ล้วงความลับ Benny Blanco ถึงการแต่งเพลงฮิต และเบื้องหลัง “Lonely” กับ Justin Bieber
ถ้าโปรดิวเซอร์มือทองของโลกแห่งเพลงป็อปบัลลาดยุค ‘90s-2000s ที่หลายคนคุ้นชื่อและคุ้นหน้าคุ้นตากันดีเป็น David Foster สำหรับโปรดิวเซอร์เจน Y ถึง Z ที่แฟนเพลงให้การยอมรับทั่วโลกคงต้องมีชื่อของ Benny Blanco อยู่ด้วยแน่ๆ เพราะเขาเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเพลงฮิตติดชาร์ตมากมายนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น "Hot n Cold" และ "I Kissed a Girl" ของ Katy Perry, "Tik Tok" ของ Ke$ha, "Moves Like Jagger" featuring Christina Aguilera และ "Payphone" featuring Wiz Khalifa ของ Maroon 5, "Diamonds" ของ Rihanna, "Don't", "Castle on the Hill" และ "Perfect" ของ Ed Sheeran, "Love Yourself" ของ Justin Bieber และอีกมากมายนับไม่ถ้วน
ในวันนี้เขามีโอกาสได้ร่วมพูดคุยกับ Sanook Music ผ่านวิดีโอคอล เล่าตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าวงการเพลง เริ่มจับงานแต่งเพลง เป็นโปรดิวเซอร์ ได้ร่วมงานกับศิลปินดังๆ มากมาย จนล่าสุดเขาได้มีผลงานเพลงภายใต้ชื่อของตัวเอง มาดูกันว่าเจ้าพ่อเพลงฮิตยุค 2000s คนนี้ จะมาเล่าถึงเบื้องหลังของเพลงฮิตที่เขาแต่ง รวมถึงความท้าทายในการแต่งเพลงให้ตัวเองเป็นครั้งแรกในปี 2018 จนถึงตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
เริ่มต้นทำงานเป็นโปรดิวเซอร์ได้อย่างไร? แล้วเริ่มมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับศิลปินระดับโลกได้อย่างไร?
Benny Blanco: ผมเริ่มทำงานบนถนนสายดนตรีด้วยการเป็นศิลปินด้วยตัวเองตั้งแต่อายุน้อยๆ เลยนะครับ ผมชนะการประกวดร้องเพลงตั้งแต่อายุ 9 ขวบ แล้วก็ได้มีเพลงเป็นของตัวเองด้วย ระหว่างนั้นผมก็ได้เจอกับผู้คนมากมาย พอเวลาผ่านไปสักพัก ผมก็อยากจะก้าวออกมาจากสปอตไลท์ เริ่มอยากทำงานเบื้องหลัง เมื่อผมได้เรียนรู้วิธีการแต่งเพลงว่ามันทำกันยังไง จากนั้นผมก็เริ่มทำงานเป็นนักแต่งเพลง
นึกไปถึงเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ผมอยู่กับ Ed Sheeran ตอนนั้นเราอยู่ในระหว่างทัวร์คอนเสิร์ต เราเพิ่งดูสารคดีเรื่อง The Defiant Ones ที่พูดถึง Dr. Dre และ Jimmy Iovine เราดูจบก็นั่งนิ่งกันอยู่อย่างนั้น จน Ed พูดขึ้นมาว่า ‘เราจะทำยังไงกับชีวิตเราดี รู้สึกว่าเรายังทำอะไรไม่มากพอเลยนะ’ (หัวเราะ) จากนั้นเขาก็บอกว่า ‘เดี๋ยวมานะ’ แล้วเขาก็ลุกไปเล่นคอนเสิร์ต ทิ้งให้ผมนั่งอยู่ตรงนั้นคนเดียว ผมเลยฟุ้งซ่านต่อว่า ‘แล้วเราจะต้องทำยังไงกับชีวิตต่อไปล่ะ?’ ผมเป็นคนชอบทำอะไรที่สนุกๆ และน่าสนใจ ผมเลยตัดสินใจทำเพลงของตัวเอง เป็นศิลปินเองไปเลย ทำเองทุกอย่างตั้งแต่มิวสิควิดีโอ การโปรโมทเพลง ได้มองเห็นการทำงานทุกขั้นตอน และได้เห็นว่าผมทำอะไรได้บ้าง
ทำเพลงให้กับศิลปินแต่ละคน แตกต่างกันอย่างไรบ้าง?
