนิยมมากขึ้นจากการเข้าร่วมแข่งขันรายการเซอร์ไววัล Queendom (2019) ด้วยเพลงเพลง "LION" ที่ทั้งเนื้อเพลงและมิวสิกวิดีโอนำเสนอแนวคิดแบบเฟมินิสต์อย่างชัดเจน จากนั้น (G)I-DLE สานต่อความสำเร็จในปี 2020 ด้วยเพลง "Oh my god" ด้วยการซ่อนนัยถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างผู้หญิงด้วยกัน
อันที่จริงแล้ว (G)I-DLE วางแผนจะมีเวิลด์ทัวร์ในชื่อ I-LAND : WHO AM I ซึ่งมีกำนดการแสดงในประเทศไทยด้วย แต่ด้วยการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในที่สุดทัวร์ก็ต้องล้มเลิกไปและเปลี่ยนรูปแบบเป็นคอนเสิร์ตออนไลน์แทน ซึ่งราคาก็ไม่ใช่น้อย ตกประมาณ 1,100 บาท แต่ด้วยชื่นชมในวงนี้ผู้เขียนก็เลยกัดฟันจ่ายเงินซื้อบัตรไป
คอนเสิร์ต I-LAND : WHO AM I จัดขึ้นในวันที่ 5 กรกฎาคม เวลา 13.00 ประเทศไทย วงเปิดตัวด้วยเพลงฮิตอย่าง "LION" ตามด้วย "Hann (Alone)", "MAZE" และ "What’s Your Name" ดูไปได้ 4-5 เพลงก็ต้องยอมรับว่า Virtual Show นั้นไม่สามารถทดแทนคอนเสิร์ตแบบสดๆ ได้อย่างแน่นอน มันมีลักษณะเหมือนโชว์จากสตูดิโอมากกว่า อารมณ์พวกรายการเพลงแบบ M Countdown หรือคอนเสิร์ตออนไลน์อย่าง KCON:TACT
ครึ่งแรกของโชว์นั้นแห้งแล้งพอสมควร เนื่องจากลูกเล่นของโชว์นี้มีเพียงแค่จอกราฟิกทางด้านหลังและบนพื้น บวกกับการเปลี่ยนมุมกล้องไปมาให้พอตื่นเต้น เทียบกับซีรีส์คอนเสิร์ต Beyond Live ของค่าย SM Entertainment แล้วถือว่ายังห่างชั้นกันมาก เนื่องจาก Beyond Live มีกราฟิกที่อลังการกว่า มีความเป็นสามมิติมากกว่า นอกจากนั้นยังเล่นกับ AR (Augmented Reality) อย่างกิ๊บเก๋ด้วย
ข้อดีมีอยู่บ้างตรงที่ได้ฟังเสียงร้องสดของสาวๆ เยอะหน่อย แต่ก็เป็นการร้องสดผสมกับแบ็คกิ้งแทร็คด้วย ซึ่งถือว่าวงทำได้ดีพอสมควร ส่วนฟังก์ชั่นเสริมของคอนเสิร์ตก็มีเพียงการเปลี่ยนมุมกล้องว่าจะดูแบบภาพรวมหรือกล้องที่เจาะเมมเบอร์แต่ละคน และหน้าจอแชทที่วง (G)I-DLE จะเห็นคอมเมนต์ของผู้ชมในช่วงพูดคุย แต่ไม่ได้มีการคุยกันผ่านวิดีโอระหว่างวงกับคนดูแต่อย่างใด
โชว์เริ่มน่าสนใจขึ้นบ้างในช่วงโซโล่ของเมมเบอร์ เซ็ตแรกเป็นการโชว์ด้านร้อง ประกอบด้วย มินนี่, อูกี และ มิยอน ที่มาร้องคัฟเวอร์เพลงของ P!nk และ Rihanna ทั้งสามคนเสียงดีน่าฟังทีเดียว ส่วนเซ็ตที่สองเป็นโชว์เต้นของ ชูฮวา, ซูจิน และ โซยอน โดยโชว์ที่ผู้เขียนประทับใจที่สุดคือซูจินที่เต้นประกอบเพลง "Trampoline" ของ SHAED ซึ่งออกมาลึกลับ เซ็กซี่ เข้ากันดีกับลูกเล่นไฟ LED จัดจ้าน
กราฟฟิกในช่วงครึ่งหลังของคอนเสิร์ตดูตื่นเต้นขึ้นบ้าง แต่ไม่ถึงกับว้าวมากนัก เพลงดังๆ อย่าง "Oh My God" หรือ "LATATA" ถูกเล่นอย่างครบถ้วน แต่แล้วช่วงใกล้จบก็เกิดสิ่งที่ผู้ชมกลัวมากที่สุด นั่นคือการขัดข้องทางสัญญาณที่ทำเอาจอเละจอดำไปราว 5 นาทีได้ (ตอนแรกนึกว่าเป็นคนเดียว แต่พออ่านแชทสดถึงได้รู้ว่าเป็นกันทั้งโลก) ทำเอาใจหายใจคว่ำว่าจะเล่นจนจบหรือเปล่า ยังดีว่าสัญญาณมาล่มตอนช่วงจะจบแล้ว แฟนคลับเลยไม่หัวร้อนมากนัก
เพลงสุดท้ายของโชว์เป็นเพลงใหม่ชื่อ "I’m THE TREND" ที่มินนี่และอูกีร่วมแต่งด้วย สิริรวมแล้ว (G)I-DLE เล่นทั้งหมด 22 เพลง เป็นเวลาสองชั่วโมงกว่า ถือว่าเยอะกว่าคอนเสิร์ตออนไลน์อื่นๆ ที่เคยดูมา อย่างไรก็ดี ข้อติใหญ่ๆ ก็คงเป็นเรื่องโปรดักชันของโชว์ที่จืดชืดไปสักหน่อย จนทำให้รู้สึกว่าหากเทรนด์คอนเสิร์ตออนไลน์ (ที่เก็บเงิน) เช่นนี้ถือเป็น New Normal ก็อาจเป็นเรื่องไม่น่าอภิรมย์นัก และยิ่งทำให้ถวิลหาการแสดงสดๆ แบบตรงหน้าที่เราคุ้นเคย
____________________
ผู้เขียน - คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง
(Kanchat Rangseekansong)
เปิดโลกดนตรีและไอดอลกับคันฉัตร
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