Sixth Sense : มหกรรมแกงผ่านหน้าจอ โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง
สำหรับคนติดตามวงการเคป็อป อีกหนึ่งกิจกรรมที่มักทำควบคู่ไปด้วยก็คือการดูรายการวาไรตี้เกาหลี (ที่หลายครั้งมีเหล่าไอดอลเป็นแขกรับเชิญ) แต่ว่ากันตามตรงแล้วพวกรายการดังๆ ที่ติดตามอยู่ประจำ อาทิ Running Man, Knowing Bros หรือ King of Masked Singer ก็เริ่มซ้ำซากจำเจ รายการพวกนี้ยังสนุกอยู่แหละ แต่ผู้ชมก็เริ่มจับแพทเทิร์นของรายการได้
จนมาช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมที่ผ่านมานี่เองที่ผู้เขียนรู้สึกว่าวงการโทรทัศน์ของเกาหลีมีเรื่องน่าตื่นเต้นขึ้นมา นั่นคือรายการ Sixth Sense ทางช่อง tvN ที่มีคอนเซ็ปต์สุดเก๋ไก๋ให้เหล่าพิธีกรและคนดูทายไปพร้อมกันว่าอะไรในรายการที่เป็น ‘ของปลอม’ เช่น ร้านอาหาร 3 ร้านที่มีเมนูสุดพิสดาร หรือชายหนุ่ม 3 คนที่อ้างตัวเองว่าเป็นพวก CEO อายุน้อยร้อยล้าน ซึ่งโปรดิวเซอร์ของรายการนี้ก็คือ จองชอลมิล ที่เคยทำรายการ Running Man อยู่ 7 ปี
ตอนจบของแต่ละตอนที่เฉลยว่าอะไรหรือใครเป็นของปลอมก็ทำเอาแทบหงายหลังล้มตึงทุกครั้ง เพราะทีมงานต้องลงทุน ‘สร้าง’ มันขึ้นมาใหม่ทั้งหมด อย่างร้านอาหารปลอมนั้น นอกจากจะต้องสร้างร้าน กำแพง ผนัง เอาเฟอร์นิเจอร์เข้าร้าน ทีมงานยังละเอียดถึงขั้นการทำเมนูปลอม สร้างกลิ่นอาหารในร้าน คราบรอยทำอาหารต่างๆ จนพิธีกรในรายการยังแซวว่าอยากจะรับช่วงร้านนี้ต่อหลังถ่ายทำจบ
แน่นอนว่ารายการจะดูสนุกถ้าคนดูไม่แอบไปค้นข้อมูลในอินเทอร์เน็ตและพยายามคาดเดาจากสิ่งต่างๆ ที่รายการนำเสนอ ซึ่งมันล้วนท้าทายและแทบจะทำให้ ‘เซนส์’ ของเราพังพินาศ เช่นว่า ร้านอาหารบางร้านที่มีคอนเซ็ปต์ดูไร้สาระมากมันกลับเป็นของจริง หรือเจ้าของร้านที่พูดจาติดๆ ขัดๆ จำไม่ได้กระทั่งราคาอาหารร้านตัวเอง บางครั้งก็กลายเป็นตัวจริงซะงั้น ไม่แปลกเลยที่เราจะรู้สึกว่าถูกรายการนี้ ‘แกง’ เกือบทุกตอน
นอกจากรูปแบบรายการที่แปลกใหม่แล้ว อีกสิ่งที่ทำให้ Sixth Sense ดูสนุกมากคือเคมีระหว่างพิธีกร นำโดย ยูแจซอก พิธีกรแห่งชาติคนเก่ง โดยเขาจะต้องปะทะกับ ‘ผู้หญิงบ้า 4 คน’ (อันนี้รายการเขาระบุมาเลย ผู้เขียนไม่ได้ตั้งฉายาเองนะ) ได้แก่ จอนโซมิน ที่เราคุ้นเคยจาก Running Man, โอนารา นักแสดงจาก SKY Castle, เจสซี สาวฮิปฮอปคนแรง และ มิจู วง Lovelyz ที่กำลังมาแรงด้านวาไรตี้
โดยปกติแล้วยูแจซอกเป็นพิธีกรที่ขึ้นชื่อเรื่องพูดเก่งพูดมาก แต่ความขำขันใน Sixth Sense คือเขาถูกสี่สาวแย่งพูดอยู่หลายจังหวะ บางครั้งพวกเธอก็ไม่สนใจสคริปต์รายการ หันไปแอ๊วแขกรับเชิญหรือเม้ามอยกันเรื่องขนาดหน้าอกเสียเฉยๆ เล่นเอาเอ็มซีมือโปรถึงกับไปไม่เป็น ส่วนในฝั่งของแขกรับเชิญ สังเกตได้ว่าทางรายการมักเชิญนักแสดง/นักร้องหนุ่มหน้าตาดี แต่มักเป็นคนเซื่องๆ ซื่อๆ ไม่ค่อยทันเกม จนกลายเป็นเหยื่อของสาวๆ ไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ดี Sixth Sense มีจุดอ่อนบ้างเหมือนกัน เช่นว่ารายการมีธีมร้านอาหารไปถึง 5 ครั้ง จริงอยู่ว่ามันเป็นธีมที่สนุก อินได้ง่าย ใครๆ ก็ชอบเรื่องกิน แต่มันมาบ่อยจนแอบรู้สึกว่าซ้ำ อีกอย่างคือรายการนี้น่าจะใช้งบประมาณสูงมากในการเนรมิตร้านหรือสถานที่ปลอมขึ้นมา ไม่น่าแปลกใจที่รายการนี้จะออกอากาศเพียง 8 ตอนเท่านั้น (เป็นรายการขนาดสั้นคล้ายกับ Village Survival, the Eight ที่แจซอกเป็นพิธีกรเช่นกัน)
จากทั้งความ ‘ซ้ำ’ และ ‘แพง’ ก็อาจเป็นเรื่องถูกต้องแล้วที่ Sixth Sense จะมีแค่ 8 ตอน ถึงอย่างนั้นด้วยความสนุกสนาน เซอร์ไพรส์ และขำฮาบ้านแตก เราก็หวังว่ารายการจะกลับมาอีกครั้งกับซีซั่นสอง ที่มีความสดใหม่และยังหลอกลวงเราได้อย่างแนบเนียนเช่นเคย