Death Metal Part.1 โดย อริญชย์ Dose

ถ้าจะกล่าวถึงดนตรีที่เรียกว่าหนักหูหนักกะโหลกหนักกบาลอย่าง Black Metal ไปแล้วก็คงจะหาความสมบูรณ์จากบทความไม่ได้ถ้าเราขาดดนตรีอีกแขนงหนึ่งไป คนเหงาหู จึงจะพาทุกๆ ท่านผู้อ่านไปสัมผัสกับดนตรีสุดโหดเส้นทางสายมรณะที่มีแต่ความตายรออยู่ข้างหน้า คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือดและเป็นที่มาต้นกำเนิดของดนตรีวิตถารอีกหลายๆ แนวได้รับอานิสงฆ์ก่อกำเนิดมาจากดนตรีแนวที่เรียกว่า Death Metal (เดธ เมทัล)

• Black Metal ดนตรีต่อต้านศาสนา Part 1 โดย อริญชย์ Dose

จุดเริ่มต้น

ทศวรรษที่ 1980 Thrash metal (แทรช เมทัล) สถาปนาตัวขึ้นครองราชประกาศศักดาไปทั่วโลก มีวง Big 4 ทั้ง อเมริกัน และ เยอรมัน ดนตรีเฮฟวี่เข้าแทรกซึมยึดครองฉกฉวยเอาแฟนเพลงวัยรุ่นจากแนวอื่นทั่วโลกมาเกือบหมดแต่หารู้ไม่ว่าช่วงปลายยุค 80 ก่อนจะเข้า 90 Death Metal เริ่มฟักตัวแล้ว ที่แคลิฟอร์เนียมีวงดนตรี 1 วงที่ชื่อ Possessed ที่ได้รับอิทธิพลมาจากวง Thrash สายมืดอย่าง Venom, Slayer และ kreator ในปี '85 พวกเขาออกอัลบัม Seven Churches ที่มีเพลงสุดท้ายในอัลบั้มชื่อว่า "Death Metal" นั่นคงเป็นครั้งแรกของโลกที่ได้รู้จักคำนี้เป็นครั้งแรกตัววง

Possessed เองหาใช่เล่น Death Metal วงเล่นออก Speed/Thrash มากกว่านอกจาก Possessed แล้วยังมี Nasty Savage และ Dark Angel ทั้งสองวงนี้ก็นับเป็นแม่แบบได้อีกซึ่งวงแม่แบบ ไม่ใช่จะมีแค่ที่อเมริกาเพราะทั้งคนเล่นคนฟังในเวลานั้นต้องการดนตรีที่เร็วกว่า, แรงกว่า และ ต้องหนัก

 ดิบ อำมหิตกว่า ทั้งเสียงร้องและเนื้อหา การเปลี่ยนจังหวะดนตรีไปมาโครงสร้างเพลงต้องซับซ้อนกว่า เสียงกีตาร์อย่างหนักหน่วงกว่า การใช้เสียงร้องแข็งกร้าวโทนเสียงต่ำคำรามทางด้านเนื้อหาก็เขียนสิ่งที่ที่ไม่เคยมีใครกล้าเขียนมาก่อนเช่น ศพ, การฆาตกรรม, ความทรมาน, การข่มขืน, การกินเนื้อมนุษย์, ปิศาจ, เวทมนตร์, ลัทธิซาตาน ทำให้ทางยุโรปอย่างประเทศเยอรมนีมีวงที่ถือเป็นแม่แบบของ Death Metal อย่าง วง Sodom, Destruction และ Kreator ทางสวิตเซอร์แลนด์ก็มีวง Hellhammer (ภายหลังเป็น Celtic Frost) ทางละตินอเมริกาใต้มี Sepultura และ Sarcafago ทางสแกนดิเนเวียก็มี Nihilist (ภายหลังเป็น Entombed) ทางอังกฤษมีวง Onslaught ที่มีเพลงชื่อ Death Metal อีกเช่นกัน

ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนไม่ว่ายังไงก็ยังมีคนกลุ่มเดียวกันที่ถวิลหาซาวด์แห่งความตายเหมือนกันอยู่ทั่วทุกมุมโลกซึ่งเราไม่อาจมองข้ามวงแม่แบบเหล่านี้ไปได้เลยแต่จุดหักเหที่เป็นเส้นตัดขาดระหว่าง Thrash กับ Death แบบชัดเจนก็คือตอนที่วง 3 ชิ้นจากฟลอริด้า นามว่า Death ก่อนหน้านี้ใช้ชื่อ [Mantas] ออกอัลบั้ม Screem Bloody Gore ในสังกัด Combat Records ดนตรีของ Death หนักหน่วง เนื้อหาเกี่ยวกับความตาย ภูติผีปีศาจ Satanic แบบเน้นๆ เสียงร้องแผดแตกสูงเหมือนปีศาจร้ายแบบที่ไม่เคยมีวงสปีดวงใดๆ ร้องแบบนี้มาก่อน ตามด้วย Obituary [ก่อนหน้านี้ใช้ชื่อวงว่า Xecutioner] ออกผลงานชื่อ "Slowly We Rot" วง Morbid Angel ออกอัลบั้ม Atars Of Madness วง Sepultura ออกอัลบั้ม Schizophrenia พวกงานเหล่านี้ถือเป็นผลงานที่เรียกได้เต็มปากว่าเป็น Death Metal ที่เพียวๆ เรียลๆ จริงๆ แต่แหล่งกำเนิดจริงๆ ของดนตรีแนวนี้คือที่ไหนกันละ

