Running Girls : เหล่าไอดอลที่ต้องการเวลา ‘หายใจ’ โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง | Sanook Music

Running Girls : เหล่าไอดอลที่ต้องการเวลา ‘หายใจ’ โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง

Running Girls : เหล่าไอดอลที่ต้องการเวลา ‘หายใจ’ โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในช่วงเวลานี้ที่เทรนด์ยอดนิยมเป็นเรื่องของเซิร์ฟสเก็ต ครัวซองต์ และแอปคลับเฮาส์ หลายคนอาจลืมไปแล้วว่าการวิ่งหรือการเข้าร่วมอีเวนต์งานวิ่งเคยเป็นกระแสเฟื่องฟูในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บ้างก็ว่าเป็นกีฬาที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมากบ้างแซะว่าเป็นการตามกระแส บางคนไปเพื่อเซลฟี่อวดลงโซเชียลเท่านั้นแหละ แต่ท้ายสุดกระแสการวิ่งก็อ่อนแรงลงไป อาจด้วยเพราะเรื่องฝุ่น PM 2.5 และการระบาดของโควิด-19

เมื่อธันวาคม 2020 รายการวาไรตี้เกาหลีชื่อ Running Girls ก็มีธีมว่าด้วยการวิ่ง คอนเซ็ปต์คือให้ 5 ไอดอลสาว ฮานิ (EXID), ซอนมี, ยูอา (OH MY GIRL), ชองฮา และ ชู (LOONA) ไปออกทริปต่างจังหวัดด้วยกัน แต่พวกเธอจะไม่ได้แค่ท่องเที่ยว ตะลุยกิน หรือเล่นเกมขำขันเท่านั้น แต่พวกเธอจะต้องวิ่งด้วย ซึ่งน่าเสียดายว่ารายการนี้ไม่มีซับไทยแบบลิขสิทธิ์ ต้องรอเหล่าคนใจบุญทำแฟนซับให้ ผ่านมาข้ามปีถึงได้ดูครบทั้ง 4 ตอน

สิ่งที่น่าสนใจคือแม้กิจกรรมหลักจะเป็นการวิ่งระยะทางเป็นกิโล แต่ผู้ร่วมรายการกลับไม่ได้มีประสบการณ์เรื่องวิ่งกันสักเท่าไร มีเพียงแค่ฮานิเท่านั้นที่วิ่งเป็นประจำจนได้รับตำแหน่งหัวหน้าทีมไป ยิ่งไปกว่านั้นทั้งห้าคนยังไม่ได้สนิทกันด้วยเพียงแต่เฉียดกันไปมาในตามเวทีหรืองานต่างๆ ช่วงแรกจึงเต็มไปด้วยความเคอะเขินระหว่างกัน แต่เมื่อรายการดำเนินไปมิตรภาพและการเปิดใจก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น

Running Girls มีช่วงดูสบายตาเพลิดเพลินใจ อย่างการได้เห็นสาวๆ กินของอร่อยหรือร้องคาราโอเกะอย่างสนุกสนาน เวลาเห็นไอดอลที่เราชื่นชอบได้พักผ่อน แต่งตัวง่ายๆ ไม่ต้องเมคอัพหน้าขาววอก แฟนคลับก็รู้สึกยินดีไปด้วย นอกจากนั้นรายการยังถ่ายทำตามต่างจังหวัดของเกาหลีใต้ จะภูเขาหรือทะเลก็ล้วนมีภูทิทัศน์งดงาม ดูแล้วยิ่งถวิลหาการท่องเที่ยวต่างประเทศ กิจกรรมที่เหมือนกลายเป็นอดีตไกลโพ้นตั้งแต่เข้ายุคโควิด-19

