Stray Kids พิสูจน์ความเป็น "ผู้บุกเบิกแนวเพลงรสหม่าล่า" ด้วยคอนเสิร์ตออนไลน์ครั้งแรก
Stray Kids (สเตรย์คิดส์) ปิดฉากคอนเสิร์ตออนไลน์ครั้งแรก พิสูจน์คุณค่าแท้จริงของการเป็น "ผู้บุกเบิกแนวเพลงรสหม่าล่า"
เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน เวลา 13.00 น. (ไทย) Stray Kids ได้จัดคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบผ่านทาง V LIVE ใน Beyond LIVE - Stray Kids 'Unlock : GO LIVE IN LIFE' และพบกับแฟนๆ จากทั่วทุกมุมโลก เนื่องจากการประกาศเลื่อนและยกเลิกการแสดง Stray Kids World Tour 'District 9 : Unlock' (หรือ 'District 9 : Unlock') ด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าหรือ COVID-19 จึงอัปเกรดเป็นคอนเสิร์ตในรูปแบบออนไลน์
โดยตั้งแต่ก่อนคอนเสิร์ตจะเริ่มขึ้น Stray Kids ได้ดึงดูดสายตาด้วยการเปิดตัววิดีโอจากเทคโนโลยีสุดล้ำอย่างความเป็นจริงเสริม (AR- Augmented Reality) ต่อด้วยการปรากฏตัวของเมมเบอร์ทั้ง 8 คน ที่มาอวดภาพลักษณ์ "เซียนแห่งเวที" ด้วยเพอร์ฟอร์แมนซ์ทรงพลัง รวมถึงการร้องไลฟ์สดอย่างร้อนแรง
หากบอกว่าสเตจ "Side Effects" คือการสร้างความประทับใจอย่างดุดันได้ด้วยท่าเต้น ซึ่งมีการใช้ผ้าสีแดงมาร่วมด้วย คงบอกได้ว่าสเตจ "God’s Menu", "Back Door" และ "TA" ซึ่งไม่เคยถูกแสดงที่ไหนมาก่อนใน District 9 : Unlock ที่เกิดขึ้นนั้น ได้รับผลตอบรับอย่างล้นหลามจากแฟนๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะ "God’s Menu" ซึ่งเป็นเพอร์ฟอร์แมนซ์แปลกใหม่ ที่ร่วมกันแสดงกับ NANTA และนักเต้นมากมาย ทำให้ได้เห็นว่าทุ่มเททั้งกำลังและจิตใจไปมากเพียงใดในคอนเสิร์ตครั้งนี้ จังหวะของ NANTA ที่กระหึ่มไปทั่วทั้งคอนเสิร์ต ประสานเข้ากับการเต้นที่สมบูรณ์แบบของ Stray Kids ยิ่งทำให้สัมผัสได้ถึงเวทีที่ตื่นเต้นเร้าใจ
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวเพลงไตเติ้ลจากมินิอัลบั้มญี่ปุ่นชุดที่ 1 อย่าง ALL IN ในเวอร์ชันภาษาเกาหลีเป็นครั้งแรก และทำให้แฟนๆ ได้ประทับใจอีกครั้ง กับการประกาศปล่อยเพลงที่เกาหลี ในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้
ผู้เข้าชมผ่านทางระบบวิดีโอคอล ต่างส่งเสียงเชียร์อย่างร้อนแรงในช่วงให้กำลังใจศิลปิน แสดงความรักที่มีให้กับ Stray Kids อย่างไม่หยุดยั้ง ความรู้สึกของเมมเบอร์ที่ "ทั้งครุ่นคิดและกังวลเป็นอย่างมากในระหว่างที่เตรียมคอนเสิร์ตออนไลน์ พวกเราไม่ได้จัดคอนเสิร์ตที่มีแฟนๆ เข้าร่วมมานานมากแล้ว รู้สึกดีใจจนไม่สามารถกลั้นรอยยิ้มเอาไว้ได้ เพราะเพอร์ฟอร์แมนซ์คือคำตอบของ Stray Kids จะใช้พลังที่ได้รับจากสเตย์ (ชื่อแฟนด้อม : STAY) ในวันนี้ เพื่อพัฒนาและเติบโตต่อไป ขอให้เป็นกำลังใจให้กันด้วย"
หลังการแสดงทุกอย่างจบลงแล้ว พวกเขากลับขึ้นไปบนเวทีอีกครั้ง พร้อมช่วงถามตอบสั้นๆ เพื่อตอบแทนความรักและกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ของแฟนๆ
คอนเสิร์ตครั้งนี้มีการใช้เทคนิกอย่างหลากหลาย ทั้งการเปลี่ยนหน้าจอ และเทคโนโลยีการจำลองภาพเสมือนจริง (XR - Extended Reality) ซึ่งทำให้สัมผัสได้ถึงความมีชีวิตชีวาของการแสดง รวมทั้งหมด 22 เพลงที่สรรค์สร้างสีสัน ส่งต่อความสนุกให้กับผู้ชม
Stray Kids ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า "การแสดงรสหม่าล่า" ที่ได้ลองชิมสักครั้งแล้วจะลืมไม่ลงนั้นเป็นอย่างไร และปิดฉาก Unlock : GO LIVE IN LIFE ลงไปอย่างสวยงาม
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