Sepultura

แผ่นดินแม่

แม้ Sepultura หรือ Sarcófago จะดูเหมือนว่านำความเป็น Death Metal วง Sepultura มาจากบราซิลก็จริงแต่เขาไม่ได้ทำงานที่นั่นบราซิลจึงไม่ใช่ดินแดนบ้านเกิดเพราะแผ่นดินแม่ที่แท้จริงของ Death Metal ก็คือฟลอริด้านี่แหละคือฐานทัพใหญ่และแหล่งเพาะพันธุ์ของ Death Metal ถ้าถามว่าทำไมรัฐนี้ถึงเป็นเมกกะแห่ง Death Metal จากคำบอกเล่าของ ศิลปิน Death Metal ยุค 90 มันเริ่มที่ใจกลางของรัฐนั้นเต็มไปด้วยผู้มีความอนุรักษ์นิยมสูงทั้งศาสนาและสิ่งแวดล้อมหลายๆ คนเลือกจะอยู่แบบสันโดษมันยากที่จะเริ่มทำอะไรใหม่ๆ ทั้งยังมีความเสื่อมทราม, คนแก่, ขี้เมาหนัก, ท่องเที่ยว, อากาศร้อนๆ เด็กวัยรุ่นที่ไม่มีที่ๆ เหมาะสมให้เขาอยู่ซ้ำยังโดนพรากวันเวลาอันแสนสุขไปทั้งหมดนี้เป็นชนวนเป็นปัจจัยของความเก็บกดทำให้ต้องปลดปล่อยออกมาผ่านดนตรี แน่นอนว่าหลายๆ วงที่เริ่มต้นเล่นดนตรีมักจะเอาอิทธิพลจากวงที่เขาเคารพยกย่องหรือเป็นไอดอลซึ่งตอนนั้น

ฟลอริด้ามี Nasty Savage วงนี้มีทีเด็ดตอนไลฟ์ที่เอาทีวีขึ้นไปบนเวทีแล้วโยนใส่หัวตัวเองแล้วต่อยจนทะลุจอทีวีทะลุจากนั้นก็ลงไปนอกกลิ้งบนกับเศษกระจกทีวี วงอย่าง Outlaws ,Stranger ,Savatage ก็เป็นวงดนตรีที่ยิ่งใหญ่อยู่แล้วแต่ทั้งหมดก็ห่างไกลจากคำว่า Death Metal อยู่มาก หลายๆ วงดนตรีรุ่นใหม่ก็ที่พยายามจะทำตามหรือแม้กกระทั่งคัฟเวอร์วงเหล่านี้ไม่พ้นแม้แต่วง Obituary แต่จุดเปลี่ยนจริงๆคงอยู่ที่ตอนวงได้เจอกับ Scott Burns ที่ห้องอัด Morrissound

Obituary

ต้องเท้าความก่อนว่า Scott Burns เป็นโปรดิวเซอร์มือทองในแนวดนตรี Death Metal คลุกคลีและทำงานทั้ง Produce/Mix/Master/Enginer มาไม่ต่ำกว่า 100 อัลบั้มซึ่งเป็นอัลบั้ม Death Metal ล้วนๆ และตอนที่ Sepultura ออกอัลบั้ม Beneath The Remains ซึ่ง Scott Burns เป็นโปรดิวเซอร์ สไตล์ที่ Scott Burns ใช้กับการร้องของ Max Cavalara มันทำให้การสำรากเริ่มเป็นที่ยอมรับในวงกว้างและเป็นต้นกำเนิดการสำรอกแบบ Death Metal ให้วงอื่นเดินตามรอยและพัฒนาต่อไปรียกได้ว่าตอน Sepultura ออกอัลบั้มนี้ดนตรี Thrash Metal ก็ฟังดูโบราณไปเลยและในวงการนี้ใครๆ ก็อยากทำงานกับ Scott เพราะเขาเหมือน George Martin หรือ Quincy Jones ในวงการ Death Metal แต่ความเป็นจริงแล้ว Scott Burns ไม่ได้จะมาทำงานนี้แต่ Rick Mirror ผู้ที่เป็นโปรดิวเซอร์ ตัวจริงดันประสบอุบัติเหตุจนทำงานไม่ได้ เมื่อ Obituary กับ Morrissound ซึ่งคือสองพ่อลูก Rick ,Tom และ Jim Morris รวมกับ Scott Burns จึงก่อเกิดอัลบั้มที่ชื่อ Slowly We Rot

