7 ศิลปินเผยเรื่องสยอง! เล่าเหตุการณ์หลอนในชีวิตจริงรับฮาโลวีน
นอกจากการแต่งคอสตูมสุดครีเอทแล้ว อีกหนึ่งสีสันในวันฮาโลวีนหรือเทศกาลปล่อยผี ก็คือการที่หลายคนเลือกภาพยนตร์สยองขวัญมานั่งชมรับบรรยากาศ หรือเล่าเรื่องผีให้เพื่อนหรือคนรอบตัวฟัง ซึ่งทำให้ทาง Sanook Music ได้สัมภาษณ์ 7 ศิลปินถึงเรื่องราวหลอนๆ อันยากจะอธิบายด้วยหลักวิทยาศาสตร์ที่พวกเขาเจอ และนำมาเล่าให้ทุกคนได้ฟังกันรับวันที่ 31 ตุลาคม
เบลล์ นิภาดา
สาวน้อยเจ้าของเพลงดัง "ให้เคอร์รี่มาส่งได้บ่" และกำลังมีผลงานเพลงภายใต้โปรเจกต์ JOOX The Remake อย่าง เบลล์-นิภาดา ขันเงิน เป็นอีกหนึ่งศิลปินที่มีงานต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เธอมีโอกาสได้เจอเหตุการณ์แปลกๆ บ่อยครั้งในวันที่ออกไปทำงาน โดยเธอได้เปิดเผยเรื่องราวหลอนๆ ในวันที่เล่นคอนเสิร์ตที่กรุงเทพมหานครว่า "มีอยู่วันหนึ่งเล่นคอนเสิร์ตแถวกรุงเทพฯ ก็ไปพักโรงแรมแถวสมุทรปราการค่ะ ก็นอนกับพี่สองคนชื่อพี่หมิว พี่หมิวจะเป็นคนขวัญอ่อนค่ะ และวันนั้นนอนด้วยกันในเตียงเล็กๆ ประตูหน้าห้องหลังห้องตรงกัน ก็คิดว่าต้องมีใครสักคนที่เจอผี"
"และพี่หมิวแกก็เล่าให้ฟังว่าวันนั้นแกนอนอยู่และฝันหลับไป แกก็เห็นผู้หญิงสวยมาก ใส่เสื้อโค้ทและผูกเอว และผู้หญิงคนนั้นก็ชอบพี่หมิวที่ดูเหมือนทอมบอย ก็จะมาปล้ำ พี่หมิวก็ท่องบทสวด ซึ่งผีไม่กลัวและหัวเราะพร้อมจับมือพี่หมิวในท่าพนมมือ ซึ่งตอนตื่นหนูตื่นมาพี่หมิวก็ทำท่าพนมมืออยู่ หนูเองก็ตกใจ ซึ่งหลังจากวันนั้นแกก็ถูกหวยด้วยค่ะ (หัวเราะ)"
คะแนน นัจนันท์
นอกจากเบลล์แล้ว คะแนน-นัจนันท์ จันทร์หอม ศิลปินอีสานเจ้าของเพลงร้อยล้านวิว "จากใจแฟนเก่า" และเพิ่งร่วมงานกับวง อีเกีย ในเพลง "อ้ายบ่ถืกใจสิ่งนี้" ก็เป็นอีกหนึ่งศิลปินที่เจอเรื่องหลอนร่วมกับเพื่อน โดยเธอได้เล่าให้ Sanook ฟังว่า "ที่ผ่านมาหนูเองเป็นนักร้องหมอลำมาก่อน ทีนี้ก็จะไปงานกลางคืนมาเยอะค่ะ แบบเลิกตี 2 ตี 3 และเคยไปหมู่บ้านที่เจ้าที่แรง ซึ่งก็มีพี่บอกว่าเห็นอะไรห้ามทักนะ และตอนนั้นหนูก็นั่งรถกลับจากงานกับแดนเซอร์รวมกัน 4 คน"
