ขายกล้วยด่างชุบชีวิต "ปอยฝ้าย มาลัยพร" ตั้งเป้าพัฒนาสู่อาชีพหลัก

ไม่มีงาน ขาดรายได้ มาแรมปี นำเงินเก็บออกมาใช้ใกล้หมบัญชี จนเกิดความวิตกกังวล อาจจะไม่มีชำระค่าบ้าน เสี่ยงถูกฟ้องล้มละลาย ล่าสุด ปอยฝ้าย มาลัยพร เปิดเผยกับ Sanook.com ว่า ตอนนี้เขาเริ่มยิ้มได้บ้างแล้ว เมื่อกล้วยด่างที่ลงทุนซื้อมาปลูกกำลังให้ผลตอบแทนงดงามกลับมา

นักร้องขวัญใจมิตรหมอแคนแฟนหมอลำ เล่าว่า หลังจากงานคอนเสิร์ต งานละคร ถูกยกเลิก และเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะพิษการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ตัดใจนำเงินก้อนหนึ่งไปลงทุนซื้อหน่อกล้วยด่างมาปลูก

เฝ้าประคบประหงมดูแลอย่างดี จากการศึกษาด้วยตนเอง และเพื่อนๆ ผู้มีความเชี่ยวชาญการปลูกกล้วยด่าง จนเจริญเติบโตสามารถแยกหน่อขายได้ ด้วยการนำโพสต์ขายในกลุ่มผู้นิยมกล้วยด่าง ปรากฏว่าได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี มีการตกลงซื้อขายทันควัน และสั่งจองกันอย่างคึกคัก

ปอยฝ้าย บอกต่อว่า ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนกว่า เขาขายกล้วยด่างไปแล้วราว 5-6 หน่อ ในราคาหน่อละ 1-3 หมื่น โดยราคาขึ้นอยู่กับขนาด ทำให้มีเงินหมุนเวียนในบัญชี มีเงินเก็บไว้ชำระหนี้สิน จากที่เคยแห้งเหี่ยวมืดแปดด้าน เริ่มมีชีวิตชีวา มีกำลังใจสู้กับวิกฤต

เจ้าของเสียงร้องเพลง "มันต้องถอน" ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายเมื่อหลายปีก่อน บอกอีกว่า นอกจากกล้วยด่างแล้ว เวลานี้เขายังนำพันธุ์ไม้ที่จำหน่ายได้ราคาดีมาเพาะไว้ภายในบ้านอีกหลายชนิด ทั้งพันธุ์ไม้มงคล พันธุ์ไม้สวยงาม และพันธุ์ไม้ช่วยฟอกอากาศ เมื่อสมบูรณ์ได้ที่ก็จะนำออกมาจำหน่าย โดยเน้นไปที่การโพสต์ขายในกลุ่มเฉพาะผู้นิยมต้นไม้พันธุ์ต่างๆ

"ที่ปลูกอยู่ตอนนี้และขายได้แล้วก็มีกล้วยด่างหินอ่อน กำลังเริ่มสะสมเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นกล้วยแดงอินโดที่มีราคาซื้อขายกันสูงพอสมควร รู้สึกว่าเหมือนเขามาถูกที่ถูกเวลา พอขายได้มันทำให้เรารู้สึกว่าเริ่มมีหวัง มีหลายคนบอกว่ามาถูกทางแล้ว ผมก็คิดว่าผมเองมาถูกทางแล้วเหมือนกัน"

ปอยฝ้าย บอกด้วยว่า เขามีแผนที่จะพัฒนาการปลูกกล้วยด่าง และพันธุ์ไม้ที่จำหน่ายได้ราคาดี ให้เป็นอาชีพหลักรองรับอนาคต เพราะนับตั้งแต่งานคอนเสิร์ต งานละคร ถูกล็อคยาว อันเป็นผลกระทบมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีความรู้สึกไม่มั่นใจกับอาชีพนักร้อง นักแสดง เหมือนที่ผ่านมา

"ผมเป็นคนชอบปลูกต้นไม้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คิดว่าน่าเชื่อมได้ไม่ยาก ไหนๆ เราก็เริ่มต้นสวยแล้วก็จะทำต่อเนื่องนะ พอได้เข้ามาแล้วก็ออกยากจากต้นหนึ่งไปต้นสองต้นสาม ต่อไปพืชชนิดอื่นอีก คิดถึงขนาดต่อไปอาจจะตั้งชื่อว่ามาลัยพร"

"กับอาชีพนักร้องตอนนี้ไม่หวังเต็มร้อย นักแสดงก็ไม่เต็มร้อย เพราะเราไม่ใช่สายนักแสดงมืออาชีพ อนาคตไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก แวดวงบันเทิงจะเป็นยังไง แต่เราก็ไม่หยุดสร้างผลงานเพลงออกมานะ ที่ผ่านมาแนวเพลงอินดี้มาแรง แต่เดี๋ยวนี้เริ่มมีกลิ่นอายหมอลำกลับมาอีกแล้ว"