ตัวของ Jim เองเคยบอกว่าเขาใช้เวลานานมากในการหาวิธีอัดเสียงกลองให้หนักที่สุดเพื่อที่จะตัดกับเสียงกีตาร์แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีช่องว่างด้วย ตัวของ John Trady เองก็ไม่ได้กะจะเขียนเนื้อเพลงเลยด้วยซ้ำ เขาแค่ร้องด้นสดไปตามเรื่องตามราวเสียงกดต่ำก็ไม่ได้ตั้งใจมันเกิดขึ้นเองเนื้อเพลงหลายๆ ท่อนก็เกิดจากคำไม่กี่คำที่เขาร้องออกมาโดยไม่ได้แต่งล่วงหน้า ด้วยบุคลากรทั้งหมดที่กล่าวมาบอกกว่าการทำงานแบบถวายหัวเชื่อได้ว่างานที่ออกมาจะต้องหนัก, ดุดัน และโหด และก็เป็นตามคาดมันเป็นอัลบั้ม Death Metal ที่คลาสสิคตลอดกาลไปในทันที ในช่วงนั้นเองที่คำว่า Death Metal ก็เริ่มชัดเจนขึ้น วงต่างๆ ในฟลอริด้าส่วนใหญ่ต่างใช้งานด้านโปรดักชั่นจาก Morrissound กันซะเกือบทั้งหมด

Sarcófago

กระโจนทะยาน

วงอย่าง Death, Morbid Angel, Napalm Death , Obituary, Carcass, Sepultura กลายเป็นวงชั้นแนวหน้าของโลกไปแล้ว Death Metal กลายเป็นแนวดนตรีสายพันธ์นรกที่โหดที่สุดในประวัติศาสตร์ของ มวลนนุษยชาติไปแล้ว ช่วงนี้วงเดธหน้าใหม่เกิดขึ้นมาอีก และต่างออกผลงานกันแบบเอาคุณภาพของผลงานมางัดกันปอนด์ต่อปอนด์เลยทีเดียว แม้จะมีวง Death Metal มากมายแต่วงส่วนใหญ่ก็ยังเป็นวงดนตรีใต้ดินจึงทำให้การจัดคอนเสิร์ต มักถูกแบนจากรัฐบาลรวมทั้งประชาชนบางส่วนในบางประเทศห้ามบางวงเข้าเลยทีเดียว

แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อวงอย่าง Cannibal Corpse ได้ไปเล่นหนังเรื่อง Ace Ventura แล้วมีนักการเมืองคนหนึ่งของอเมริกันชื่อ Bob Cole เอาดนตรีของ Cannibal Corpse มาชำแหละออกทีวีว่า ดิบ, เถื่อนถ่อย ทั้งปกวิธีคิดวิธีสื่อสารเนื้อเพลงผิดศีลธรรม แต่ผลกลับตรงกันข้ามเพราะมันกลับทำให้ตัววงดังขึ้นอีก ซึ่งในอเมริกาวง Death กับ Cannibal Corpse ขายอัลบั้มได้เกินแสนชุด ใครจะไปคิดว่าแนวดนตรีสุดโต่งที่ทั้งหนัก โหด เร็ว แรงแบบนี้จะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายขายได้ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ Death Metal คนฟังกลุ่มเล็กมากๆ แถมในยุคนั้นการจะค้นหาวง Death แท้ๆ สักวงยังไม่เป็นเรื่องง่ายเหมือนตอนนี้ในยุคนั้นแน่นอนว่าแม้จะมีค่ายเพลงเมทัลอย่าง Roadrunner, Metal Blade, Nuclear Blast Records, Earache แต่ความนิยมของ Death Metal ยังไม่กว้างขวาง วงส่วนใหญ่ยังคงเป็นแนวใต้ดินเล่นตามผับเล็กๆ นำเดโม่เทป ไปขายกันเองตามหน้างานแฟนเพลงจะรู้จักกับวงจากการพูดปากต่อปากการ Tread Tape ผ่านสื่ออย่าง Fanzine หรือเหล่าผู้ฟังด้วยผ่านจดหมายข้ามประเทศ

การทัวร์ในสมัยนั้นวงอย่าง Morbid Angel ต้องเอารถบัสโรงเรียนที่ไม่มีแอร์มาทำเป็นรถทัวร์วงแถมบางทีต้องเลือกด้วยว่าจะเอาเงินไปซื้อข้าวหรือเติมน้ำมันแต่ Morbid Angel ก็เป็นวงแรกๆ ที่ได้เซ็นสัญญาออกอัลบั้มน่าจะพร้อมๆกับวง Death ซึ่งนั้นก็คืออัลบั้ม Abominations Of Desolation งานชุดนี้วงตัดสินใจไม่ผลิตออกมาขายเพราะไม่พอใจในคุณภาพแต่ภายหลังถูกวางขายในปี 91 วง Public Assasin เคยต้องไปเล่นเปิดให้กับวง Molly Hatchet เมื่อเจ้าของคลับเห็นถึงกับบอกว่า Public Assassin กูจะให้เงินให้พวก-ึง 100 เหรียญยูเอส ถ้าพวก-ึงหยุดเล่นเพลง Death Metal ห่วยๆ นั้นซะ

วงอย่าง Sepultura ที่มาจากบราซิลตอนที่ประเทสกำลังย่ำแย่แต่พวกเขาฝึกซ้อมไม่หยุดและทำงานกันหกโมงเย็นถึงหกโมงเช้าเรียกว่าทุ่มเทมากๆ และนั่นคือความเป็นไปและวิธีติดต่อสื่อสารของแฟนเพลงและวงดนตรี Death Metal ในยุค 90 เมื่อวันเวลาผ่านไปกระแสเริ่มมาหลายๆ วงที่บุกเบิกเริ่มมีชื่อเสียงมีสังกัดทุกๆ อย่างค่อยขยายสืบทอดของสายพันธุ์ของมันออกไปพร้อมพัฒนาการทางดนตรีที่หน้าสนใจแพร่พันธุ์ไปไกลหมือนไวรัสในที่สุด