Benny Blanco: ศิลปินแต่ละคนมีขั้นตอนในการทำเพลงในแบบของพวกเขาเอง ในฐานะที่ผมเป็นโปรดิวเซอร์ หน้าที่ของผมคือคอยดูแลแต่ละขั้นตอนนั้นให้เป็นไปอย่างเรียบร้อยราบรื่น อย่างตอนที่ทำเพลงกับ Juice Wrld เขาเป็นคนที่ทำเพลงเองตั้งแต่ต้นจนจบก่อนผมจะได้เข้าไปช่วยอะไร กับ Katy Perry เราจะนั่งด้วยกัน คุยกัน เริ่มต้นพร้อมกัน เปลี่ยนตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย อยู่กับเพลงนั้นๆ นานพอสมควร กับ Justin Bieber เขามักจะบอกว่าเขาอยากจะซื่อสัตย์กับคนฟังในแต่ละคำที่เขาร้อง กับ Halsey เราค่อนข้างทุ่มเวลาไปกับการทำทำนอง แล้วเนื้อเพลงค่อยตามมาทีหลัง เมื่อแต่ละคนมีขั้นตอนในการทำเพลงไม่เหมือนกัน ผมมีหน้าที่คอยช่วยเหลือในทุกๆ ขั้นตอนนั้นให้ผ่านไปได้ด้วยดี
คุณทำได้ดีมากในการเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับศิลปินคนอื่นๆ ทำไมคุณถึงตัดสินใจออกผลงานภายใต้ชื่อของตัวเอง?
Benny Blanco: ผมคิดว่าผมอยากทำอะไรที่มันแตกต่างไปจากเดิม เพราะผมทำอะไรแบบเดิมๆ มาเป็นระยะเวลานาน ตอนที่ผมทำเพลงให้ Ed Sheeran ผมไม่เห็นภาพเลยว่ามิวสิควิดีโอจะออกมาเป็นยังไง การโปรโมตจะออกมาในรูปแบบไหน แต่เมื่อผมได้มีผลงานเพลงเป็นของตัวเอง ผมได้ลองทำทุกขั้นตอนจริงๆ ได้เลือกเองว่าอยากให้อะไรเป็นแบบไหน ทุกอย่างมาจากไอเดียของผมล้วนๆ มันน่าสนุกครับ
เพลง “Lonely” ที่คุณทำกับ Justin Bieber คุณเคยบอกว่า Justin มีอาการประหม่ามากๆ ระหว่างอัดเพลงนี้ ทำไมพวกคุณถึงเลือกที่จะเล่าถึงความรู้สึกเหงาในเพลงนี้?
Benny Blanco: ผมมองว่าช่วงนี้ทุกคนต้องการเพลงแบบนี้นะ เราต่างผ่านเรื่องแย่ๆ กันมามาก และบางครั้งมันก็เป็นเรื่องยากมากๆ ที่ผ่านพ้นปัญหาไปได้ บางครั้งคุณก็ยังรู้สึกเหงาแม้ว่าจะรายล้อมไปด้วยผู้คนมากมาย รู้สึกหดหู่ ตอนที่ Justin ตัดสินใจที่จะปล่อยเพลงนี้ออกมา เขาบอกว่าแค่คนเดียวในประเทศไทยได้ฟังเพลงแล้วมันช่วยเปลี่ยนอารมณ์ เปลี่ยนมุมมองชีวิตของเขาได้ รู้สึกเชื่อมโยงกับคนอื่นๆ รอบข้างเขาได้ เท่านั้นถือว่าเพลงนี้ทำหน้าที่ของมันได้สำเร็จแล้ว เขาอยากจะเล่าถึงความรู้สึกของเขาที่เขาเองก็เป็นเหมือนกับคนอื่นๆ ทั่วโลก อยากสื่อสารและเชื่อมโยงกับทุกๆ คนด้วยใจจริง
แล้วเพลง “Real Shit” ที่ทำกับ Juice Wrld ล่ะ? เห็นคุณเคยบอกว่าเป็นเพลงแรกที่ทำกับเขา ทำไมเพิ่งมาปล่อยตอนนี้? เพลงนี้มีความพิเศษอย่างไรบ้าง?
