"HOUSE OF HEARTS CONCERT" เมื่อความลับจากใจ "อะตอม" คืนความสุขที่หายไป

ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ได้พรากความสุขของทั้งศิลปินรวมไปถึงนักฟังเพลงที่พักผ่อนคลายทุกข์ด้วยการชมการแสดงดนตรีสดในคอนเสิร์ตใหญ่ และเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย หลายงานแสดงที่ถูกเลื่อนก็กลับมาจัด อย่างเช่น ไทยประกันชีวิต Presents ATOM HOUSE OF HEARTS CONCERT โชว์เดี่ยวเต็มรูปแบบครั้งแรกของ อะตอม-ชนกันต์ รัตนอุดม ศิลปินจากค่าย White Music ในเครือ GMM Grammy ที่มาพร้อมน้ำเสียงและบทเพลงที่โดนใจหลายๆ คน ซึ่งงานนี้จัดโดย iDea Fact ผู้จัดภายใต้การดูแลของ GMM Grammy

อะตอม ชนกันต์ ถือว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่ปล่อยผลงานต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเพลง "Please", "ทางของฝุ่น", "อ้าว" และ "Good Morning Teacher" และได้เขียนเพลงเด่นมากมายให้กับศิลปินอื่นอย่าง “ปล่อย” ของ ป๊อบ-ปองกูล สืบซึ้ง และหลังจากอยู่ในวงการมาหลายปีและมีผลงานจนนับไม่ถ้วน เขาก็ได้นำประสบการณ์และสิ่งที่สร้างไว้มาทำคอนเสิร์ตของตัวเอง ซึ่งเรามีโอกาสได้เข้าชมด้วยในวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา

หลังจากที่ผ่านการตรวจคัดกรองอุณหภูมิร่างกาย 2 ครั้ง กับการตรวจบัตร เราก็ได้ถึงฮอลล์การแสดง ซึ่งพอผ่าน 6 โมงไม่นาน การแสดงก็เริ่มขึ้นด้วยความจัดจ้านเมื่ออะตอมและเหล่าแดนเซอร์ ได้ขึ้นวาดลวดลายบนเวทีกับเพลง "ช่วงนี้", "แผลเป็น" และ "รถคันเก่า" โดยถึงแม้ว่าจะไม่มีซีนร้อนแรงที่อะตอมใกล้ชิดเหล่าแดนเซอร์ แต่เขาก็มีปฎิสัมพันธ์และเล่นกับทีมแดนเซอร์ในสไตล์ตัวเอง ก่อนที่เขาจะพูดคุยทักทายแนะนำงานครั้งนี้ และที่มาของธีม ATOM HOUSE OF HEARTS CONCERT

เมื่อการแนะนำตัวจบลง การแสดงก็เข้าสู่ห้องแรกหรือพาร์ทเพลงซึ่งสื่อถึงความเยาว์วัย ที่เริ่มด้วยการฉายภาพวัยเด็กของอะตอม และโชว์เพลงรักที่สื่อถึงความไร้เดียงสาอย่าง "Please", "Happy Aniversary", "อยู่นี่ไง" ซึ่งเขาได้เล่าเรื่องราวของตัวเองระหว่างร้องเพลงเหล่านี้ ก่อนที่จะเซอร์ไพรส์ทุกคนด้วยการร้องเพลง "พระเอก" และ "1 2 3 4 5 I Love You" ของ  แอมมี่ The Bottom Blues (ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์) ศิลปินที่ผลักดันเขาเข้าวงการ ด้วยการนำเดโม่อะตอมมาให้ค่าย สนามหลวงมิวสิก และอะตอมก็ขอบคุณแอมมี่บนเวทีตอนร้องเพลงจบ

พอผ่านเพลงฟีลกู้ดอย่าง "1 2 3 4 5 I Love You" คอนเสิร์ตก็เดินทางสู่จุดที่ดาร์กที่สุดทันที ซึ่งก็คือห้อง 2 หรือพาร์ทเพลงเศร้าที่อะตอมถ่ายทอดผลงาน "Werewolf", "พอ", "ไม่ใช่ฉัน", "อย่าบอก" ภายใต้ฉากสีดำที่สื่อถึงความโดดเดี่ยว ก่อนตามด้วยการพูดคุยเรื่องความรักของอะตอมในเพลง "แสนสุข"  และ "ทางของฝุ่น"