วงการ Florida Death Metal ช่วงนั้นคึกคักและแข่งขันกันสูงมากมันเป็นทั้งแรงกระตุ้นและเป็นทั้งแรงกดดัน ด้วยความที่มันเป็นสถานที่ของต้นกำเนิดสายพันธุ์วงไหนมีฝีมือก็จะได้เซ็นสัญญา ทุกวงต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลาทั้งฝีมือ ทิศทางของวง การเขียนเพลงเด็ดๆเพื่อที่จะเป่าคู่แข่งให้กระจุยแน่นอนว่าเนื้อเพลงของวง Death Metal ส่วนใหญ่ก็จะวนเวียนอยู่กดับความตาย, ศพ, ฆาตกรรม, ความทรมาน แต่ก็มีบางวงที่ใส่ความคิดหัวรุนแรง ต่อต้านศาสนา และการกระทำที่ต่อต้านสังคมลงไปด้วย เนื้อหาส่วนใหญ่อัดแน่นไปด้วยความสยดสยองสะอิดสะเอียน ตีแผ่ความจริงในด้านมืด เซ็กส์วิตถารแบบตรงไปตรงมาเกือบทุกวงได้ป้าย Parental Advisory Explicit Lyrics ประทับไว้ถือเป็นป้ายบูชายัญการันตี ชื่อของวงก็คัดคำศัพท์โหดๆ มาตั้งกันบวกกับโลโกสไตล์รากไม้ที่อ่านแทบไม่ออก เมื่อเพ่งดูก็ช่างยุ่งเหยิงชวนปวดกบาล ภาพปกอัลบัมของแต่ละวงก็ล้วนสุดยอดทั้งนั้นบอกได้เลยว่าวงแนวนี้ปกสวยทุกวงแต่แฝงไปด้วยศิลปะแบบวิปริตวิตถารบรรยายถึงสิ่งที่คุณจะได้ฟังเมื่อยัดแผ่นลงไปศิลปินอาร์ตไดเร็คชั่นหลายคนแจ้งเกิดกับวงการนี้อย่าง Dan Seagrave , Wes Benscoter ,Vincent Locke นอกจากการทัวร์ในคลับสมัยนั้นยังมีเทศกาลดนตรี Dynamo Open Air จะมีวง Death Metal ไปร่วมสังฆกรรมละเลงเลือดตลอดเมืองวงการขยายใหญ่ก็จะต้องมีเรื่องมันๆ ระหว่างทัวร์เกิดขึ้นจนเกิดกระแสและการแข่งขัน

Cannibal Corpse

สร้างกระแสหรือแค่ขิง

Morbid Angel วงนี้เป็น Satanic เต็มตัวก่อนโชว์พวกเขาจะสวดบริกรรมคาถาทำสมาธิเพื่อให้เล่นสดได้อารมณ์แล้วก็หลุดพ้นจากสังคมเซ็งเคร็งและความเชื่อแบบคริสเตียนที่น่าเบื่อที่ต้องเจอทุกวันพร้อมตบท้ายด้วยการกรีดเลือดทุกคนในวงใส่ลงไปในถ้วยซึ่งเมื่อเรื่องนี้ไปถึงหูของ Glen Benton จอมเอิดผู้มีวีรกรรมมากมายแห่งวง Deicide เขาได้บอกว่า กูนะเจ๋งกว่าพวก Morbid Angel พวกมันแค่กรีดเลือดเหมือนผู้หญิงเขาทำกันแ-่งอ่อนกูนี่เอากางเขนกลับหัวทำ Scar ไว้ที่หน้าผากเลยพร้อมสักและเจาะทั่วตัว อิมเมจมันคนละชั้นกัน

Morbid Angel ได้ตอบกลับว่าเขาไม่ได้มองว่าเป็นการแข่งขันกันถ้าทาง Deicide มองแล้วทำให้วงแกร่งขึ้นก็ดีสำหรับพวกเขานะ Glen Benton ตอกกลับว่ากูไม่เคยมองว่าเป็นการเเข่งขันเหมือนกันแต่เห็นพวกมึงทำตัวเห่ยๆ เสล่อๆแล้วมันอดไม่ได้ที่ต้องสั่งสอนว่าของจริงเป็นยังไง เรื่องนี้ก็จบลงที่เมื่อทั้งสองวงต้องขึ้นเครื่องไฟลต์เดียวกัน Glen Benton จึงเปิดไปว่า เฮ้ย-ึงกับกูมีปัญหาอะไรกันรึเปล่าวะ Morbid Angel ก็ตอบกลับว่าไม่เลยเราเป็นพื่อนร่วมวงการกันถ้าอยากจะให้วงการนี้มันพัฒนาไปเราต้องร่วมมือกัน ทั้งคู่จึงจับมือกันเพราะ Glen Benton เข้าใจว่าเราทั้งหมดต้องเล่นเป็นทีม