"ซึ่งอยู่ดีๆ ก็มีแดนเซอร์พูดขึ้นมาว่า "อีหยังวะ" หนูก็หันไปเห็นมีผมยาวๆ มาเกาะเครื่องดนตรีท้ายกระบะ และหลังจากนั้นทุกคนก็เห็นและกรี๊ด ตอนนั้นคือท่องนะโมตัสสะกันแล้ว ก็ท่องๆ พอผ่านหมู่บ้านก็หายไปค่ะ ก็นี่แหละค่ะเรื่องที่เจอ ประมาณนี้ค่ะ"
โบ๊ท Somkiat
ถึงแม้ว่าจะเป็นศิลปินอารมณ์ดี แต่ โบ๊ท-คนาวิน เชื้อแถว นักร้องนำวง Somkiat เองก็เคยเจอเรื่องหลอนที่ทำเอาเขาและเพื่อนขำไม่ออกม หลังไปเล่นคอนเสิร์ตใหญ่ของค่าย ซึ่งโบ๊ทได้เล่าให้ฟังว่า "นี่เป็นเหตุการณ์ที่ผมจำได้ดีที่สุดครับ เพราะลำพังตัวผมไม่เคยเจอเหตุการณ์นี้มาก่อน ก็เลยจำได้ดี วันนั้นผมไปเล่นคอนเสิร์ตใหญ่ของค่ายครับ ก็มีวันซาวด์เช็กและวันที่เล่นจริงครับ ก็พักโรงแรมนึงที่มีชื่อเสียงและดีเลย ด้านหน้าเป็นสวนและมีสระว่ายน้ำ ผมชอบเพราะมันดูธรรมชาติดี พอได้คีย์การ์ดมา 5 ใบ ผมก็ได้ห้องที่อยู่ตรงกลางระหว่างเพื่อนๆ ในวง ตอนได้ห้องผมก็เปิดเข้าไปก็ได้กลิ่นอับ แต่ก็ไม่คิดอะไร พอเข้าไปตรงห้องน้ำก็มีเสียงเคาะประตู แต่ก็ไม่คิดอะไร พอมาเปิดก็ไม่เห็นใคร หลังจากนั้นก็มีเสียงเคาะประตู ผมก็เปิดไปเจอแม่บ้านถามว่า "อยากได้อะไรไหม" เราก็บอกว่าไม่มีอะไร หลังจากนั้นก็มีเสียงเคาะอีก ซึ่งผมก็เดินไปค่อนข้างเร็ว และเปิดไปไม่เจอใคร หลังจากนั้นมีเสียงเคาะมาบ่อยมาก ตอนนั้นผมก็ไล่ดูและเคาะที่ต่างๆ พอไปเคาะประตูเสื้อผ้าก็รู้เลยว่าเป็นเสียงเดียวกับที่ได้ยิน และคือหลังห้องตรงตู้เสื้อผ้าผมมีศาลเพียงตา เลยคิดว่าห้องผมน่าจะเป็นที่เดินผ่านอะไรหรือเปล่า"
"ซึ่งหลังจากนั้นแม่บ้านคนที่เคยมาเคาะก็มาถามว่าเอาอะไรไหมอีก ตอนนั้นก็ปฏิเสธไปเพราะบอกว่าอยากพัก และหลังจากนั้นแม่บ้านก็บอกว่า "หลัง 6 โมงจะไม่มีแม่บ้านแล้ว" ซึ่งแม่บ้านคนนี้ก็เปิดเข้ามาในห้องเพื่อนผมด้วย คือเดินมาถึงตัวและทำให้เพื่อนตกใจ จนต้องเชิญเขาออกไป ซึ่งอีกไม่นานพอแม่บ้านไปก็มีเสียงเคาะอีกครั้งก่อนผมออกไปซาวด์เช็คตอน 1 ทุ่ม"