เพื่อเป็นการดึงทุกคนจากความเศร้า อะตอมก็ได้พาทุกคนเข้าสู่ห้องที่ 3 ของการแสดงกับเพลงที่พูดถึงความรักแบบเทาๆ พร้อมเปิดตัวแขกรับเชิญที่เรียกเสียงกรี๊ดสนั่นอย่าง บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ ที่มากับเพลง "Superstar" โดยถึงแม้ว่าดนตรีในการแสดงของบุรินทร์ครั้งนี้จะไม่แน่นเหมือนตอนเขาแสดงคอนเสิร์ตเดี่ยวของตัวเองอย่าง Disco in Tuxedo แต่ภาพรวมจะซาวด์ทั้งหมดก็ยังออกมาโอเค ซึ่งเรามองว่าสิ่งที่ทำให้ซาวด์ดนตรีงาน ATOM HOUSE OF HEARTS CONCERT ต่างจากโชว์เดี่ยวของบุรินทร์เป็นเพราะขนาดวงดนตรีงานครั้งนี้เล็กกว่า และเป็นเพราะสเกลงานที่ต่างกัน 

โดยหลังจากที่อะตอมแจมกับบุรินทร์ในเพลง "หยุด" และ "ขอโทษ" และพูดคุยกับบุรินทร์เกี่ยวกับการร่วมงานในอดีต เขาก็โชว์เดี่ยวในเพลง "หนึ่งคืน", "Get You Out" และปิดท้ายด้วยการโชว์เพลง "ช่วงนี้" อีกครั้งในเวอร์ชั่นที่เรียบเรียงดนตรีต่างจากรอบแรกซึ่งเปิดโอกาสให้อะตอมโชว์การเต้นแท็ปที่ฝึกมาเฉพาะงานนี้

ก่อนที่เราจะเข้าสู่ห้องที่ 4 ที่ว่าด้วยการคลี่คลายปมความรักของอะตอม เขาก็พาทุกคนเข้าห้องลับพร้อมเผยเรื่องราวในอดีตว่าเขาเป็นอีกคนที่เคยฟังเพลงลูกทุ่งจนเข้าแข่งร้องเพลงแนวดังกล่าว ก่อนที่จะโชว์เพลง "คิดถึงพี่ไหม" ของตัวเองที่เป็นสไตล์โซลผสมลูกทุ่ง และตามด้วยเซอร์ไพรส์อีกครั้งเมื่อเปาวลี พรพิมล แขกรับเชิญคนที่ 2 ขึ้นเวทีพร้อมสะกดทุกคนด้วยพลังเสียงในเพลง "นักร้องบ้านนอก" และ "ผู้ชายในฝัน" ของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ก่อนที่อะตอมจะมาแจมกับเธอในเพลง "กระแซะเข้ามาซิ" และ "รักคุณยิ่งกว่าใคร" ของ ก๊อท-จักรพันธ์ ครบุรีธีรโชติ ซึ่งเปิดให้ทุกคนได้เห็นมุมโจ๊ะของอะตอม และวินาทีที่เขาเสียอาการแบบน่ารักๆ ต่อหน้าเปาวลี 

ช่วงท้ายของคอนเสิร์ต ATOM HOUSE OF HEARTS CONCERT ก็เป็นช่วงเพลงที่สื่อถึงการมูฟออนโดยอะตอมได้แสดงกับ 4 ขุนพลนักดนตรีที่คอยสนับสนุนเขามาตลอดอย่าง บอล-กันต์ รุจิณรงค์​ มือกีตาร์ประจำวง อพาร์ตเมนต์คุณป้า และ ขลุ่ย-บริพัตร หวานคำเพราะ ที่เป็น Music Director ของงาน รวมถึง กวิน อินทวงษ์ โปรดิวเซอร์คู่บุญของอะตอม และ อาร์ม-ภูษณะ ตรีบุรุษ สมาชิกวง The Paradise Bangkok Molam International Band ในเพลง "เสมอ" ของ ปู-พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ และ "ปล่อย" ที่อะตอมเขียนให้ ป๊อบ ปองกูล ก่อนที่ทั้ง 4 จะคืนเวทีให้อะตอมร้องเพลงดัง "Good Morning Teacher" และผลงานที่เขาได้แรงบันดาลใจจากความรักพ่อแม่อย่าง "กว่าจักรวาล" 

