Olivia Rodrigo กับชีวิตหวานอมเปรี้ยวที่พร้อมถ่ายทอดผ่านอัลบั้มใหม่ “Sour” | Sanook Music

Olivia Rodrigo กับชีวิตหวานอมเปรี้ยวที่พร้อมถ่ายทอดผ่านอัลบั้มใหม่ “Sour”

Olivia Rodrigo กับชีวิตหวานอมเปรี้ยวที่พร้อมถ่ายทอดผ่านอัลบั้มใหม่ “Sour”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Olivia Rodrigo (โอลิเวีย ร็อดริโก) สาวน้อยอายุ 18 ปีเจ้าของเสียงสวยๆ ในเพลง “driver license” ที่โด่งดังไปทั่วโลก และเพิ่งสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมชาวอังกฤษกับการแสดงสดในงานประกาศรางวัล Brit Awards 2021 ที่ผ่านมา Sanook Music มีโอกาสได้ร่วมสัมภาษณ์พร้อมกับเหล่าสื่อมวลชนทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถึงชีวิตของเธอหลังดังเปรี้ยงปร้างในชั่วข้ามคืน และความพร้อมของเธอที่จะสานต่อความสำเร็จกับผลงานอัลบั้มแรกในชีวิตที่ใช้ชื่อว่า Sour ที่เธอลงมือแต่งเพลงเองทุกเพลงร่วมกับ Dan Nigro นักแต่งเพลงชื่อดังอยู่เบื้องหลังเพลงเพราะๆ ของ Conan Gray, Carly Rae Jepsen, Lewis Capaldi และอีกมากมาย และแฟนๆ จะได้ฟังกันเต็มๆ วันที่ 21 พ.ค. นี้


เพลง “drivers license” ทำให้คุณโด่งดังไปทั่วโลกในแบบที่คุณเองก็ตั้งตัวไม่ทันจริงๆ ตอนนี้รู้สึกอย่างไรกับความสำเร็จระดับโลกที่มาตั้งแต่เพลงแรกที่ปล่อยแบบนี้?

Olivia: ฉันไม่ได้คาดหวังว่าเพลงแรกของฉันจะได้รับการตอบรับจากทั่วโลกดีมากขนาดนี้เลยเหมือนกันค่ะ มันน่าเหลือเชื่อมากๆ จนถึงตอนนี้ก็ไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริงเลย ฉันแต่งเพลงนี้ตั้งแต่ช่วงกักตัวอยู่บ้าน การได้เห็นเพลงนั้นเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกในระยะเวลาไม่นานแบบนี้รู้สึกแปลกใจมากๆ ค่ะ ได้เห็นคนทุกเพศทุกวัยร้องเพลงของฉันแบบนี้ ทำให้ฉันดีใจมากๆ ค่ะ


มีช่วงเวลาที่รู้สึกว่า “ฉันดังมากแล้วแฮะ” บ้างไหม?

Olivia: ตอนที่รายการ Saturday Night Live พูดถึงเพลง “drivers license” ในฉากที่เขาแสดงกันค่ะ ฉันคิดว่ามันเจ๋งมาก เหมือนเพลงนี้มีผลต่อชีวิตของคนฟังได้จริงๆ เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับฉันเลยค่ะ


เพลง “deja vu” มีแรงบันดาลใจจากอะไรบ้าง?