Benny Blanco: เราสองคนทำเพลงด้วยกันมาเยอะมาก ทุกครั้งที่เรานั่งแต่งเพลงด้วยกันมักจะได้มา 6-8 เพลง ผมก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมตอนนั้นไม่ได้ปล่อยเพลงนี้ออกมา ตอนนั้น Juice Wrld เขามีความสุขมาก ยังเด็กมาก ยังสดใหม่ และเป็นเพลงแรกที่เราทำด้วยกัน ตอนที่ผมเพิ่งเห็นว่าเพลงนี้ยังไม่ได้ปล่อยออกมา ผมเลยรู้สึกว่าแฟนๆ ต้องได้ฟังเพลงนี้ เป็นอีกด้านที่ได้รู้สึกตัวตนของเขาตั้งแต่เริ่มแรก ก่อนที่เขาจะมีชื่อเสียงระดับโลก เขายังทำเพลงในแบบฉบับของเขาอยู่เต็มร้อย มีองค์ประกอบเท่ๆ อยู่ในเพลงด้วย และผมก็ดีใจที่ในที่สุดโลกนี้ก็ได้ฟังเพลงนี้ของเขาจนได้
คิดว่าสไตล์การแต่งเพลงที่เป็น “signature” ของตัวเองที่ทำให้เพลงออกมาไม่เหมือนใคร คืออะไร?
Benny Blanco: คิดว่าเป็นการทำอะไรที่คาดไม่ถึงนะครับ ทุกคนอาจจะคาดหวังว่าที่จะได้ยินเพลงที่ทำในโปรดักชั่นใหญ่ องค์ประกอบใหญ่ๆ แต่ผมกลับปล่อยเพลงที่ไม่มีเสียงกลอง หรือไม่มีอะไรยิ่งใหญ่แบบนั้นเลย หรือเพลงที่หลายคนอาจจะคิดว่าจะได้ยินท่อนคอรัสชัดๆ จำได้ง่ายๆ สำหรับเพลงของผม ผมแค่อยากจะให้คนฟังได้รับรู้ถึงสิ่งที่ผมอยากจะสื่อ อารมณ์ที่ผมถ่ายทอดลงไปมากกว่า
คุณกลายเป็นโปรดิวเซอร์คิวทองที่ศิลปินทั่วโลกอยากร่วมงานด้วย เพราะคุณทำเพลงฮิตออกมามากมาย อะไรคือเคล็ดลับหรือจุดที่ต้องใส่ใจในการแต่งเพลงให้ออกมาเป็นเพลงฮิต?
Benny Blanco: (หัวเราะ) มีแต่คนถามผมแบบนี้นะ ผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน! ถ้าผมรู้ผมคงทำแบบนั้นทุกครั้งที่แต่งเพลงเลยแหละ สำหรับผม ผมแค่อยากจะทำเพลงให้ออกมา “จริง” ที่สุด ผมชอบเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงผ่านบทเพลง ทำเพลงที่คนฟังรู้สึกตามและเข้าใจไปกันเพลงได้ ถ้าผมรู้สึกตามไปกับเพลงได้ ผมก็เชื่อว่าก็น่าจะมีอีกสักคนสองคนที่จะเข้าใจเพลงนี้ได้เหมือนผม
ยังมีศิลปินคนไหนที่คุณอยากร่วมงานด้วยอีกไหม?
Benny Blanco: น่าจะเป็น Drake เพราะผมชอบเขามากเป็นการส่วนตัว แต่เขาแต่งเพลงเก่งมาก คิดว่าเขาไม่น่าจะต้องการผมหรอก (หัวเราะ) แต่ผมเป็นแฟนเพลงของเขามานานแล้ว ผมว่าเขาเก่งมาก หวังว่าผมจะได้ร่วมงานกับเขาในสักวันหนึ่งนะ
ในปี 2021 คุณมีแผนจะทำอะไรบ้าง?
Benny Blanco: เพลงใหม่ และอัลบั้มใหม่ครับ! (ป้องปากตะโกน)
สุดท้ายแล้ว มีอะไรอยากฝากถึงแฟนๆ ชาวไทยบ้างไหม?
Benny Blanco: ทุกคน! ขอบคุณมากนะครับที่ชอบเพลงของผม ผมอยากไปหาทุกๆ คนที่ประเทศไทยมากๆ แล้วอย่าลืมว่าพวกคุณเองก็เก่งเหมือนกัน อยากทำอะไรก็ทำเลยนะ เพราะผมเองก็ไม่ได้เป็นคนมีพรสวรรค์อะไรเหมือนกัน (หัวเราะ)
อัลบั้มภาพ 25 ภาพ