โดม จารุวัฒน์ พา "คุณแม่" เปิดใจชีวิตที่ก้าวผ่านอุปสรรคด้วยกันจนพบฟ้าหลังฝน
เป็นเวลา 9 ปีแล้วที่ โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม ได้เปลี่ยนจากนักศึกษาหนุ่มที่ต้องทำงานเพื่อซัพพอร์ทครอบครัว กลายมาเป็นแชมป์รายการ The Star ค้นฟ้าคว้าดาว 8 และมีผลงานเพลงของตัวเองออกมา รวมถึงมีงานแสดงงานพิธีกร ไปจนถึงหน้าที่ล่าสุดอย่างการดูแลค่ายเพลง T-POP อย่าง LIT Entertainment
ซึ่งในทุกช่วงชีวิตของ โดม จารุวัฒน์ เขาได้รับการสนับสนุนจากคุณแม่ เรวดี เชี่ยวอร่าม ที่อยู่เคียงข้างเขาในทุกบทบาทตั้งแต่แรกเกิด จนแฟนๆ มักจะได้เห็นภาพของคุณแม่กับโดมด้วยกันบ่อยครั้ง
และในโอกาสวันแม่แห่งชาติ เราก็ได้มีโอกาสพูดคุยเรื่องราวของทั้งคู่ ที่ก้าวผ่านช่วงชีวิตต่างๆ มาด้วยกันทั้งช่วงวัยเด็กที่ทั้งครอบครัวสนับสนุนความชอบของลูกเรื่องดนตรี วันที่โดมช่วยซัพพอร์ตรายได้ครอบครัวหลังคุณพ่อมีปัญหาสุขภาพ และการเจอความผิดหวังจากหลายเวทีการประกวดจนประสบความสำเร็จทุกวันนี้ ซึ่งแม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้อยู่สถานที่เดียวกันขณะสัมภาษณ์ แต่นั่นก็ไม่เป็นอุปสรรคของความน่ารักและจริงใจของแม่ลูกคู่นี้เลย
โดมและคุณแม่สนิทกันขนาดไหน ให้คะแนน 1-10 พร้อมเหตุผล ?
โดม จารุวัฒน์ : 1 ถึง 10 เหรอ 9 ดีไหม? เกือบจะ 10 แต่ว่าความเป็นแม่ลูกมันจะมีเรื่องอะไรบางอย่างที่เราไม่อยากเอาความเครียดความกดดันไปฝากคุณแม่ เราอาจจะไม่ได้ไปคุยให้กับเขา 100% ขนาดนั้น แต่ 9 เต็ม 10 ผมก็รู้สึกว่าในแง่ความสัมพันธ์ มันก็เป็นคะแนนที่ยอดเยี่ยมมากครับ
คุณแม่เรวดี : ของแม่ก็เหมือนน้องโดมค่ะ เพราะว่าถ้าเราให้ 9 บางสิ่งบางอย่างที่เราคุยกันมันก็มีนิดนึงที่ไม่ตรงกัน มันก็ต้องมาคุยมาแก้ไขกันค่ะ
วันที่รู้ว่าตัวเองเป็นคุณแม่ คุณแม่รู้สึกอย่างไร ?
คุณแม่เรวดี : ก็คุณแม่ก็ดีใจที่เราได้เป็นแม่คนแล้ว เมื่อเราสร้างเขามาเราก็จะทำสิ่งดีๆ ต่างๆ ให้เขาไปค่ะ แล้วดูสิ่งที่เขาชอบเราก็จะคอยสังเกตเขา เขาจะชอบซื้อแผ่นเพลงอะไรแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆ เลย หรือว่าดูคอนเสิร์ตเขาจะชอบมากๆ แล้วคุณก็ให้เขาเต็มที่ จะสนับสนุนเขาในด้านนี้
เล่าวีรกรรมเด็ดตอนเด็กที่ทำคุณแม่ปวดหัวบ้าง ?
