รู้จัก Drax Project จากวงดนตรีสมัครเล่นในนิวซีแลนด์ สู่ถนนสายศิลปินมืออาชีพ

Drax Project วงดนตรีจากประเทศนิวซีแลนด์ ประกอบด้วย Sam Thomson, Shaan Singh, Matt Beachen และ Ben O'Leary เริ่มต้นจากการเป่าแซกโซโฟนและร้องเพลงกันเองง่ายๆ ริมถนน (busking) ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม จนปัจจุบันพวกเขาเป็นเจ้าของเพลงฮิต “Woke Up Late” ที่ดังจนต่อยอดความสำเร็จด้วยการคว้า Hailee Steinfeld มาร่วม featuring ด้วย และล่าสุดกับ “Firefly” ที่ได้ Fetty Wap & AACACIA มาร่วมทำเพลงนี้ด้วยกัน กับแนวดนตรีอันหลากหลายที่คุณจะได้รับฟัง ทั้งป็อป อิเล็กทรอนิกส์ ละติน แซ็กโซโฟน และ อาร์แอนด์บี และพวกเขายังได้รับเลือกจากศิลปินระดับโลกหลายคนให้ร่วมแสดงเป็นศิลปินเปิด หรือ opening act ใน world tour ของพวกเขามากมาย ไม่ว่าจะเป็น Lorde, Ed Sheeran, Camilla Cabello, Brian McKnight และ Christina Aguilera

Sanook Music มีโอกาสได้ e-mail interview กับสมาชิกในวง เราทำความรู้จักพวกเขาให้มากขึ้นกันดีกว่า

---

ดนตรีของวง Drax Project เป็นแนวไหน?

พวกเราเป็นวงป็อปดนตรีจัดจ้านที่จะเล่นเครื่องดนตรีสดเสมอ เราเริ่มต้นด้วยการเล่นดนตรีสดโดยมีแค่กลอง และแซ็กโซโฟน และเราก็ยังรักที่จะเล่นดนตรีพร้อมจังหวะ “drop” ที่เปี่ยมไปด้วยพลังระหว่างเล่นคอนเสิร์ต เราได้รับแรงบันดาลในการทำเพลงมาจากศิลปินมากมาย ทั้ง Ariana Grande และ Justin Timberlake ครับ!

แนวดนตรีของผมเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง นับตั้งแต่วันที่เป่าแซ็กโซโฟน ตีกลองอยู่ริมถนน จนถึงตอนนี้

ช่วงที่พวกเราตั้งวงกันแรกๆ แนวดนตรีของพวกเรายังมีกลิ่นอายของเทคนิคอล/แจ๊สอยู่ครับ แต่พวกเราก็ชอบเล่นดนตรีสดที่ใส่พลังลงไปแบบจัดเต็มเหมือนอย่างที่พวกเราเล่นกันอยู่ตอนนี้ด้วย ดังนั้นถ้าพูดถึงการเล่นดนตรีสดบนเวที แนวดนตรีไม่ได้เปลี่ยนไปครับ เรายังอยากเห็นคนฟังเต้น และอารมณ์ดีเมื่อได้ฟังเพลงของพวกเรา เรายังเล่นเพลงคัฟเวอร์เหมือนสมัยที่เราเล่นดนตรีริมถนนด้วย เช่น “Cry Me a River” ของ Justin Timberlake

มีเคล็ดลับดีๆ สำหรับวงดนตรีสมัครเล่นที่อยากจะไต่เต้าจากการเล่นริมถนน มาเป็นศิลปินมืออาชีพอย่างพวกคุณบ้างไหม?

เล่นดนตรีต่อไปเรื่อยๆ ครับ เล่นเพลงคัฟเวอร์ที่ทุกคนรู้จัก และใส่ลูกเล่นที่บ่งบอกความเป็นตัวคุณลงไปด้วย!

พวกคุณได้รับเลือกให้เป็นศิลปินเปิดใน world tour ของศิลปินเบอร์ใหญ่ระดับโลกมากมาย พวกคุณคิดว่าทำไมพวกคุณถึงเป็นตัวเลือกอันดับแรกของพวกเขา และมีความทรงจำดีๆ ช่วงไหนที่พวกคุณจำได้ไม่ลืมบ้าง?