Deicide ไม่ได้มีดีแค่วีรกรรมของ Glen Benton การเเสดงสดก็ยอดเยี่ยมวงจะใส่ชุดหนังติดหมุดหนามขึ้นไปเล่นถ้าใครไปดูโชว์จะรู้ดีว่าคุณมีเวลาสามวินาทีถ้าไปขึ้นไปบนเวทีคือขึ้นแล้วกระโดลงมาเลยไม่งั้น Glen Benton จะส่งคุณลงมาอาจจะด้วยหมุดหนาม หรือด้วยส้น-ีนก็อยู่ที่จังหวะว่าคุณขึ้นไปตอนไหนต้น 90 มีหลายคนที่ต้องฟันหลอเพราะเขามาแล้ว เขายังชอบเอาเครื่องในคนมายัดไว้ในหุ่นแล้วนำมันมาหั่นโชว์ทำให้เศษเนื้อกระจายเต็มไปหมดจนคนดูคิดว่าพวกเขาสับคนจริงๆ หรือการสาดเลือดสัตว์หลายแกลลอนใส่คนดูนอกจากนั้นวงยังเคยเอารูปปั้นพระแม่มาเรียที่ใส่เครื่องในหมูไว้ข้างในแล้ว Glen Benton ก็เอาไม้เบสบอลหวดรูปปั้นจนแตกแล้วไส้ก็ทะลักออกมาและตามด้วยปล่อยหมาพิตบูลที่เจ้าของโกดังสปอนเซอร์งานเลี้ยงไว้ออกมาโซ้ยเครื่องในกลางคอนเสิร์ต

แต่แล้ว Glen Benton ก็ต้องมาเกมที่ The Riz Theater เพราะ เขาดันสาดเลือดใส่เด็กคนหนึ่งแล้วเขาเป็นลมพับไป วันต่อมากระทรวงสาธารณสุขมาหา Glen เขาจึงต้องเลิกเล่นเรื่องเลือดไป แต่ความรุนแรงมันเกิดได้เสมอ วงมอชพิตของ Death Metal มันรุนแรงมาก Glen Benton เคยใส่เกราะกระสุนไรเฟิล .308 Spitzer และหัวกระสุนก็ไปทิ่มหลังใครสักคนแฟนเพลงจึงต้องกลับบ้านไปพร้อมหลังที่โชกเลือด การมอชพิตโหดถึงกับมีคนที่ลูกตาทะลักออกมาทำให้ตำรวจถึงกับต้องตามไปที่คลับซึ่งคลับหลายๆ แห่งที่รับโชว์ของวง Death Metal ในสมัยนั้นต้องถูกปิด

Morbid Angel

สู่จุดสูงสุด

เมื่อ Death Metal ทะยานมาถึงจุดสูงสุดของวงการดนตรีหลายคนอาจจะคิดว่าหลายวงดังๆคงมีความร็อคสตาร์บ้างเปล่าเลยวง Death Metal ไม่ค่อยดึงดูดผู้หญิงสักเท่าไหร่ส่วนเหล้ายาปลาปิ้งก็มีบ้างแต่ไม่น่าจะหนักหนาเท่าไหร่เพราะเราแทบจะไม่ได้ข่าวว่านักดนตรี Death Metal ตายเพราะยาส่วนใหญ่จะตายเพราะโรคร้ายก่อนวัยอันควรหรืออุบัติเหตุซะมากกว่าแต่สิ่งที่ศิลปินแนว Death Metal เจอบ่อยๆ ไม่ใช่สาวๆ คอนเสิร์ตแนว Death Metal มีสาวๆ มาดูเยอะนะเพียงแต่พวกเธอจะน่ากลัวดูจิตๆ ไม่ก็จะเป็นสาวกล้ามใหญ่ๆ และอยู่ในวงมอชพิชที่โยนคนไปได้ไกลสามเมตรเหมือนโยนไส้กรอกแต่สิ่งที่วง Death Metal เจอบ่อยกลับเป็นเป็นตำรวจหรืออันธพาลมากกว่า

Chris Barnes แห่ง Cannibal Corpse เคยถูกเอาปืนจ่อหัวโดยสามาชิกแก๊งหนึ่งฝั่งลอส แองเจลิสตะวันตกที่พึ่งออกมาจากคุก ซาน เควนติน ที่ Metallica เคยถ่ายมิวสิควิดีโอ "St. Anger" เพราะสมาชิกแก๊งค์นั้นไม่ชอบเนื้อเพลงที่เขาเขียนและบอกใ้ห้เลิกเขียนซะ แต่เขาก็รอดมาได้จากการที่ผู้จัดการวงใช้วาทะศิลป์เกลี้ยกล่อมให้เขาลงจากรถทัวร์ได้ 

Morbid Angel เคยถูกตำรวจจับที่นิว เจอร์ซีย์ เพราะไม่ชอบในลุคของวงเลยขอค้นรถซึ่งตำรวจก็เจอทั้ง ปืน อุปกรณ์ไสยเวทย์ที่วงใช้ทำพิธีกรรมก่อนโชว์และหัวกะโหลกคนแทนที่ตำรวจจะขอดูใบอนุญาติพกปืนแต่กลับตั้งข้อหาว่าพวกเขาฆ่าคนแล้วเอาหัวกะโหลกมาเก็บไว้

Malevolent Creation โดนตำรวจ 6 คันที่เมืองลิตเติล ร็อค รัฐอาร์คันซอ บุกรถทัวร์แล้วขอค้นรถแต่ช้าหลักจากคืนปาร์ตี้ซึ่งก็พบกัญชา 85 กรัมแทนที่จะจับกัญชาแต่ตำรวจกลับตั้งข้อหาว่าพวกเขาค้ายาแล้วรวบเงินที่ได้จากการขายเสื้อวงไปหมดเพราะบอกว่าเป็นเงินจากการขายยาแล้วเรียกเงินอีก 12,000 เหรียญยูเอส เป็นเงินประกันซึ่งแน่นอนวงไม่มีเลยนอนคุกไป 4 คืน