Olivia: ฉันคิดว่าคอนเซ็ปต์ของ deja vu น่าสนใจมากๆ เลยค่ะ เลยคิดว่าถ้าเอาคอนเซ็ปต์เรื่องของ deja vu มาบอกเล่าเรื่องราวของอดีตคนรักที่ทำทุกอย่างกับคนรักใหม่แทบจะเหมือนเดิมทุกอย่างราวกับเป็น deja vu มันคงจะเข้ากันดี ฉันคิดท่อนฮุกและบันทึกเอาไว้ในโทรศัพท์ จนฉันได้มาแต่งเพลงนี้ต่อกับนักแต่งเพลงอีกคนที่เราค่อยๆ ช่วยสร้างสตอรี่ออกมาเป็นเพลงต่อ ฉันดีใจที่หลายๆ คนชอบเพลงนี้ค่ะ


“deja vu” ไม่เหมือน “driver license” เลย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่แปลกใหม่มากๆ สำหรับศิลปินที่ทำเพลงแรกดังแบบพลุแตกมาก่อน มักจะเจริญรอยตามความสำเร็จของเพลงแรกมากกว่า

Olivia: ฉันพยายามที่จะไม่ให้เพลงที่ 2 คล้ายกับเพลงแรกอย่างเด็ดขาดเลยค่ะ เพราะฉันอยากเป็นศิลปิน และนักแต่งเพลงที่ทำเพลงได้หลากหลายแนวมากกว่า


ถ้าเลือกประสบการณ์ในชีวิตให้เกิด “deja vu” มองเห็นเหตุการณ์นั้นได้อีกครั้ง จะเลือกเหตุการณ์ไหน?

Olivia: คำถามดีมากเลยค่ะ หนึ่งในวันที่ดีที่สุดในชีวิตของฉัน คือวันเกิดอายุ 16 ปีของฉัน ตอนนั้นฉันอยู่ Salt Lake City แล้วเพื่อนๆ ก็เซอร์ไพรส์ฉันด้วยการพามาที่ลานโรลเลอร์เบลด และเปิดเพลงที่ฉันชอบด้วย ฉันอยากย้อนกลับไปตอนนั้นเพราะวันนั้นสนุกกันมากๆ ค่ะ

oliviarodrigo_172126280_79048


ทำไมถึงตั้งชื่ออัลบั้มใหม่ว่า Sour?

Olivia: ในอัลบั้มนี้ฉันได้แรงบันดาลใจมาจากแนวดนตรีกรันจ์ช่วงปลาย ‘90s ต้นๆ ปี 2000 ค่ะ แล้วฉันแอบคิดว่า คำว่า Sour มันสื่อไปในทางกรันจ์ หรือเพลงโกรธๆ ได้ และจริงๆ แล้วตอนแรกฉันพยายามเขียนเพลงที่ชื่อว่า “Sour” ค่ะ เพราะฉันค่อนข้างหมกมุ่นกับเรื่องของความสัมพันธ์ที่เรียกว่า sour relationship คือมันไม่ราบรื่นดีเหมือนช่วงแรกๆ ฉันเลยคิดว่าคำนี้สามารถอธิบายถึงภาพรวมในชีวิตของฉันในช่วงที่แต่งเพลงในอัลบั้มนี้ได้ดี สุดท้ายเลยเลือกคำนี้มาตั้งเป็นชื่ออัลบั้มค่ะ


ศิลปินที่เป็นมีอิทธิพลต่ออัลบั้มใหม่ Sour คือใครบ้าง?

Olivia: หากได้ฟังเพลงในอัลบั้ม Sour จะค้นพบว่ามันมีหลายแนวมากๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นป็อป พังก์ กรันจ์ คันทรี่ย์ ไปจนถึงโฟล์ก อาจจะฟังดูไม่น่าเชื่อว่าทุกแนวที่พูดมาทั้งหมดจะมารวมอยู่ในอัลบั้มนี้ของฉันได้อย่างไร แต่ฉันพยายามดึงเอาบางส่วนของแนวดนตรีเหล่านี้มารวมกัน ใส่เสียงร้องของฉันเข้าไป แล้วทำเพลงออกมาให้เป็นในแบบของฉันเอง แต่ช่วงนี้เหมือนฉันจะชอบฟังเพลงแร็ปอยู่บ่อยๆ นะคะ (หัวเราะ) ฉันชอบฟังแร็ปเปอร์หญิงค่ะ แนว Cardi B, Nikki Minaj และ Megan Thee Stallion


ในอัลบั้ม Sour มีเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตที่หยิบมาแต่งเป็นเพลงบ้างไหม?