และก่อนที่งานจะจบลง งานก็มาพร้อมเซอร์ไพรส์สุดท้ายเมื่ออะตอมเปิดตัวด้านท้ายฮอลล์พร้อมร้องเพลง "อ้าว" และเดินไปหาผู้ชมทุกโซนโดยมีการ์ดที่คอยป้องกันและกั้นระยะห่างระหว่างเขากับคนดู เพื่อลดความเสี่ยงจากการใกล้ชิดที่อาจทำให้โรคโควิด-19 ระบาดโดยเมื่ออะตอมขึ้นเวทีก็ได้รับลูกโป่งคลิปโปรเจกต์จากแฟนๆ ที่เป็นเซอร์ไพรส์จากคนที่คอยติดตามเขาเสมอมา จนทำให้โมเมนต์ก่อนทุกคนกลับบ้านอบอวลไปด้วยความสุข 

การแสดงของอะตอม บนเวที ATOM HOUSE OF HEARTS CONCERT ในพาร์ทร้องเขาทำออกมาได้ดี ซึ่งเราประทับใจการถ่ายทอดของเขาในท่อนที่ต้องใช้พลัง รวมถึงเวลาใช้เสียงเวลาร้องเบาๆ แต่สอดแทรกอินเนอร์อย่างชัดเจน และแฝงเทคนิคการร้องกึ่งลมกึ่งเสียงจนทำให้เนื้อเสียงนุ่มลง และนอกจากการร้องเพลงโซลแล้ว บนเวทีอะตอมยังโชว์เพลงหลากหลายแนว ทั้งป็อป, ลูกทุ่ง, ดิสโก้, โซลไปจนถึงลูกทุ่ง และยังโชว์ความร็อคแบบเบาๆ ในเพลง "เสมอ" จนเราสงสัยในใจว่า "อะตอมเขาจะร้องทุกแนวในวันนี้เลยเหรอ?" และทำให้เรารู้สึกดีใจที่ได้ชมคอนเสิร์ตที่มีรสชาติดนตรีเต็มอิ่มแบบนี้ หลังจากห่างหายจากการฟังดนตรีสดเต็มรูปแบบไปหลายเดือน

ในด้านการคุมเวทีนั้น อะตอมเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่เรามองว่าเขาเอาคนดูได้อยู่ด้วยเสน่ห์และความจริงใจ โดยตลอดงานเขาได้เล่าเรื่องราวความเป็นตัวเอง และสอดแทรกมุกตลกเรื่อยๆ ทั้งตอนที่แซวแฟนคลับตัวเองที่กรี๊ดบุรินทร์ออกหน้าออกตา และในช่วงต่างๆ ระหว่างโชว์ ไปจนถึงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเมื่อตัวเองลืมสคริปต์ ซึ่งนอกจากที่กล่าวมา อีกอย่างที่เราประทับใจอะตอมก็คือการที่เขาให้เกียรติทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จและนักดนตรีไปจนถึงผู้สนับสนุน โดยงาน ATOM HOUSE OF HEARTS เรียกได้ว่าเป็นคอนเสิร์ตหนึ่งที่วงแบ็คอัพมีส่วนร่วมและแอร์ไทม์ชัดเจนราวกับเป็นแขกรับเชิญอีกกลุ่ม เพราะนอกจากอะตอมจะแนะนำและพาทุกคนมาโค้งขอบคุณผู้ชมแล้ว เขายังให้นักดนตรีมีบทบาทในโชว์ อย่างเช่นที่ตอนที่เขาเล่นมุกกับนักเป่าทรัมเปต และอะตอมยังมีสอดแทรกสคริปต์ที่พูดถึงผลงานและตัวตนของสมาชิกวงเขาบนเวทีด้วย

สำหรับภาพรวมของงาน สิ่งที่เราชื่นชอบก็คือการที่ทีมงานไม่หลุดคอนเซ็ปต์ ATOM HOUSE OF HEARTS CONCERT เลย เพราะการแสดงเริ่มด้วยความร้อนแรงเหมือนการรับแขก ก่อนที่อะตอมจะพาทุกคนเที่ยวชมห้องที่มาพร้อมเรื่องราวต่างๆ ในจิตใจเขาและบทเพลงที่มากับโมเมนต์เหล่านั้น ก่อนจะส่งทุกคนกลับบ้านแบบใกล้ชิดแต่ก็ไม่ละเมิดกฎการรักษาระยะห่างเหมือนกับเขาเป็นเจ้าบ้านที่อยากลาแขกทุกคน และในขณะเดียวกันการแสดงหลักก็มี 4 ธีมหลักซึ่งตรงกับจำนวนห้องหัวใจคน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในสตอรี่ที่เป็นแกนหลักของงาน

