เล่าชีวิตต้องสู้! ทั้งน้ำตา "ยูกิ เพ็ญผกา" นางเอกหมอลำลูกครึ่งญี่ปุ่น
"ยูกิ เพ็ญผกา" นางเอกหมอลำดาวรุ่งมาแรง แห่งคณะหมอลำ "นามวิหค" เล่าเส้นทางชีวิตก่อนจะสมหวังได้เป็นนางเอกหมอลำตั้งแต่อายุเพียงแค่ 13 ปี มิตรหมอแคนแฟนหมอลำรักและเอ็นดูเปย์มาลัยให้คืนหลายหมื่น เจอด่านทดสอบสุดหินหลายด่าน และทางเดียวที่ทำให้ผ่านมาได้ คือ "ต้องสู้"
ยูกิ เล่าให้ Sanook.com ฟังว่า เธอเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น คุณพ่อเป็นชาวญี่ปุ่น คุณแม่เป็นชาว จ.ชัยภูมิ แต่แทบไม่มีภาพจำของผู้ให้กำเนิด "คุณพ่อท่านเสียชีวิตตั้งแต่หนูเกิด" ก่อนมีพ่อเลี้ยงอดีตนักร้องนักดนตรีวงหมอลำซิ่ง เขามาเติมเต็มความอบอุ่น และสอนร้องหมอลำ จุดประกายความฝันให้อยากเป็น "นางเอกหมอลำ" ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หรือ ตอนมีอายุได้ 9 ขวบ
"พ่อกับแม่พาเดินสายประกวด เกือบทุกจังหวัดเลยค่ะ ออกรายการทีวีด้วย"
ยูกิเล่าย้อนต่อไปว่า เส้นทางศิลปินของเธอเริ่มเป็นรูปร่างเมื่อตอนอายุ 11 ขวบ พ่อแม่สนับสนุนให้เป็นนักร้องรถแห่ เพราะอยากให้ลูกได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ เพื่อที่จะได้มีความเคยชินกับการแสดงบนเวที เมื่อมีโอกาสได้ขึ้นเวทีใหญ่ๆ จะได้ไม่ตื่นเต้น ก่อนมาสมัครเป็นสมาชิกคณะหมอลำ "นามวิหค"
"ปีแรกๆ ยังไม่ได้เป็นนางเอก ก็หาประสบการณ์มาเรื่อยๆ ยากมากค่ะ ไม่มีอะไรง่าย ไม่มีอะไรสะดวกเลย"
"นอนกลางดิน กินกลางทราย ขับถ่ายกลางทุ่งนา"
ยูกิฉายภาพให้เห็น ความสำเร็จมิได้ ได้มาง่ายๆ แต่เมื่อมุ่งมั่นที่จะเป็นนางเอกหมอลำแล้ว ก็ต้องสู้
"พอมาปีที่ 2 พี่นก บอกว่าจะให้หนูเป็นนางเอกนะ"
"ดีใจและภูมิใจค่ะ มันเป็นความฝันของเด็กน้อยคนหนึ่ง เราได้ทำสิ่งที่เรารัก เราได้ทำงานแล้วนะ มีค่าจ้างด้วย"
หลังจากได้รับโอกาสทองจาก "นก พงศกร" หัวหน้าคณะหมอลำ "นามวิหค" ความสวยใสบวกกับความสามารถสะสมมาตั้งแต่วัยเยาว์ ทำให้เธอขยับขึ้นมาเป็นนางเอกหมอลำแถวหน้าในเวลาอันรวดเร็ว มิตรหมอแคนแฟนหมอลำแห่เปย์มาลัยน้ำใจไม่ขาดสาย บางคืนที่ทำการแสดงได้มาลัยน้ำใจมากกว่า 8 หมื่นบาท ซึ่งเธอยกรายได้ให้คุณพ่อคุณแม่ทุกบาททุกสตางค์
"รู้สึกว่าตัวเองมาไกลมาก เพราะว่าสู้กับปัญหาหลายอย่างมามากจริงๆ กับครอบครัว" ยูกิร่ำไห้เล่าทั้งน้ำตา
"แต่ก่อนเงินหายาก พ่อกับแม่เป็นหนี้เป็นสิน หนูเป็นเด็กแล้วนั่งฟัง จะทำยังไงให้พ่อกับแม่มีเงินมาใช้หนี้เขาให้ได้"
"มีครั้งหนึ่งที่เงินในกระเป๋าแม่เหลืออยู่แค่ 100 บาท แม่ก็ถามว่าจะทำยังไงดีวันนี้ จะหาเงินที่ไหนมาซื้อข้าวซื้อของ พอมาถึงจุดที่เราทำงานมีเงิน ช่วยท่านได้ รู้สึกดีใจจริง" ยูกิปล่อยโฮเมื่อพูดมาถึงจุดนี้
บนเส้นทางศิลปิน ก่อเกิดจากใจมุ่งมั่น ที่จะสืบสาน "หมอลำ" ศิลปะการแสดงประจำถิ่นอีสานบ้านเกิด ยูกิเล่าว่า มีบ่อยครั้งที่โดนเหยียดหยาม แต่เธอเลือกที่จะไม่แคร์ เดินหน้าสู้ต่อไปบนเส้นทางที่เลือกแล้ว
"ก็มีบ้างค่ะที่เขาพูด อุ๊ยเป็นหมอลำเหรอ ก็แค่เต้นกินรำกินนะ เป็นได้แค่กะXX นะ มึงไปได้ไม่ไกลหรอก เดี๋ยวได้กับนักดนตรี ได้กับอะไรในวง"
"ก็ไม่ได้แค่ค่ะ แล้วแต่เขาจะคิดไป เพราะเราไม่ได้เป็นแบบที่เขาพูด หมอลำนี่มีคุณค่าทางจิตใจ และเป็นเอกลักษณ์ของคนอีสานด้วย"
"หมอลำที่ท่านอายุมากแล้ว ก็อาจจะมีตายไปบ้างนะคะ ถ้าไม่มีคนรุ่นใหม่ๆ หรือว่าเด็กรุ่นหนู มาช่วยกันสืบสาน ศิลปวัฒนธรรมของคนอีสานมันก็จะอยู่ได้ไม่นาน"
ในการพูดคุยกันครั้งนี้ ยูกิ บอกทิ้งท้ายว่า ทำนองของหมอลำ มีหลายทำนองมาก เธอยังรู้ไม่ถึงครึ่งของที่มีอยู่ อยากรู้เรียนรู้เรื่องศาสตร์และศิลป์ของการแสดงหมอลำให้แตกฉาน เพราะคิดว่าจะอยู่ในเส้นทางสายนี้ไปตลอดชีวิต เมื่อมีอายุมากขึ้นก็จะผันตัวเองไปเป็นครูสอนหมอลำ
"เราได้เข้ามาแล้ว เราได้ทำในสิ่งนี้แล้ว ต้องทำให้มันสุด"
"เทียวทางบ่สุดเส้น บ่ถอยหลังให้คนย่ำ"
"หมายถึงว่า ถ้าเราเดินทางไปในสายที่เราชอบ เราไม่ถึงเป้าหมาย เราจะไม่มีวันกลับมาให้คนที่เคยดูถูกเรา กลับมาเหยียดหยามเรา"
"ยากไม่ได้หมายความว่า เป็นไปไม่ได้ แต่หมายความว่า คุณต้องพยายามให้มากขึ้น"
อัลบั้มภาพ 22 ภาพ