คุณแม่เรวดี : มีครั้งหนึ่งคุณพ่อเขาไปราชการต่างจังหวัด ก็ได้พาเขาไป เขาก็เอาลูกหมามา ด้วยความที่เขารักลูกหมา ก็พามาอาบน้ำ ทีนี้พอเข้าไปเอาลูกหมามาจากข้างบ้าน เขาก็เอามาอาบน้ำ เอาหมาไปแช่ในน้ำเลย เจ้าของบ้านเขาก็หาหมาไม่เจอ หมาเขาตายไปแล้ว นั่นแหละวีรกรรมเขา
โดม จารุวัฒน์ : เป็นเรื่องเศร้ามาก แต่ตอนนั้นด้วยความเด็กของเรา ก็ทำด้วยความเด็กความไม่รู้ของเรา
คุณแม่มีลูกชาย 2 คน (โดม จารุวัฒน์ และบอลชอน ธนวัฒน์) ที่สนใจและชื่นชอบงานด้านศิลปะทั้งเพลงและงานแสดง คุณแม่รู้สึกอย่างไรวันที่รู้ว่าลูกชายสนใจด้านนี้ แล้วตอนนั้นคุณแม่แนะนำอย่างไร?
คุณแม่เรวดี : คุณแม่จะสนับสนุนเขา แบบแต่ก่อนขายเทปขายอะไรแบบนี้ เขาก็จะมาขอตังค์ขอไปซื้อเทป เขาก็จะเอามาเปิดฟังทุกครั้งและร้องตาม แล้วคุณแม่กับคุณพ่อก็จะร่วมแจม เราก็จะร้องเพลงไปด้วยกัน เป็นการร้องคาราโอเกะ ก็จะมีร้องเพลงด้วยกัน ให้คะแนนกัน ก็จะแบบ “เอ้ยลูกร้องดีนะ” อะไรอย่างนี้ค่ะ
ตอนวัยรุ่น โดมเป็นเด็กที่ช่วยเหลือซัพพอร์ทครอบครัวเรื่องรายได้ตั้งแต่ตอนเรียน อยากให้คุณแม่เล่าถึงความประทับใจที่มีต่อลูกชายในวันนั้นหน่อย?
คุณแม่เรวดี : ในช่วงนั้นที่เตรียมเข้ามหาวิทยาลัย ที่กำลังรอผลว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยอะไรยังไง มันเป็นช่วงว่างอยู่ทีนี้โดมก็บอกว่าชช่วงที่ว่างอยู่ลูกอยากขอไปสมัครงาน แล้วก็อยู่มา เขาก็มีร้านเพลงร้านหนึ่งที่ภูเก็ตชื่อเอสสุรพล เขาก็ไปสมัครร้องเพลง ปรากฏว่าเจ้าของร้านเขาก็บอกว่า “อยากร้องก็ร้องไป แต่ไม่ให้เงินนะ” ด้วยความที่น้องโดมเขาใจรักในเสียงเพลงแบบนี้เขาบอกว่าได้ เขาก็ไปร้องเพลงแบบฟรีๆ ไม่ได้รับค่าตอบแทน ทีนี้เจ้าของร้านเห็นเขาร้องดีมีคนติด ทีนี้เจ้าของร้านก็มีรายได้ขึ้นมาจากตรงนี้
วันที่โดมประกวด โดมก็เจอคำปฎิเสธ และความผิดหวังมาเยอะหลายปีติดกัน ได้พูดคุยหรือได้คำแนะนำกำลังใจจากคุณแม่อย่างไร?
โดม จารุวัฒน์ : คืออย่าง The Star ที่ไปก็ไม่ใช่ปีแรกเลย อย่าง The Star 4 ผมก็ไป The Star 5 ก็เคยไปแบบนี้ แล้วก็กว่าจะได้มันก็ผ่านความผิดหวังมาเยอะมาก ไม่ใช่ The Star เวทีเดียว แต่มีเวทีอื่นๆ ด้วย ในโรงเรียน ประกวดในจังหวัดอะไรแบบนี้ มันก็จะเจอความผิดหวัง ซึ่งมันเป็นธรรมดาของการแข่งขัน แต่ผมเป็นคนที่ไม่ได้เฟลกับความผิดพลาดหรือความผิดหวังขนาดนั้น แต่เวลาเราหันไปเจอพ่อแม่ เจอน้องเจอครอบครัวเขาก็จะให้กำลังใจ คือให้กำลังใจโดยที่เราไม่ต้องร้องขอเลย ไม่ต้องขอแบบ “โอ! เสียใจจัง” แต่เขารู้ลึกๆ ว่าเราผิดหวัง เขาก็ให้กำลังใจพาเราไปกินของอร่อยๆ พาไปเปิดหูเปิดตาโน่นนั่นนี่ไปเที่ยว ให้เราลืม เพื่อที่เพราะในใจเขาก็รู้แหละว่าเราผิดหวัง ก็รับรู้ว่าสิ่งที่เขาให้กลับมามันทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้น แล้วรู้สึกว่ายังอยากทำสิ่งที่ตัวเองรักต่อไปครับ
วินาทีที่คุณแม่ได้ยินชื่อว่าลูกชายเป็นแชมป์ The Star ตอนนั้นรู้สึกอย่างไร?
คุณแม่เรวดี : ดีใจมาก ดีใจ อะไรที่เขาฝ่าฟันมาได้ แต่เขายังต้องใช้ชีวิตในการสู้ต่ออีกเยอะเลยค่ะ
คุณแม่ของโดม ชอบเพลง หรือผลงานชิ้นไหนของโดมบ้าง ?
คุณแม่เรวดี : เพลงแรกของเขาก็คือ “คำอธิษฐานด้วยน้ำตา” ค่ะ ส่วนละครก็มี 4 โพดำ และอะไรอีกมากมายที่เขาได้ทำมาเรื่อยเลย
โดมเป็นคนนึงที่งานเยอะมาก ปกติพอว่างจากงานเราจะใช้เวลากับคุณแม่อย่างไรบ้าง พูดคุยเรื่องอะไรกันบ่อยสุด?
โดม จารุวัฒน์ : คือจริงๆ ผมกับแม่จะอยู่ห่างกัน แต่ก็จะมีช่วงเวลาที่เจอกันอย่างคุณแม่ขึ้นมาเจอบ้างหรือผมลงไปที่ภูเก็ต เราก็พยายามใช้ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน ให้เต็มที่ที่สุด เราจะอยากพาเขาไปเที่ยว อยากพาไปกินข้าว แทบจะไม่ได้มีอะไรพิเศษเลย แต่การใช้ทุกวินาทีให้มันคุ้มค่าที่สุด มันเป็นความพิเศษมากๆ ถ้าช่วงไหนเรามีงาน ถ้าช่วงไหนเราทำงาน เราจะรีบๆ แล้วรีบกลับบ้าน มันเป็นความอบอุ่นที่เราไม่ค่อยได้มีเวลาแบบนั้นเท่าไหร่ครับ
คุณแม่อยากบอกอะไรถึงคุณแม่ในยุคปัจจุบันบ้าง ในเรื่องการก้าวผ่านอุปสรรคหรือความผิดหวัง?
คุณแม่เรวดี : อยากฝากคุณแม่และตัวเองด้วยว่า ต้องสู้ ไม่ท้อ อย่าถอย แล้วสักวันมันจะประสบความสำเร็จได้ ขอให้สู้อย่างเดียวค่ะ
วันแม่ในความรู้สึกของโดมกับคุณแม่เป็นอย่างไร
คุณแม่เรวดี : แม่ก็ขอให้ลูกมีความเป็นลูกเป็นแม่อยู่ตลอด ไม่ใช่แค่วันแม่วันเดียว เราส่งใจกัน เรามีความผูกพัน เรามีความรักให้กันและกัน แม่อยากให้มีทุกวัน ทุกเวลา ทุกวินาทีเลยค่ะ
โดม จารุวัฒน์ : จริงๆ เราจะได้ยินบ่อยๆ ว่าอย่าทำดีกับแม่ แค่วันแม่วันเดียว วันแม่ในมุมมองของผมอาจจะเป็นวันนึงที่พิเศษขึ้นมา นึกถึงบางทีที่อาจจะหลงลืมไป พอเราคิดถึงได้ก็อย่าลืมว่าเราสามารถทำอย่างนี้ได้ทุกวัน
ในวันแม่ปีนี้มีอะไรอยากบอกกันและกันไหม?
โดม จารุวัฒน์ : ผมเป็นห่วงในเรื่องสุขภาพนั่นแหละครับ แล้วก็สถานการณ์ในตอนนี้ด้วย ที่มันน่ากลัวของโรคระบาด เราก็ค่อนข้างจะเป็นห่วง แต่ว่าผมเชื่อว่าอย่างแม่ก็เป็นคนหนึ่งที่เก่งมาก คิดว่าเขาจะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ เราก็พยายามใช้เทคโนโลยีทุกวันนี้ให้เข้าถึงกันมากขึ้นครับ รักแม่นะจ๊ะ
คุณแม่เรวดี : แม่ก็ รักลูกค่ะ อยากให้ลูกดูแลสุขภาพเพราะช่วงนี้แม่ไม่ได้ขึ้นไปหา แต่ใจยังคงคิดถึงตลอดเวลา รักค่ะ
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