ทางด้านของโปรดักชั่นงาน ในส่วนของเวทีก็มากับการตกแต่งที่ดูเหมือนกำแพงบ้านที่สามารถปรับไปมาได้ตามอารมณ์เพลง อย่างเช่นซีนเพลงเศร้าที่ฉากกลายเป็นภาพสีดำคล้ายเวลากลางคืนและมีสปอตไลท์ที่สร้างความรู้สึกโดดเดี่ยว ในขณะที่เพลงเร็วก็มีใช้แสงสีหรือลูกเล่นอย่างบันไดเพื่อเพิ่มพื้นที่การเต้นของเหล่าแดนเซอร์ ไปจนถึงการเล่นแสงตามอารมณ์เพลง ซึ่งเรามองว่าเข้ากับภาพรวมและธีมงาน ไม่มากไม่น้อยเกินไป เพราะทุกอย่างดูเสริมกันลงตัว ไม่มีอะไรแย่งซีนนักร้องมากเกินไป และเวทีก็มีสีสันและลูกเล่นให้เราได้ตื่นตาตลอด 3 ชั่วโมง

ส่วนพาร์ทดนตรีนั้น ทางวงและทีม Music Director ก็ทำดนตรีออกมาในเกณฑ์ดีเข้ากับโชว์ อย่างเช่นเพลงโซลฟังก์ก็มาพร้อมเครื่องเป่าและเบสที่เด่น ในขณะที่เพลงแนวอื่นๆ ก็มีการออกแบบดนตรีให้เหมาะสมกับโชว์นั้นๆ ซึ่งสมาชิกวงดนตรีของอะตอมบางคนก็เป็นศิลปินมากฝีมือที่หลายคนคุ้นเคยกันดีอย่างเช่น นุ้ย-วิริยาภา จันทร์สุวงศ์ สมาชิกวง The Peachband, ม่อน-สุภาภรณ์ ชูชาติไทย นักร้องนำวง Pure เจ้าของเพลง "เรื่องเดียวที่ไม่ยอม" และ ลูกจัน นิภาพร ผู้เข้าแข่งขันรายการ Diva Makeover

ใครที่อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับคอนเสิร์ตมาถึงตรงนี้อาจจะตั้งคำถามเกี่ยวกับมาตรการการป้องกันโรคโควิด-19 ของทาง GMM Grammy และ iDea Fact ซึ่งส่วนตัวเรามองว่างานนี้ทางผู้จัดได้พยายามอย่างเต็มที่ในการลดความเสี่ยง โดยเก้าอี้คนดูจะมีการตั้งเว้นระยะชัดเจน และมีการวัดอุณหภูมิถึง 2 ครั้งเพื่อคัดกรองก่อนเข้างาน รวมถึงการเข้มงวดเรื่องลงทะเบียนผู้ชมและสแกนไทยชนะ และในขณะเดียวกันเวลาอยู่ในคอนเสิร์ตเราเองก็ต้องสวมหน้ากากตลอดโดยการ์ดจะคอยเตือนคนที่ถอดมาสก์ และพอถึงเวลาคอนเสิร์ตจบ ก็มีการแบ่งแถวเดินออกจากงาน เพื่อป้องกันการเบียดเสียดที่อาจเสี่ยงต่อการสัมผัสไวรัสด้วย เช่นเดียวกับตอนเริ่มที่จะมีการกำชับให้ทุกคนเว้นระยะ 1 เมตรขณะเดินเข้าฮอลล์ ซึ่งเราหวังว่าผู้จัดอื่นจะใช้มาตรฐานนี้ในการจัดงานของพวกเขาเหมือนกัน 

คอนเสิร์ต ATOM HOUSE OF HEARTS CONCERT นอกจากจะทำให้เราได้เพลิดเพลินกับดนตรีหลายรูปแบบที่คาดไม่ถึง และรู้จักตัวตนของอะตอมในมุมลับๆ ผ่านเพลงและเรื่องเล่าของเขาแล้ว ยังทำให้เราเริ่มมองเขาในฐานะศิลปินที่เป็นเอนเตอร์เทนเนอร์ที่ความสามารถรอบด้านและลายเซ็นเฉพาะตัวด้วย นอกเหนือจากการเป็นนักแต่งเพลงและศิลปินที่ร้องเพลงเพราะ จนทำให้อยากรู้ว่าเมื่อเขามีประสบการณ์ใหม่ๆ เขาจะเล่ามันผ่านเพลงและการแสดงบนเวทีอย่างไรในอนาคต  

• “Disco in Tuxedo” ราตรีพิศวงของ “บุรินทร์” และแขกรับเชิญในคราบวายร้าย