 Malevolent Creation

มีรุ่งก็ต้องมีร่วง

วงการ Death Metal ซบเซาลงปลายยุค 90 เหมือนอาณาจักร Death Metal ล่มสลายลงซึ่งก็ไม่แปลกโลกมันก็เป็นแบบนี้เสมอมาเหมือนทุกยุคทุกสมัยไม่ว่าจะ Emo (อีโม), Nu Metal (นู เมทัล), EDM (อีดีเอ็ม) หรือ Hiphop (ฮิปฮอป) เมื่ออะไรขายได้สังกัดก็จะปล่อยงานแบบนั้นออกมาจนล้นตลาดหลายๆ งานก็ไม่สร้างสรรค์บางวงดนตรีในยุคหลังก็ตีบตัน เน้นขายปกโหดๆ แต่เพลงไม่มีอะไรใหม่แฟนเพลง Death Metal หลายคนเอาแผ่นมาปล่อยเลิกใส่เสื้อดำแล้วแต่งตัวแบบ Kurt Cobain และเมื่อกองทัพ Black Metal เดินหน้ามาถึงจากฝั่ง Norwegian Black Metal คนที่เป็น Metalhead ตัวจริงก็จะเทไปทางนั้นมากกว่า Death Metal

หลายๆสังกัดพูดเลยว่าไม่มีตลาดสำหรับดนตรี Death Metal ในตอนนี้หลังจากยุคนี้กระแสดนตรีโลกมันเอนมาทาง Grunge (กรันจ์) และดนตรี Rap (แร็ป) แบบ Ice-T และช่วงยุคหลังปี 2000 ยุคที่ Alternative กำลังเบ่งบาน กระแสแนวเพลง Death Metal ในทุกแนวเพลงย่อยเริ่มร่วงหายไปทีละวง 2 วงหลายๆ วงเปลี่ยนแนวทางดนตรีที่เล่นบางไปได้ดีบางดับสูญหลายสิ่งกลืนกิน Death Metal แบบไม่เหลือซาก หลายคนว่า Death Metal ก็แค่กระแสหนึ่งกระแสแต่วง Death Metal สายเลือดใหม่ที่กำลังฝักตัวเคลื่อนไหวกำลังพึ่งเริ่มนักฟังตัวจริงจะรู้ว่าวงที่เหลืออยู่และหลุดรอดมีชีวิตมาได้นั่นแหละตัวจริง

หลังจากยุค Nu Metal ตามด้วยยุค Emo และ Metalcore แม้ก่อนหน้านี้ดนตรี Death Metal จะเงียบเหงาซบเซา แต่ช่วงปลายยุค Emo นี่แหละเป็นช่วงนี้ดนตรี Death Metal จะกลับมาอีกครั้งแต่รอบนี้กลับมาในแบบลูกผสมที่เรียกว่า Deathcore ซึ่ง Metalhead หลายๆ คนไม่ชอบและไม่นับว่าดนตรี Deathcore เป็นหนึ่งในแขนงของ Death Metal และดนตรีอีกสไตล์ที่มาเป็นกระแสพร้อมกับ Deathcore คือ Brutal Death ในแบบ Slamming Brutal Death ซึ่ง คนเหงาหู จะถือว่าการมาถึงของดนตรี Nu Metal ถือเป็นการสิ้นสุด Death Metal ในแบบ Old School 90 ในส่วนของ Part 2 ก็จะเป็นเรื่องของ Death Metal ในยุคหลัง 2000 หลังจากกองทัพ Nu Metal จู่โจมโลกใบนี้แล้ววงการ Death Metal จะเป็นเช่นไร Deathcore คืออะไรและทำไมต้อง Slamming Brutal Death เรื่องราวกลิ่นอายแห่งความตายยังไม่จบแค่นี้ต่อโปรดติดตาม...

สำหรับผู้สนใจ Death Metal คนเหงาหู รวมลิสต์รายชื่อวงดนตรีที่คุณควรฟังถ้าอยากจะศึกษารากเหง้าของดนตรี Death Metal ในยุค 90 ซึ่งนำมาจากหนังสือ Crossroad Metal Edition Vol.1 ซึ่งเชื่อว่าหลายๆคนไม่น่าจะหาได้อีกแล้วเขียนโดย Metal Savage หนึ่งในกูรูเมืองไทย แน่นอนแต่ละวงอาจจะเล่นเหมือนกันบ้างแตกต่างกันบ้างไปตามอัลบั้มแต่ละชุด แต่ส่วนใหญ่อัลบั้มแรกๆ ทั้งหมดของวงเหล่าคือจุดต้นกำเนิดของดนตรี Death Metal แบบ 90 Old School 100% เพื่อเพิ่มความสนุกสนานในการฟังลิสต์คนเหงาหู จะแบ่งลิสต์เป็นวงเด็ดของแต่ละประเทศกับแบ่งตามแนวเพลงเพราะแต่ละประเทศจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันไปแนวเดียวกันเล่นคนละทวีปก็จะมีความแตกต่างกันอีกและนี่คือสีสันของการฟังเพลงประเภทนี้

