Joji Presents: The Extravaganza โชว์ที่สุดแห่งความแปลกในปี 2020
ถ้าได้เห็นหน้า... ก็จะบอกว่าหนุ่มคนนี้หน้าตาดีไม่แพ้นายแบบคนไหน
ถ้าหลับตาฟังเสียง และเพลงของเขา… ก็จะบอกได้ว่าหนุ่มคนนี้เป็นศิลปินมากฝีมืออนาคตไกลได้สบายๆ
แต่ถ้าได้ดูโชว์ล่าสุดของเขา… จะบอกได้ทันทีว่า “นี่คือที่สุดของความป่วง แต่เจ๋งจดละสายตาไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว”
Joji คือชื่อศิลปินของเขา ในขณะที่หลายคนอาจจะรู้จักเขาในชื่อของ Filthy Frank และ Pink Guy เจ้าของคอนเทนต์สุดครีเอทีฟใน YouTube เมื่อหลายปีก่อน นอกจากนี้เขายังมีอีกชื่อหนึ่งคือ George Kusunoki Miller ที่เป็นชื่อจริงของเขา แต่ไม่ว่าเขาจะใช้ชื่ออะไรมาบ้าง ในวันนี้เขาใช้ชื่อ Joji ในการรังสรรค์ผลงานสุดบรรเจิดที่ไม่คิดว่าจะมีใครทำ ในชื่อโชว์ว่า Joji Presents: The Extravaganza
Extravaganza
[n.] เพลงที่เขียนอย่างฟุ้งซ่านเกินความจริง หรือ ดนตรี เรื่องประพันธ์ ที่เขียนอย่างฟุ้งซ่านเกินความจริง
แค่ชื่อโชว์ก็บอกแล้วว่าเราจะเจอกับความ “เกินจริง” มากแค่ไหน
วันที่ 24 ตุลาคม 2020 หลังจากล็อกอินเข้าไปชมวิดีโอกันสดๆ ในเว็บไซต์ live.jojiextravaganza.com เราก็จะได้พบกับวิดีโอที่มีนักมายากลมาสอนเล่นกลให้ดูกันไปพลางๆ ก่อนจะเริ่มโชว์จริงๆ เมื่อถึงเวลา 19.00 น. ตรงเป๊ะ Joji เปิดโชว์จากห้องสตูดิโอขนาดกลางที่จัดเป็นเวทีคล้ายเวทีแสดงมายากลหรือละครเวทีที่มีผ้าม่านสีแดงขนาดใหญ่แขวนอยู่กลางเวที หลังผ้าม่านเป็นเปียโน พร้อมหุ่นฟางนั่งอยู่ในตำแหน่งนักเล่นเปียโน และแนะนำหุ่นฟางตัวนั้นว่าเป็นนักดนตรีของเขาในค่ำคืนนี้ ก่อนที่จะตัดฉากไปที่เวทีเดิมแต่เปลี่ยนเซ็ตเป็น “สาวน้อยตกน้ำ” ที่มี Joji นั่งอยู่ในตำแหน่งสาวน้อยที่พร้อมจะตกน้ำได้ทุกเมื่อ และร้องเพลง “Santuary” ไปด้วย และมีทีมงานคอยปาลูกบอลใส่แป้นเพื่อหวังให้ Joji ตกน้ำให้ได้ ส่วนตัวของ Joji ก็ร้องเพลงไป ระแวงไป และเมื่อเพลงร้องมาได้จนถึงกลางเพลง ทีมงานส่งนักเบสบอลมืออาชีพมาปาลูกบอลใส่แป้น ทำให้ Joji ตกน้ำสมใจคนดู (หรือเปล่า?) และเพลงก็จบไปดื้อๆ แบบนั้น