ผมคิดว่าเพราะพวกเราเป็นที่รู้จักในฐานะวงเล่นดนตรีสด เราก็เลยได้รับเลือกให้เป็นศิลปินเปิดโชว์ให้กับ Ed Sheeran, Camila Cabello & Christina Aguilera และอื่นๆ เราได้เล่นคอนเสิร์ตมามากมายในหลายปีที่ผ่านมาก่อนที่จะได้มาเล่นเป็นวงเปิดให้กับพวกเขาเสียอีก! พวกเราปล่อยเพลงมาสองสามเพลงก่อนจะได้รับความสนใจจากผู้คน ซึ่งก็ช่วยให้พวกเราเป็นที่รู้จักมากขึ้น พวกเราเลยรู้สึกขอบคุณสำหรับโอกาสเหล่านี้มากๆ

สำหรับความทรงจำดีๆ ระหว่างได้แสดงเป็นวงเปิดให้กับศิลปิน คิดว่าน่าจะเป็นวันที่พวกเราได้แสดงเป็นวงเปิดให้กับ Ed Sheeran เป็นครั้งแรกต่อหน้าผู้ชมกว่า 40,000 คนครับ

ในปี 2020 พวกคุณได้รับผลกระทบจากโควิด-19 บ้างหรือไม่?

ปีนี้วุ่นวายมากๆ เลยครับ เราวางแผนว่าจะแสดงโชว์ในคลับทั่วโลกเลย แต่ก็ต้องหยุดแผนนี้ไปก่อน โชคดีที่เราอยู่ในนิวซีแลนด์ เรายังได้แสดงโชว์และได้ขึ้นคอนเสิร์ตช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาด้วย

เล่าให้เราฟังถึงเพลงล่าสุดของพวกคุณ “Firefly” หน่อย

เพลง “Firefly” เป็นเพลงที่พวกเราใช้เวลาแต่งกัน 3 ชั่วโมงในช่วงที่หมดเวลาแต่งเพลงของอีกเพลงหนึ่งไประหว่างที่เราอยู่ใน LA เมื่อปีที่แล้ว (2019) เราเริ่มจากแต่งรีฟฟ์กีตาร์ และริฟฟ์ในเพลงนี้ทำให้พวกเราตื่นเต้นมากเพลงหนึ่งตั้งแต่พวกเราแต่งเพลงกันมาเลย เราอยากได้เสียงร้องเพิ่ม เราเลยลองส่งเพลงนี้ไปให้ Fetty ฟัง แล้วเขาก็ชอบเพลงนี้ เลยส่งท่อน FIRE กลับมาให้ ส่วน AACACIA เป็นศิลปินนิวซีแลนด์ที่ยอดเยี่ยมมากๆ แล้วเขาก็ใส่มนต์สะกดลงไปในท่อน bridge ของเพลง และในมิวสิควิดีโอด้วยครับ

Drax Project & Fetty Wap - Firefly (feat. AACACIA) [Official Video] 

เพลงไหนที่คุณชอบแสดงสดมากที่สุด?

พวกเรามักจะชอบเล่นสดเพลง “All This Time” เพราะเพลงนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง และเราก็ชอบเล่น “Woke Up Late” ด้วย เพราะแฟนๆ มักจะพร้อมใจกันส่งเสียงร้องกลับมาให้พวกเรา! พวกเราอยากไปเล่นเพลงนี้ที่ประเทศไทยบ้าง อยากฟังแฟนๆ ชาวไทยร้องเพลงนี้ให้พวกเราฟังบ้างครับ

ขอ 3 คำให้กับประเทศไทย

BEST FOOD EVER. (อาหารอร่อยที่สุด)

มีแผนจะมาไทยในทัวร์คอนเสิร์ตครั้งหน้าไหม?

แน่นอนครับ พวกเราอยากไปเล่นสดให้แฟนๆ ชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ชมกัน เพื่อตอบแทนการสนับสนุนที่ทุกคนมีให้พวกเรามาเสมอครับ!

ฝากข้อความถึงแฟนๆ ชาวไทยหน่อย

ขอบคุณมากๆ ที่สนับสนุนพวกเรานะครับ พวกเรามองดูพวกคุณอยู่ตลอดนะ และพวกเราก็รอไม่ไหวที่จะได้ไปพบพวกคุณในประเทศที่สวยงาม และเล่นดนตรีให้พวกคุณฟัง รักมากๆ ครับ