อเมริกา

ฟลอริด้า - Death ,Nocturnus ,Morbid Angel ,Cynic ,Master ,Gordian Knot ,Atheist ,Neurotica , Monstrosity Massacre ,Deicide ,Brutality, Malevolent Creation, Autopsy , Disincarnate ,Meathook Seed ,Six Feet Under ,Cancer ,Atheist

ทางส่วนอื่นๆ ของอเมริกา

นิวยอร์ก - Cannibal Corpse ,Immolation, Baphomet, Broken Hope ,Suffocation

นิว เจอร์ซี - Revenant

เวอร์จิเนีย - Deceased

มิลวอกี้ - Viogression

ชิคาโก้ - Master

นอกจากนี้ก็ยังมีวงแปลกๆ ที่น่าสนใจอีกมากเกิดขึ้นราวกับดอกเห็ดในหน้าฝนอย่าง Brutal Truth ,Vital Remains, Accidental Suicide, Morpheus Decends, Impaler, Killing Addiction, Morbid Saint, Excruciating Pain, Dead Youth

มุมอื่นๆ ของโลก

แน่นอนว่านอกจากฐานทัพใหญ่อย่างฟลอริด้าแล้วที่อื่นก็ยังมี Death Metal อยู่เช่นกันเพราะกลิ่นอายของความตายมันตลบอบอวลปกคลุมไปทั่วโลก

ในสวีเดนมีวงดีๆ เกิดขึ้นมากมาย มีวงชั้นนำอย่าง Entombed, Edge Of Sanity, Hypocrisy, Grave, Unleashed, Dismember, Seance, Cemetary, At The Gates, In Flames, Arch Enemy, Carnage, Centinex, Opeth,The Crown, Dark Tranquillity, Dimension Zero, Grave, Hypocrisy, Dissection, Katatonia, Insision, Merciless, Necrophobic, Soilwork, Spawn of Possession, Therion, Tiamat ซึ่งสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยซาวน์ดที่ไม่เหมือนกับเดธจากฝั่งอเมริกา จนผลงานของวงทางแถบนี้มักถูกเรียกจำกัดเฉพาะกลุ่มว่า Swedish Death Metal ซึ่งเรื่องนี้ คนเหงาหู จะขอยกยอดเป็นอีกตอนไปเลยเพราะแวดวงของ สวีเดน เยอรมัน และ ละติน Metal มันยิ่งใหญ่และมีรายละเอียดมากจนสามารถเขียนแยกเป็นตอนเดี่ยวๆ ได้เลย

ส่วนประเทศอื่นๆก็มีวงดังๆ ตามนี้ ฟินแลนด์ ประเทศที่โด่งดังจากวง Black Metal ก็ยังมีวง Death อย่าง Purtenance และ Kalmah นอร์เวย์มี Black Death เยอรมันมี Morgoth และ Messiah อังกฤษก็มี Benediction ออสเตรเลียมี Pungent Stench โปแลนด์มี Dragon ,Vader และ Creation Of Death อังกฤษยังมีวง Carcas กับ Napalm Death ฮอลแลนด์มี Sinister, Asphyx และ Gorfest เดนมาร์กก็มี Konkhra ฝรั่งเศสมี Mercyless และ Agressor เชกโกสโลกาเวียมี Pathologist เยอรมันนีมี Flashcrawl, Atrocity และ orchure ออสเตรเลียก็มีวง Disastrous Murmur และ Disharmonic Orchestra แคนาดามี Gorguts และ Kataklys ชิลีมี Torturer โคลัมเบียมี Masacre เม็กซิโกมี Brujeria ออสเตรเลียมี Mortification ญี่ปุ่นมี Transgressor

Brujeria

ถ้าแบ่งตามแนวเพลงของ Death Metal ความยิ่งใหญ่ ความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินแนวนี้เมื่อเกิดจากหลายพื้นที่ในโลกร้อยพ่อพันแม่มันเลยไม่ได้มีแค่ดนตรี Death ในทิศทางเดียวกันแต่ละวงมีสไตล์และเอกลักษณ์พยายามหาความเป็นตัวของตัวเองให้ได้มากที่สุดพัฒนาการจน Death Metal แบ่งออกได้เป็น (Sub-Genre) ย่อยๆดังนี้

Satanic Death (ซาตานิก เดธ)

เป็นเดธพันธุ์แท้ที่หนักทั้งดนตรีและเนื้อหาซึ่งเต็มไปด้วยการฝักใฝ่ต่อปีศาจ, ซาตาน, การบูชายันต์, ดูหมิ่นเหยียดหยามศาสนา, เป็นปรปักษ์และแอนตี้คริสเตียน เป็นเดธที่มีมาตั้งแต่กำเนิดและเผยแพร่เผ่าพันธุ์มาจนถึงทุกวันนี้ ภาพลักษณ์ของวงประเภทนี้ค่อนข้างโหดร้าย, ซีเรียส และก้าวร้าว วงที่เล่นแนวนี้ก็มี Decide, Morbid Angel และ Vital Remain

Brutal Death (บรูทัล เดธ)

