"บิว กัลยาณี" ย้อนวันที่ท้อหนักจนอยากหันหลังให้วงการ พร้อมเล่าถึงรักที่เก็บไว้ 8 ปี
หลังจากที่หน้าหายตาไปจากจอทีวีอยู่นาน เพราะเดินสายร้องเพลงจนไม่มีเวลา แต่หลังจากได้รับกระทบจากโควิดทั้งรอบก่อนและระลอกใหม่ก็ทำให้งานของ บิว กัลยาณี (กัลยาณี เจียมสกุล) ศิลปินลูกทุ่งเพื่อชีวิตค่าย อาร์สยาม เจ้าของเพลง "โนบรา โนราห์" และ "สาวรามยามเย็น" หยุดชะงักจนไม่เหลือสักงาน ซึ่งล่าสุดเจ้าตัว ที่ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 เพื่อเล่าถึงความรู้สึกที่ท้อเรื่องการทำงาน พร้อมเผยความรักที่ไม่เคยเปิดมาตลอด 8 ปีกับแฟนหนุ่มนอกวงการ
โดย บิวได้เล่าเหตุผลที่หยุดทำงานเพลงไปว่า "ตอนนั้นพอเริ่มอยู่ตัวสักพักทำเพลงแรกแล้วดังงานคอนเสิร์ตยาวเป็นสิบปีเลยค่ะ แต่ระหว่างทางเราก็ทำเพลงใหม่มาบ้างแต่ไม่ได้เปรี้ยงเท่ากับเพลงแรกทำให้เรามีความรู้สึกว่าเดี๋ยวค่อยทำก็ได้มั้งเพราะยังมีงานเข้ามาอยู่ จนถึงยุคหนึ่งกระแสเพลงมันเปลี่ยนไปเด็กรุ่นนี้ทั้งร้อง ทั้งแต่ง ทั้งเรียบเรียงเอง โปรโมทเองเขาทำเองหมดเลย แต่เราเป็นนักร้องรุ่นเก่าที่โซเชียลน้อยมาก มีแต่ป้อนงานให้ไปเข้าห้องอัดตอนนี้นะ ตอนนี้ทำแบบนี้นะ กระแสมันเลยหายไป เพราะเรารอให้คนอื่นมาป้อนเพราะเราชินกับระบบเก่าที่รออยู่นิ่งๆ แล้วบริษัทเป็นคนที่ดูแลทั้งหมด ตอนนี้ก็ยังท้ออยู่เพราะว่าพอจะออกเพลงไปมันเราก็คิดว่าเราจะออกเพลงแนวไหนเพราะแนวคนฟังเปลี่ยนไปแล้ว เพราะเราเห็นตัวอย่างจากรุ่นพี่ของเราที่เขาออกเพลงมาเป็นเพลงฟังเพลงเพราะแต่มันเงียบมันไม่ดัง ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีคอนเสิร์ตนะคะ แต่ก็เป็นกลุ่มแฟนเพลงเดิม"
นอกจากเรื่องจุดเปลี่ยนแล้ว บิวยังเปิดใจเกี่ยวกับการใช้ชีวิตช่วงที่ประสบความสำเร็จว่า "คือตอนนั้นเราก็ใช้เงินแบบลืมไปเลยว่ามีวันพรุ่งนี้ เพราะว่าเรามีงานทุกวันวันละสามงานสี่งานยิ่งถ้าเทศกาลวิ่งกันไปจนถึงตีสามตีสี่ เงินที่ใช้ไปเลยคือ หนึ่งให้กับที่บ้าน สองพอเราทำงานเราก็ขาดชีวิตส่วนตัวการเจอเพื่อนอะไรอย่างนี้ช่วงนั้นเราก็ซื้อเพื่อนให้มาหาก็หมดไปเยอะเลยคะ เพราะงานเข้ามาเยอะจริง แต่เราก็ปล่อยให้เงินไหลออกไปเยอะมากเหมือนกันเพราะตอนนั้นงานมันหาง่าย"
พอเล่าถึงการทำงานเพลงเสร็จ บิวก็ได้เปิดใจเกี่ยวกับการทำงานเมื่อไม่มีคอนเสิร์ตว่า "เครียดค่ะ แต่เราก็ทำของมาขายนะคะ แต่ขายไม่ได้เลยอย่างเราครีมมาร์คหน้ามาขายก็ขายได้แค่ ห้าชิ้น สิบชิ้นเราก็คิดว่าทำไมของเราขายได้ยากจังก็ล้มไปพอจับอะไรมาขายไม่ได้ก็ไม่รู้ว่าเพราะดวงของเราด้วยหรือเปล่า เพราะเราเคยไปดูดวงมาแล้วเขาบอกว่าดวงเราคือ เป็นดวงปู่โสมเฝ้าทรัพย์คือ มีทรัพย์อะไรอยู่กับตัวจะขายไม่ออกเขาก็แนะนำมาว่าขายของกินแล้วกันแต่ให้เป็นชื่อคนอื่นให้คนอื่นออกหน้าไป ตอนนี้ก็เลยทำ กัลยาณีมีเคย ออกมา เคย ก็คือ กะปิ แต่เวลาใครถามเราก็จะบอกว่าพ่อแม่ขายแต่เราเป็นคนลงทุนใครอยากจะสั่งก็มาทางเราได้ เสียงตอบรับดีเลยค่ะ เพราะเป็นกุ้งเคย ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วก็จะเป็นของจังหวัดสุราษฎร์ซึ่งมีทะเลเยอะอยู่แล้ว"
แต่ถึงแม้จะมีอุปสรรคเรื่องาน บิวก็ได้เผยว่าเธอได้รับกำลังใจจากคนรัก ซึ่งเธอได้เล่าถึงแฟนหนุ่มไว้ว่า "เขาอยู่ข้างๆมาตลอด 8 ปี ยิ่งช่วงที่เราไม่มีงานเขายิ่งต้องอยู่ข้างๆ เราเพราะเขาคือรายได้หลักของเรา เพราะตอนนี้ที่เราไม่มีงานคือรายได้เท่ากับศูนย์เพราะขายของก็ยาก เพลงก็ไม่ได้ร้องเพราะฉะนั้นรายได้หลักของเราก็คือเขาเขาเป็นคนดูแลเราที่บ้านเขาจะทำสวนค่ะ เราคิดว่าเราทำงานมาถึงขนาดนี้แล้ว แล้วก็เลยวัยที่จะกลับไปแต่งงานแล้วด้วยความที่เป็นคนที่คิดว่าพิธีแต่งงานคือแค่การประกาศเท่านั้น แต่ถ้าเราอยู่ด้วยกันไม่ได้มันก็เป็นการสิ้นเปลืองเปล่าๆ ก็เลยคิดว่าเก็บเงินส่วนนี้ไว้ทำทุนชีวิตดีกว่า สิ่งที่เราประทับใจในตัวของเขาคนนี้ 8 ปีที่คบกันมาหนึ่งเลยคือ ไม่ยุ่งเกี่ยวเวลาที่เราทำงาน ไม่วุ่นวาย สองคือไม่วุ่นวายเรื่องการเงินอันนี้ประทับใจมากเพราะเราเคยมีประสบการณ์โดนโกงมา"
หลังจากที่เปิดใจเรื่องการทำงาน บิวก็ยืนยันว่าหลังจากนี้เธอจะมีผลงานใหม่ออกมาให้ติดตามแน่นอน ซึ่งทุกคนสามารถติดตามรายการต้มยำอมรินทร์ย้อนหลังได้ที่ YouTube AMARIN TVHD
อัลบั้มภาพ 15 ภาพ