อิหยังวะ… คำแรกที่ผุดขึ้นมาในสมองหลังจากที่เพลงแรกจบ (ไปอย่างดื้อๆ) ภาพตัดมาที่ Joji ใส่ชุดม้าสองท่อน (น่าจะมีทีมงานใส่ชุดในส่วนของขาหลัง แล้ว Joji เป็นส่วนของหัวและขาหน้า) ร้องเพลง “Attention” อยู่ในฉากบลูสกรีนเรียบๆ ร้องๆ กำลังเพลินๆ ไปได้ครึ่งเพลง ก็ตัดจบท่อนไป แล้วตัดภาพกลับมาที่ฉากเวทีปกติที่มีเปียโนพร้อมหุ่นฟางอีกครั้ง Joji มาในชุดสูทหล่อๆ และร้องเพลง “Mr. Hollywood” พร้อมกับเสียเปียโนที่เมื่อกล้องที่ฉายไปที่มือของหุ่นฟางที่… แน่นอน นิ่งสนิท จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าเสียงดนตรีที่ได้ยินตลอดทั้งโชว์เป็นแบ็กกิ้งแทร็ก หรือให้ดีหน่อยก็อาจจะเล่นเปียโนสดๆ อยู่ด้านข้างเวที โดยอาจจะผสมกันระหว่างเปียโนและแบ็กกิ้งแทร็ก
ทุกๆ 2-3 เพลง จะคั่นด้วยโชว์สั้นๆ จากนักมายากลบ้าง โชว์จากนักร้องโอเปร่าในเพลง “Nessun Dorma” ที่คอสเพลย์เป็น Luciano Pavarotti และยังมี Justin Timberlake ตัวปลอม ที่หนุ่ม Joji เชิญลงจากเวที พร้อมบอกว่า “เราจ่ายค่าจ้างให้คุณไม่ไหว” อีกด้วย
หลังจากนี้ก็เริ่มเข้าสู่ความวายป่วงอย่างแท้จริง ทั้งโชว์สักบนเวทีพร้อมเพลง “Ew” พาผู้ชมออกไปนอกสตูดิโอเพื่อชมแก๊งบิ๊กไบค์เบิ้ลเครื่องดังๆ กลบเสียงเพลง “Demons” ทำไข่คนไป ร้องเพลงไปกันสดๆ บนเวทีในเพลง “Your Man” เปิดเพลง “Gimme Love” เวอร์ชั่น Live Band พร้อมภาพโซล่าร์เซลส์ และลาวาร้อนๆ คั่นระหว่างเพลงด้วยการโชว์โยนของสามชิ้น จากส้ม 3 รูปเป็นไอโฟน นาฬิกาโรเล็กซ์ กล้องถ่ายรูป ถังดับเพลิง และประแจโดย Joji เอง มีช่างมาแกะสลักน้ำแข็งอยู่หลังเวที ไหนจะสารพัดชุดที่ใส่ ทั้งมินเนียนในเพลง “Tick Tock” เปิดสังเวียนมวยในเพลง "Pretty Boy" ใส่เสื้อกล้ามในเพลง “I Don’t Wanna Waste My Time” ชุดเสื้อกันหนาวราวกับชาวเอสกิโมในเพลง “Can’t Get Over You” และที่ดูไปก็ลุ้นไปและเหนื่อยแทนสุดๆ คือเพลง “Run” ที่หนุ่ม Joji ร้องเพลงไป โหนบาร์ไป วิ่งบนลู่วิ่งไปจนเหงื่อแตกพลั่กๆ (แน่นอนว่าเสียงร้อง… ไม่ต้องพูดถึง) ก่อนจะจบโชว์หล่อๆ ด้วยชุดสูท และร้องเพลงอย่างจริงจังใน “Like You Do” และ “Slow Dancing in the Dark”
มาถึงตรงนี้ คงอยากรู้ใช่ไหมว่าโชว์นี้จะจบลงอย่างไร? Joji เดินออกมาจากผ้าม่านสีแดงหลังเวที พร้อมกับสต๊าฟบางส่วน นักมายากล นักร้องโอเปร่า Justin Timberlake ตัวปลอม ทุกคนออกมารวมตัวดันโค้งขอบคุณคนดู มีสต๊าฟอีกคนถือเครื่องคอนโทรลเอฟเฟกต์ให้ Joji กดปุ่มปล่อยกงเฟติสายรุ้งสุดสวยน่าประทับใจ และระหว่างที่ใบหน้าทุกคนกำลังเปื้อนรอยยิ้ม Joji ก็หยิบมีดมาทิ่มอกสต๊าฟคนนั้นแล้ววิ่งหนีออกมาจากสตูดิโอ…