"พอกลับมา 4 ทุ่มผมก็พบว่าห้องสะอาดมาก ผมไม่แน่ใจว่าเป็นแม่บ้านคนนั้น หรือเป็นคนอื่นที่มาเปลี่ยนเวรหรือเปล่า เพราะเขาบอกว่า 6 โมงจะไม่มีแม่บ้านแล้ว และตอนผมจะนอนก็เปิดทีวี สักพักก็ได้ยินเสียงเคาะอีกครั้งและเสียงเหมือนเวลากดตู้เซฟ ผมก็นึกได้ว่าห้องมีตู้เซฟ ตอนนั้นไปกดดูก็รู้สึกว่ามันเสียงเหมือนกันเลย ช่วงนั้นก็นอนไม่หลับแล้วครับ ก็คิดว่าเราโดนหลอกหรือเปล่า จนมาอีกคืนนึงผมเองก็ไม่อยากนอนห้องตัวเองเลย ก็หอบเสื้อผ้าไปนอนห้อง บอส มือกีตาร์ (ภูริช พันธุ์สุข) และเรียกบอสมาพิสูจน์ด้วยการนั่งในห้องผมด้วยกัน ก็นั่งอยู่ด้วยกันไม่มีอะไรจนกระทั่งมีเสียงเคาะอีกครั้ง ผมและบอสก็วิ่งมาด้วยกัน แบบไม่ได้เอาหมอนอะไรมา สุดท้ายก็ต้องไปนอนห้องบอสด้วยกัน คือสิ่งที่เจอผมมันไม่มีตัวตน แต่มันก็เป็นประสบการณ์ที่ทำให้ผมรู้สึกหลอนมากครับ"
แสตมป์
ด้วยความที่เป็นศิลปินที่เดินทางไปทำงานต่างประเทศบ่อยครั้ง ทำให้ แสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข ได้ประสบพบเจอกับเรื่องราวสุดหลอนในวันที่เขาไปญี่ปุ่น โดยเขาได้เล่าให้ทางทีมงานฟังว่า "เรื่องของผมมันเกิดที่ญี่ปุ่นครับ ตอนนั้นปี 2013 ผมไปกับภรรยาและจองโรงแรม ก็พบว่าเขาไม่ได้ให้ห้องที่ผมจองไว้ เพราะผมจองห้องโซน Non-Smoking แต่ได้ห้องที่เข้าไปแล้วมีกลิ่นบุหรี่ และพอไปถาม เขาก็บอกว่าโรงแรมไม่เหลือห้อง ก็เลยจำใจอยู่ ตอนนั้นก็พยายามหาอะไรมาดับกลิ่น ซึ่งตอนนั้นก็คิดว่าถ้าอยู่ห้องนี้หลายวันไม่น่าจะได้ ก็เลยไปบอกว่าเราอยู่ไม่ได้จริงๆ เพราะเป็นภูมิแพ้ ผมเลยตัดสินใจขอเปลี่ยนโรงแรม เขาก็บอกว่าอีกมีห้องนึงที่ยังไม่มีคนนอน ผมก็ดีใจและย้ายกระเป๋าเข้าไป ซึ่งห้องก็สะอาดจนเราคิดว่าทำไมไม่ให้อยู่ห้องนี้ตั้งแต่แรก"