Olivia: มีค่ะ เพลงส่วนใหญ่ในอัลบั้ม Sour ฉันแต่งตอนที่ฉันอายุ 17 ปีค่ะ เลยค่อนข้างจะมองเห็นโลกในแบบที่เด็กผู้หญิงอายุ 17 ปีเห็น ความเศร้า ความโกรธ ความอิจฉา มีเรื่องราวของชีวิตวัยรุ่นที่ทำให้มีความรู้สึก และอารมณ์หลากหลายค่ะ


เพลงที่คุณชอบที่สุดในอัลบั้ม Sour คือเพลงอะไร?

Olivia: ฉันเปลี่ยนใจไปมาบ่อยมากเลยค่ะ ช่วงนี้อาจจะชอบเพลง “traitor” เป็นเพลงที่ค่อนข้างใช้อารมณ์เยอะมาก คล้ายๆ กับ “driver license” แต่ฉันก็เปลี่ยนที่ชอบไปเรื่อยๆ ตามช่วงเวลาว่าช่วงนั้นฟังเพลงอะไรบ่อยๆ ค่ะ


มีเรื่องอะไรที่คุณตั้งใจอยากแบ่งปันให้ทุกคนได้รับรู้ผ่านเพลงในอัลบั้ม Sour บ้าง?

Olivia: มีเรื่องหนึ่งที่ฉันอยากแบ่งปันมากๆ คือเรื่องของการถูกเปรียบเทียบในโลกออนไลน์ค่ะ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราไม่ค่อยพูดถึงกันมากเท่าไร คนเรามักเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นจากภาพที่เราเห็นในโลกออนไลน์ ซึ่งมักทำให้เรารู้สึกเสียใจ รู้สึกตัวเองไม่ดีพอ หวังคนที่ฟังเพลงของฉันจะรับสารจากฉันในเรื่องนี้ไปได้ค่ะ


ศิลปินหลายๆ คนมักจะ collab กับศิลปินมากมาย แต่คุณเลือกที่จะปล่อยอัลบั้มแรกโดยไม่ collab กับใครเลย คุณตั้งใจหรือเปล่า?

Olivia: ใช่ค่ะ ฉันอยากให้อัลบั้มแรกของฉันเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับฉัน มาจากการเล่าเรื่องของฉันล้วนๆ เพราะเป็นอัลบั้มที่แนะนำตัวตนของฉันให้คนทั่วโลกได้รู้จักเป็นครั้งแรก แต่ในอนาคตถ้ามีโอกาสได้ collab กับคนอื่นๆ ฉันก็จะไม่พลาดแน่นอนค่ะ


แต่ละเพลงที่คุณแต่ง บ่งบอกถึงความเป็นตัวของตัวเองและคุณพยายามสื่อความรู้สึกแท้ๆ ของตัวเองออกมาด้วยตลอด อะไรที่เป็นแรงบันดาลใจให้คุณแสดงความรู้สึกและเล่าเรื่องต่างๆ ในชีวิตผ่านบทเพลงของตัวเองออกมาได้อย่างแท้จริงขนาดนี้?

Olivia: ฉันพยายามอย่างมากที่จะทำอย่างนั้นค่ะ ฉันโตมากับศิลปินหลายคนที่ฉันชอบเพลงและดนตรีของพวกเขามาก และแน่นอนว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากพวกเขามากด้วยเช่นกัน แต่โดยส่วนตัวแล้ว เพื่อนๆ รอบตัวของฉัน ครอบครัว คอยเป็นกำลังใจให้ฉันตลอด ไม่เคยกดดันอะไรฉันเลย และฉันคิดว่าสิ่งนี้น่าจะทำให้ฉันมีความมั่นใจ และกล้าพอที่จะเปิดเผยความตัวตนที่แท้จริงของตัวเองผ่านเพลงต่างๆ ที่ฉันแต่งออกมาได้มากที่สุด


ปกติแต่งเพลงจากประสบการณ์จริงของตัวเองเท่านั้นหรือเปล่า?