ความหมายของมันก็บอกอยู่แล้วว่าเป็น Death Metal ที่โหดร้ายทารุณกว่าเดธพันธุ์อื่น ดนตรีหนักมาก เสียงร้องของวง ประเภทนี้จะใช้การสำรอกออกมาแบบฟังไม่ได้ศัพท์ เนื้อหาของเพลงก็สุดสยอง หฤโหด อำมหิต จะไม่มีเมโลดิกให้ฟังกัน ในวงประเภทนี้เลย มีกำเนิดมาตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของตระกูลเดธเช่นกัน วงแนวหน้าของสาขานี้ก็มี Incantation, Cannibal Corpse และ Sinister

Grindcore (ไกรนด์คอร์)

ดนตรีไม่แตกต่างจาก Brutal มากนัก เน้นความไวเป็นหลัก แต่เพลงประเภท Grindcore ส่วนใหญ่ห้วนสั้นและเร็ว เนื้อหาของวงประเภทนี้อาจมีการเมืองแทรกบ้าง หลายวงมีเรื่องเซ็กซ์อีกด้วย เป็นเดธพันธุ์ปวดกะโหลกมาก แต่ก็สร้างความสะใจให้ เหล่าแฟนเพลงได้เป็นอย่างดีมีวงเด่นๆ คือ Napalm Death กับ Carcass (อัลบั้มแรกๆ Exit 13, AC, Blood, Meat shit) และ Meat shit

Christian Death (คริสเตียน เดธ)

แทบทุกยุคทุกสมัยดนตรี Metal ต้องมีคำว่าคริสเตียนเข้ามาตลอดตั้งแต่วง Stryper (Christian Death), Vengeance Rising กับ Detritus (Christian Thrash), Horde (Christian Black) จนมาถึง Christian Death ที่มีวง Mortification เป็นหัวหอก โครงสร้างดนตรีประเภทนี้ก็เหมือนเดธทั่วๆ ไป จะแตกต่างที่เนื้อหามากกว่า ซึ่งสื่อไปทางคริสต์ศาสนาเป็นหลัก เป็นเดธพันธุ์ที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมสักเท่าไหร่ แต่ก็พอมีวงประเภทนี้อยู่บ้างเช่น Metanota, Lament, Godspeed

Death Thrash (เดธ แทรช)

เป็นเดธที่มีโครงสร้างดนตรีแธรชอยู่ทั้งท่อนริฟฟ์และท่วงทำนอง เสียงร้องของวงพวกนี้ส่วนใหญ่ จะได้รับอิทธิพลมาจาก Thrash Metal เต็มที่ และมีไม่น้อยเป็นวงที่เกิดในช่วงคาบต่อระหว่างสองแนวนี้อย่างเช่น Protector, Merciless, Exoto และ Massacre ดนตรีประเภทนี้มีสัดส่วนของจังหวะมันมาก แฟนเพลง Death และ Thrash รับได้ทั้งนั้น

Doom Death (ดูม เดธ)

เป็น Death ที่มีความหนักแน่น ทรงพลัง ด้วยการผสมผสานริฟฟ์กีตาร์เนิบยานของท่วงทำนองเศร้าสร้อยเข้ากับเนื้อหา และเสียงร้องในแบบ Death จุดเด่นเน้นความหนักมากกว่าไว บางครั้งยังมีดนตรีประเภทคีย์บอร์ด, อะคูสติก มาสร้างสีสัน อีกด้วย วงหัวหอกแนวนี้ก็มี Paradise Lost, Winter, Orphaned Land, Tiamat และ Amorphis ได้รับ ความนิยมมากพอสมควร

Gothic Death (โกธิค เดธ)

เป็นเดธอีกสายพันธุ์ที่ได้รับตวามนิยมมากในปัจจุบัน เดธสาขานี้จะพิถีพิถันและประณีตกับดนตรีมาก โครงสร้างของซาวด์นำดนตรีคลาสสิกในยุดกอธิกเข้ามาผสมผสานกับ Death Metalได้อย่างกลมกลืน จุดเด่นของเพลง ส่วนใหญ่จะใช้คีย์บอร์ดเป็นหลัก บางครั้งนำเครื่องดนตรีอย่างไวโอลิน, วิโอลา หรือเสียงร้องในแบบโซปราโน่มาแต่งเติมสีสัน Metal พันธุ์นี้ค่อนข้างออกจากดูมยาก ทั้งนี้เพราะพัฒนามาจากรากเหง้าเดียวกัน วงแนวหน้าที่เล่นสไตล์นี้มี Therion ยุคหลังๆ Enchantment, Anathema, My Bride, The Gathering และ Anathema

Melodic Death (เมโลดิก เดธ)

เดธพันธุ์นี้มีดนตรีที่ติดหูและรับง่ายมาก เพราะไม่ได้มุ่งเน้นขายความโหดเพียงอย่างเดียว อาจกล่าวๆ ได้ว่าเฉพาะเสียงร้องและเนื้อหาเท่านั้นที่ยังเป็นเดธ ในส่วนของดนตรีอาศัยท่วงทำนองที่สวยงาม, ไพเราะ, ท่อนริฟฟ์ชัดกังวาน, ท่อนโซโล่พลิ้วไหว นอกจากนี้ยังมักนำเครื่องดนตรีประเภทเปียโน, อะคูสติกมาสร้าง ความไพเราะอยู่เสมอ เป็นแนวดนตรีที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน มีวงชั้นนำอย่าง Dark Tranqullity, In Flames และ Sentenced