ถามว่าได้อะไรจากโชว์นี้บ้าง สิ่งแรกที่ต้องบอกเลยคือการ “ฉีกกฎ” ของการแสดงโชว์ในทุกรูปแบบ Joji หยิบเอาข้อดีของการทำโชว์ออนไลน์ออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ นั่นคือการเตรียมการทุกอย่างเอาไว้พร้อมสรรพ ฉากทุกฉากที่เนรมิตขึ้นมา ชุดทุกชุดที่ต้องเปลี่ยนเป็นสิบๆ ครั้ง สามารถทำได้ภายในช่วงเสี้ยววินาที เพราะเป็นการทำโชว์แบบบันทึกสด ไม่ได้เล่นสดเดี๋ยวนั้นจริงๆ ดังนั้นจึงไม่มีช่วงเปลี่ยนชุด ช่วงพูดคุยทักทายคนดู ช่วงเปลี่ยนฉากต่างๆ ให้เสียเวลา มีไอเดียเท่าไรใส่ได้เต็มร้อยไม่มียั้งมือ ทำให้เราเหมือนได้ดูโชว์หลายโชว์ในคลิปเดียวกันรันยาวไปตลอด 1 ชั่วโมงที่ทำการแสดง
ทว่า หากใครจินตนาการถึงภาพของ Joji ร้องเพลง R&B แบบ lo-fi หน่อยๆ ที่เป็นเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของเขาอย่างแท้จริง ดื่มด่ำกับดนตรีที่ขนนักดนตรีแบ็กอัพกันมาอย่างเต็มรูปแบบ ต้องขอบอกเลยว่างานนี้ไม่มีให้ เพราะแม้ว่า Joji จะร้องสดจริงไม่มีลิปซิงค์ แต่จากกิจกรรมต่างๆ จากไอเดียสุดบรรเจิดของพี่เขา ทำให้การร้องของ Joji ไม่ใช่เรื่องที่เขาโฟกัส ทั้งหอบ ทั้งสบถ และต่างๆ นานา และแต่ละเพลงร้องเพียงครึ่งเพลงเท่านั้น คนที่อยากมาดื่มด่ำกับบทเพลงของเขาอย่างจริงจังคงต้องเสียใจไปตามๆ กัน และการบันทึกการแสดงสด ที่มันไม่สดจริงๆ แบบนี้ ก็อาจจะขาดเสน่ห์ของโชว์ไปอย่างน่าเสียดายเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ถือว่าเป็นโชว์ทางเลือกที่สร้างสีสันใหม่ให้กับวงการเพลงที่ตอนนี้มีแต่โชว์ออนไลน์เท่านั้นที่ศิลปินจะสามารถมอบให้กับแฟนเพลงได้ในช่วงเวลานี้ บางที Joji อาจจะคิดมาแล้วก็ได้ว่า เขาอยากเก็บบรรยากาศของการเล่นคอนเสิร์ตสดๆ เอาไว้เล่นตอนที่เจอหน้าแฟนเพลงจริงๆ ตัวเป็นๆ มากกว่า และหลังจากได้ชม Joji Presents: The Extravaganza ก็ต้องบอกว่า เราคาดหวังกับโชว์ครั้งต่อไปของเขามากยิ่งขึ้น และครั้งหน้าที่ Joji มาเมืองไทย เราจะต้องไปดูให้ได้
ถ้าจะโชว์อะไรแปลกๆ ป่วงๆ มาอีก ก็ขอให้ได้ดูด้วยตาตัวเองเถอะ!
อัลบั้มภาพ 10 ภาพ