"หลังจากนั้นก็ไปช็อปปิ้งและกลับมาตอน 4 ทุ่ม หลังจากนั้นก็กลับมาห้องนั่งตรงโต๊ะเครื่องแป้ง และต่อไวไฟ ตอนแรกไม่คิดอะไร พอเงยหน้ามาเห็นมองกระจก ตรงที่ที่เป็นเตียงภรรยาผม ข้างหลังผมเห็นหัวมนุษย์คนนึงผมยาว ชะโงกมาทางผม ผมก็ทำอะไรไม่ถูก ตอนแรกก็คิดว่าเป็นเข่าภรรยาผม พอหันไปก็ไม่เห็นอะไร แต่ขาภรรยาผมก็ไม่ได้ชันเข่า ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกและไม่อยากบอกภรรยาเพราะกลัวเขากลัวด้วย หลังจากนั้นก็สวดมนต์ตามแบบคนไทยว่าขอให้อยู่ร่วมกัน จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด หลังจากนั้นก็ไม่เจออะไร และผมก็ไม่ได้บอกภรรยาจนมาถึงบ้าน ผมไม่รู้มันใช่ผีหรือไม่ แต่ผมว่ามันน่ากลัวมากครับ"
บอย Lomosonic
ที่ผ่านมาวง Lomosonic เป็นศิลปินร็อคที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขันและมักจะมีกิจกรรมสนุกๆ เวลาไปแสดงคอนเสิร์ตที่ต่างๆ แต่ทว่าวันหนึ่งพวกเขาก็ต้องเจอเรื่องหลอนหลังการเล่นสนุกที่เป็นบทเรียนราคาแพง ซึ่งนักร้องนำอย่าง บอย-อริย์ธัช พลตาล ก็เป็นตัวแทนเพื่อนๆ ในวงเล่าเหตุการณ์ดังกล่าวให้ทาง Sanook ฟังว่า "มันเป็นเรื่องตอนที่ผมเล่นดนตรีจังหวัดนึงครับแถวภาคกลางครับ ก็พักโรงแรมหนึ่งซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันมีกฎข้อห้ามอะไรบ้าง คือโรงแรมนี้มีรูปลิงอยู่หน้าโรงแรมเยอะมาก ด้วยความคะนองเราก็ไปถ่ายรูปเล่นกัน"
"ทีนี้ก็มีน้องคนหนึ่งก็ไปอ่านบทความว่าโรงแรมดังจังหวัดนี้ มีข้อห้ามอะไรบ้างพออ่านเจอเท่านั้นแหละ คนในวงก็มองหน้ากันและมานอนรวมกันหมด ยกเว้นผมที่ทานยานอนหลับ คือข้อห้ามของที่นี่คือห้ามไปเล่นกับตุ๊กตาลิง ซึ่งเราไปเล่นเต็มที่และถ่ายรูปมาด้วย และวันนั้นตอนที่เขานอนรวมกัน ก็มีเสียงย้ายเฟอร์นิเจอร์ชั้นที่อยู่เหนือเราตลอด ทั้งๆ ที่เป็นชั้นที่ปิด ก็มาเล่าเรื่องนี้กันบนรถตู้ จริงๆ มันก็มีบทเรียนอยู่ตรงที่เวลาไปที่ไหน เราต้องเคารพสถานที่ คือมันอาจจะเป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ทางวิทยาศาสตร์ แต่เวลาไปไหนเราก็ต้องเคารพสถานที่ครับ"
Gavin D.
หลังจากที่เข้ามาร่วมกลุ่มฮิปฮอป Already Deadd มาปีกว่า Gavin D. หรือ กวินท์ ดูวาล แร็ปเปอร์หนุ่มก็ได้เดินสายแสดงคอนเสิร์ตต่อเนื่อง ซึ่งเขาเองก็เจอเหตุการณ์หลอนๆ มากมายเช่นกันในขณะเดินทางและได้เล่าประสบการณ์ดังกล่าวให้ทาง Sanook ฟังว่า "ที่ที่ผมเจอบ่อยเรื่องหลอนสุดคือเชียงใหม่เวลาไปกับแก๊งค์ Already Deadd ครับ ก็มีครั้งนึงไปโรงแรมหลังเล่นในผับ มันก็ไม่มีอะไร แต่บรรยากาศหดหู่มาก มีภาพคล้ายงานศพในห้องและไม่มีใครพักเลย พอเราไปเล่นคอนเสิร์ตกลับมา ผมเคาะกำแพง และมีคนเคาะกลับมาจากอีกห้อง เราก็เคาะกลับไปอีกรอบ และมันก็มีเสียงเคาะกลับมา มันก็เป็นอย่างนี้ทั้งคืน ก่อนจะมารู้ว่าห้องนั้นไม่มีคนพัก เพราะเป็นห้องที่จองไว้สำหรับเราแล้วเหลือ"
"ทีนี้ทุกคนย้ายมานอนด้วยกันหมดเลย เพราะกลัวกันมาก และในคืนนั้นผู้จัดการผมก็มีคนมาเคาะประตู เปิดออกไปก็ไม่มีคน เป็นอย่างนี้หลายรอบจนต้องเรียกให้คนมาอยู่ด้วยให้ห้องมีเสียง เพราะไม่อยากได้ยินเสียงเคาะ และตอนนั้นที่อยู่โรงแรม YOUNGOHM (รัธพงศ์ ภูรีสิทธิ์) ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงกรี๊ดด้วย มันไม่ใช่เสียงกรี๊ดเล่นๆ สนุกๆ มันก็เหมือนไปล่าท้าผีที่เชียงใหม่"
"จริงๆ นอกจากที่เชียงใหม่ผมก็เคยเจอเหตุการณ์แปลกที่อุดรธานี เคยไปโรงแรมนึงที่เข้าเลี้ยงกุมารทองแล้วเพื่อนได้ยินเสียงคนวิ่งทั้งคืน และเคยมีวันที่เข้าห้องอัดแล้วอยู่ดีๆ มีเสียงดนตรีไทยดังขึ้นมา แต่คิดว่าน่าจะเป็นสัญญาณวิทยุจากวัดแถวนั้นครับ"
กานต์ The Parkinson
ปิดท้ายด้วยเรื่องราวจากหนุ่มโซลตัวพ่ออย่าง กานต์-นิภัทร์ กำจรปรีชา แห่งวง The Parkinson ที่เจอเรื่องราวสุดหลอนที่ดราม่าไม่แพ้ซิงเกิลล่าสุดอย่างเพลง "ฉันรักเธอ...ใช่ไหม" ของเขา ซึ่งเขาได้เผยเรื่องราวน่าตกใจว่า "ผมก็มีประสบการณ์ เรื่องลี้ลับมาฝากครับ เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเล่นคอนเสิร์ตที่จังหวัดนึงครับ ทางร้านก็ได้จองโรงแรมไว้ให้ ก็ถือว่าเป็นโรงแรมใหญ่ประจำจังหวัดเลยก็ว่าได้ แต่อาจจะมีอายุเยอะนิดนึง ผมได้ห้องพักที่ชั้น 3 ขึ้นลิฟต์มาก็ห้องโถงใหญ่ๆ ห้องก็จะอยู่เรียงกันเเยกซ้ายขวา ตอนเข้าไปถึงก็ไม่มีอะไรผิดปกตินะครับแต่บรรยากาศในห้องจะเก่าๆ หน่อย แต่พวกผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากก็แยกย้ายห้องใครห้องมันอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมไปโชว์คอนเสิร์ตตามปกติ ถึงเวลานัดผมก็ลงมาเพื่อที่จะขึ้นรถตู้ตามปกติ แต่ก่อนที่จะถึงหน้าลิฟต์หางตาผมก็เห็นเหมือนมีลุงรปภ. แกนั่งอยู่ตรงมุมมืดๆ ของห้องโถง ในใจก็ยังคิดว่าทำไมแกต้องไปนั่งมืดๆ แบบนั้น แล้วลิฟต์ก็มาพอดีผมก็ลงไปเจอเพื่อนๆ คุยเรื่องนู้นเรื่องจนลืมเรื่องลุงรปภ. ไปและรถตู้ก็มารับแต่ก่อนเราจะออกจากโรงแรมผมสังเกตว่านอกจากรถตู้ของเรา 2 คันแล้วในลานจอดรถก็ไม่มีรถใครอีกเลย แต่ก็คิดว่ามันยังหัวค่ำอยู่คนคงออกไปหาอะไรกินแล้วยังไม่กลับมากันมั้ง"
"ถึงร้านผมก็เล่นคอนเสิร์ต สนุกสนานๆ มากจนลืมเรื่องทุกอย่าง จนถึงเวลาเลิก รถตู้ก็ได้กลับมาส่งที่โรงแรม สิ่งที่ทำให้ผมอึ้งมากๆ คือในลานจอดรถไม่มีรถคันอื่นเลยนอกจากรถตู้ของผม ใจผมก็เริ่มไม่ค่อยจะดีแล้วครับ (ปกติเป็นคนกลัวผีอยู่แล้วด้วย) ขึ้นลิฟต์มาสิ่งแรกที่ผมมองไปคือจุดที่ลุงรปภ. นั่งแต่ตอนนี้ลุงไม่อยู่แล้ว สงสัยแกคงลงไปเดินตรวจในโรงแรมมั้ง ก็ไม่ได้สนใจอะไรพวกเราก็ไปนั่งปาร์ตี้กันอยู่ห้องผู้จัดการ นั่งเล่นไปซักพักนึงผมก็อยากเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะโชว์คอนเสิร์ตมาเหงื่อออกเหนียวตัวเลยบอกเพื่อนๆ ขอตัวไปเปลี่ยนชุดที่ห้อง ออกจากห้องผู้จัดการ เลี้ยวมาทางขวา 2 ห้องก็จะเป็นห้องผม เลยจากห้องผมไปก็จะเป็นห้องโถงใหญ่ ระหว่างที่ไขกุญแจก็ได้ยินเสียงกระแอมของคนแก่ผมก็หันไปมองทางซ้ายมือจากที่มาของต้นเสียง สิ่งที่ผมเห็นก็คือลุงรปภ. แกเดินจากกลางห้องโถงไปหน้าลิฟต์ แบบช้าๆ สิ่งที่ทำให้ผมขาอ่อนแทบทรุดคือ ลุงแกไม่มีขาครับ (ใช่ครับแกไม่มีขา!) ผมนี่สติไม่อยู่กับตัวแล้วครับถอดกุญแจได้เดินกลับไปห้องผู้จัดการเหมือนเดิม โดยที่ยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อนๆ ก็งงถามว่าเป็นอะไรทำไมไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า ผมก็เลยพูดปัดๆ ไปว่าขี้เกียจเปลี่ยน เดี๋ยวเปลี่ยนแล้วนอนทีเดียวดีกว่า แล้วก็ชวนเพื่อนคุยเรื่องอื่นไม่เล่าเรื่องที่เจอให้ใครฟัง กลัวเพื่อนจะกลัวหรือบางคนอาจจะไม่เชื่อ จนเเยกย้ายกันไป"
"นอนตื่นเช้าผมเปิดประตูห้องออกมาก็เจอเเม่บ้านทำความสะอาดอยู่ตรงหน้าห้อง ผมก็เลยถามแม่บ้านว่าที่นี่มีรปภ. แก่ๆ เข้าเวรตอนกลางคืนไหมครับ แม่บ้านก็หยุดกวาดพื้นแล้วมองหน้าผม ประมาณ 10 วินาที แกก็ก้มหน้าแล้วก็พูดว่า "ไม่มีหรอกค่ะ ที่นี่ไม่มีรปภ. แก่หรอกค่ะ" ผมก็เลยบอกขอบคุณครับป้า แล้วก็เก็บเรื่องราวกับความสงสัยไว้โดยที่ไม่ถามหรือไม่เล่าให้ใครฟังต่อเลยครับ"
อัลบั้มภาพ 22 ภาพ