Olivia: ไม่ค่ะ เพลงส่วนใหญ่ของฉันมาจากเรื่องจริงของฉันเพราะว่ามันเป็นเรื่องที่ฉันรู้และเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นมากที่สุด แต่ก็มีหลายเพลงที่แต่งออกมาจากประสบการณ์จริงบวกกับจินตนาการนิดหน่อย ถ้าเล่าแค่เรื่องที่เกิดขึ้นกับฉันตรงๆ คนฟังอาจจะเบื่อก็ได้ มีอยู่เพลงหนึ่งในอัลบั้ม Sour ชื่อว่า “hope ur ok” เขียนขึ้นจากมุมมองของเพื่อนของฉันที่มีต่อคนอื่น ซึ่งบางคนฉันก็ไม่รู้จักด้วยซ้ำ แต่เป็นเพลงที่พูดถึงสิ่งที่คนกลุ่มนั้นประสบพบเจอมาอีกที ฉันก็หยิบยืมเอาเรื่องราวของคนเหล่านั้นมาแต่งเพลงด้วยเหมือนกันค่ะ


เวลาแต่งเพลง คุณรู้ได้อย่างไรว่า “นี่แหละ สุดท้ายแล้ว เสร็จแล้ว”

Olivia: ฉันไม่เคยรู้สึกว่าแต่งเพลงไหนเสร็จจนถึงขั้นตอนสุดท้ายจริงๆ เลยค่ะ ฉันมัวแต่ปรับไปปรับมาจนค่ายเพลงต้องบอกฉันว่า “พอได้แล้ว เราต้องอัดเพลงนี้จริงจังแล้ว” (หัวเราะ) ฉันมักจะคิดว่า “มันดีพอหรือยัง” ไปจนถึงนาทีสุดท้ายก่อนส่งเพลงเลยค่ะ


ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะนั่งแต่งเพลงใหม่ๆ ในช่วงกักตัวอยู่บ้านแสนน่าเบื่อ คุณมีวิธีสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองแต่งเพลงใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ ในช่วงเวลาแบบนี้ได้อย่างไร?

Olivia: ฉันท้าทายตัวเองด้วยการบังคับตัวเองให้แต่งเพลงทุกวันค่ะ มันเป็นแบบฝึกหัดที่ดีในการเป็นนักแต่งเพลงนะคะ ถ้าจำไม่ผิดมีเพลง “hope ur ok” และอีกสองสามเพลงในอัลบั้มนี้ที่ฉันแต่งในช่วงกักตัวนี่แหละ สำหรับฉันแล้วการแต่งเพลงไม่เหมือนฉันทำงานเลยค่ะ ฉันชอบแต่งเพลงมากๆ ฉันเลยรู้สึกว่าเป็นเรื่องง่ายที่จะใช้เวลาทำไปเรื่อยๆ


ฝากข้อความถึงแฟนๆ หน่อย

Olivia: ขอบคุณที่ติดตามและสนับสนุนกันมาโดยตลอดนะคะ ฉันตื่นเต้นมากๆ ที่จะให้ทุกคนได้ฟังอัลบั้ม Sour ของฉัน และฉันอยากไปหาแฟนๆ ด้วยตัวเองมากๆ เลย หวังว่าจะได้พบกันในอนาคตค่ะ

 

ฟังอัลบั้ม Sour ของ Olivia Rodrigo ได้ในวันที่ 21 พฤษภาคม

อัลบั้มภาพ 15 ภาพ

อัลบั้มภาพ 15 ภาพ ของ Olivia Rodrigo กับชีวิตหวานอมเปรี้ยวที่พร้อมถ่ายทอดผ่านอัลบั้มใหม่ “Sour”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook