"ต่าย อรทัย" เปิดใจเหตุผลที่ไม่เคยโมโหออกสื่อ และความสัมพันธ์ 2 ปีกับหนุ่มนอกวงการ
เรียกได้ว่าเป็นนักร้องขวัญใจของใครหลายๆ คน สำหรับ ต่าย-อรทัย ดาบคำ ซึ่งเจ้าตัวนั้นมีผลงานเพลงฮิตติดหูมากมาย จนได้รับฉายาว่า สาวดอกหญ้า จากแฟนๆ ซึ่งล่าสุดเธอได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 พร้อมโชว์เพลง "สิมาฮักหยังตอนนี้" ที่ยอดชมพุ่งไปกว่า 150 ล้านวิวก่อนจะพูดถึงชีวิตส่วนตัวที่หลายคนสงสัย รวมไปถึงประเด็นความรัก
ในรายการ ต่าย ได้เล่าที่มาของฉายาสาวดอกหญ้าว่า "น่าจะมาจากเพลงอัลบั้มชุดแรก เป็นชื่อเพลงและอัลบั้มด้วย ดอกหญ้าในป่าปูน คือเพลงได้แต่งขึ้นมาจากในชีวิตของเรา เราก็เป็นสาวต่างจังหวัดคนหนึ่งที่เข้ามาสู้ทำงาน คือ ตอนนั้นเรียนจบมัธยมปลายแล้วเราสอบได้ที่ราชภัฏอุบลฯ แต่เราไม่มีเงินสักบาทเลยจะเปิดภาคเรียนแล้วเราเลย ตอนนั้นเราเลยตัดสินใจเข้ามาทำงานในเมืองกับคุณแม่ ที่คุณแม่ทำงานที่แคมป์ก่อสร้าง เราก็มาช่วยแม่รับจ้างซักเสื้อผ้าคนงานที่เขาไม่มีเวลาเขาก็มาจ้างเราซักห้าบาทสิบบาท ตอนนั้นอยากทั้งเรียน ทั้งทำงานเพราะอยากหาเงินเพื่อที่จะดูแลทุกคน พอแฟนๆ ได้ฟังเพลงนี้เขาก็นึกถึงตัวเรา และหลายคนที่สู้ชีวิตเขาก็บอกว่าเพลงนี้เหมือนตัวเขา สร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเขาและได้อะไรอย่างๆหลายจากเพลงนี้ คิดว่าฉายานี้ได้มาจากเพลงนี้"
ที่ผ่านมา ต่าย อรทัย เองเป็นศิลปินที่แทบไม่เคยแสดงอารมณ์โกรธออกสื่อ จนพิธีกรถามว่าเธอเคยโมโหใครบ้างไหม โดยต่ายก็ได้ตอบว่า "เคยค่ะ แต่เราแสดงออกด้วยการนิ่ง เงียบ เพราะเราไม่เคยมีปัญหากับคนที่เราทำงานด้วยเราเลือกที่จะเงียบมากกว่า ให้ทุกอย่างมันดีขึ้นแล้วค่อยคุยกัน อย่างเวลาอัดเพลงเราก็จะคุยกับอาจารย์ว่าตรงนี้หนูไม่ได้นะคะ ขอเปลี่ยน หรือ ขยับส่วนมากจะคุยให้ลงตัวที่สุด"
ด้วยความที่เป็นศิลปินที่ไม่ค่อยเปิดใจเรื่องความรัก ทำให้พิธีกรได้ถามต่ายเกี่ยวกับเรื่องหัวใจ โดยเธอได้เล่าในรายการว่า "ที่คุยอยู่จริงๆคือ นอกวงการค่ะ เริ่มจากการที่เรามีปัญหาเรื่องงานเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ไม่คิดว่าวันนี้จะคุยกันมาไกลขนาดนี้ เรามีปัญหาเรื่องงานแก้ไขไม่ได้ไม่รู้จะทำยังไง ส่วนหนึ่งเราต้องแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง และคุยกับผู้ใหญ่ในบริษัทเหมือนกันแต่เราคิดว่าเราจะแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง พี่สาวที่สนิทกันเขาบอกว่าให้เราลองคุย ปรึกษากับเขาดูไหม ก็เริ่มจากการปรึกษา รู้จักกันตรงนั้นแล้วก็เริ่มคุยกันมาเรื่อยๆ จริงๆ ก็สนิทเป็นเพื่อนทำงานด้วย แล้วค่อยขยับมาเป็นเพื่อนด้วยความที่เขาช่วยแก้ไขเรื่องงานของเราเลยสนิทกันมากขึ้น เราคุยด้วยแล้วเราสบายใจ เราอยู่ด้วยแล้วเราปลอดภัย คือ เราเห็นถึงความจริงใจของเขาแล้วอีกอย่างคือ คุยภาษาเดียวกันด้วย คุยกันนิดหน่อยเราก็เข้าใจกันแล้ว เป็นคนทางภาคอีสานเหมือนกันค่ะ"
ในช่วงท้ายหลังจากที่พูดคุยเรื่องความรัก ต่าย อรทัย ก็เผยเกี่ยวกับกิจการใหม่ที่เธอดูแลว่า "เป็นสวน ออเอง คือ สวนของอรทัยเอง ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะเปิดขาย ช่วงโควิด-19 เราไม่ได้ออกไปไหนเราเลยหาอะไรทำ ตอนแรกเราปลูกผักบุ้ง ดูวิธีการปลูกจากใน YouTube เราก็เอามาทานก่อนเราเองทานได้แล้วก็แจกเพื่อนบ้าน แล้วเราก็ดูว่ามีอะไรที่ปลูกง่ายกว่านี้ไหม ก็ปลูกต้นอ่อนทานตะวัน เราปลูกได้แล้วเราขายได้ไหม เราเลยถ่ายรูปแล้วโพสต์ลงในเฟสดู แฟนเพลงสั่ง เราก็ดีใจว่าสั่งจริงเราเลยปลูกจริงจังเลย เราซื้อเมล็ดมาแล้วก็มาเพาะปลูกเอง ที่ปลอดภัยไร้สารพิษแน่นอนค่ะ ส่วนอีกหนึ่งธุรกิจ สวยไปด้วยกัน สู้ไปด้วยกัน ออร่าทัย ธุรกิจนี้ทางผู้ใหญ่ได้คุยกันว่าจะทำขึ้นตั้งแต่ปี 61 แล้ว ตอนนั้นคือเรามีปัญหาเรื่องงานเรื่องเพื่อนร่วมงานแต่พอทุกอย่างโอเคลงตัวจึงได้ลงมือทำ ฝากทุกคนด้วยนะคะกับธุรกิจนี้"
นอกจากเรื่องความรักและชีวิตส่วนตัว ในรายการ ต้มยำอมรินทร์ ต่าย อรทัย ก็พูดถึงช่วงที่ไม่ได้ทำงาน เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา และความเป็นไปได้การเลื่อนสถานะของคนคุยนอกวงการ ซึ่งแฟนๆ สามารถติดตามรายการได้ที่ช่อง YouTube AmarinTV
อัลบั้มภาพ 13 ภาพ