อย่างไรก็ดี รายการมีช่วงที่น่าขัดใจอยู่เหมือนกัน อาทิ เสียงผู้บรรยายหรือการขึ้นตัวหนังสือที่ดูจะชี้นำหรือพยายามให้บทเรียนชีวิตกับผู้ชมมากไปเสียหน่อย แถมช่วงกลางคืนของทุกทริปจะเป็นการล้อมวงคุยกันระหว่างห้าสาวซึ่งนำไปสู่ดราม่าน้ำตาแตกเสียทุกตอน จนอดคิดไม่ได้ว่ามันฟูมฟายเกินไปหรือเปล่า ถึงกระนั้นบทสนทนาของแต่ละคนล้วนน่ารับฟังเป็นดั่งคำสารภาพอันบริสุทธิ์ใจ ไล่ตั้งแต่ชองฮาที่รู้สึกว่าตัวเองไม่เคยได้หยุดพัก, ชูเปิดใจถึงช่วงที่ LOONA โดนดองเป็นปี, ยูอาระบายความคับข้องใจว่าตัวเองไม่เก่งพอ แต่ฮือฮามากที่สุดน่าจะเป็นการที่ซอนมีเปิดเผยถึงอาการ Borderline Personality Disorder (บุคลิกภาพผิดปกติชนิดก้ำกึ่ง) แม้จะย้ำหลายครั้งว่าตอนนี้เธอโอเคแล้ว แต่การฝืนยิ้มของเธอมันช่างน่าเศร้าเหลือเกิน

ส่วนกิจกรรมไฮไลท์อย่างการวิ่งนั้น ช่วงแรกจะเป็นการวิ่งระยะสั้นแบบวิ่งบ้างเดินบ้าง ก็เลยยังดูไม่หนักหนาอะไรนัก แต่ในตอนสุดท้ายเป็นระยะทางที่ค่อนข้างยาว ฮานิทำสำเร็จได้ไม่ยากเพราะเธอเป็นนักวิ่ง ส่วนชูมีพลังล้นเหลือเพราะเป็นน้องเล็กของรายการ ทว่าไอดอลที่เหลือกลับประสบความยากลำบากพอสมควร ชองฮาบาดเจ็บจากการซ้อมเลยวิ่งได้ไม่เต็มที่ ซอนมีเกิดอาการเข่าเคลื่อนกำเริบ หรือยูอาที่หายใจไม่ทันจนต้องไปนอนพัก แต่ทั้งสามก็ตัดสินใจวิ่งต่อไป แม้ทีมงานจะบอกว่าพวกเธอสามารถหยุดได้

ตอนสุดท้ายของ Running Girls ทำให้ผู้เขียนนึกถึงหนังสือ What I Talk About When I Talk About Running ที่ ฮารูกิ มูราคามิ เล่าถึงประสบการณ์และปรัชญาการวิ่งของเขา มีประโยคน่าจดจำที่มูราคามิเขียนว่า “ความเจ็บปวดมิอาจเลี่ยงแต่ความทรมานนั้นเป็นทางเลือก” หมายถึงว่าการวิ่งนำมาซึ่งความเจ็บทางกายภาพอยู่แล้ว แต่คนเราสามารถเลือกได้ว่าจะ ‘หยุด’ หรือ ‘ไปต่อ’ ซึ่งปรากฏว่าผู้ร่วมรายการทั้ง 5 คนใน Running Girls ล้วนเลือกจะไปต่อ พวกเธอวิ่งถึงจุดหมายในที่สุด และพากันร้องไห้ออกมาประหนึ่งบรรลุภารกิจสำคัญของชีวิต โดยเหล่าไอดอลล้วนพูดทำนองเดียวกันว่าพวกเธอชอบเวลาวิ่งเพราะได้อยู่กับ ตัวเอง ได้โฟกัสที่ลมหายใจ เป็นโมเมนต์มหัศจรรย์ที่พวกเธอได้ใส่ใจกับการหายใจเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี

____________________

kanchat

ผู้เขียน - คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง

(Kanchat Rangseekansong)

เปิดโลกดนตรีและไอดอลกับคันฉัตร

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ Running Girls : เหล่าไอดอลที่ต้องการเวลา ‘หายใจ’ โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook