โอ๊ต ปราโมทย์ ปล่อยอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกในรอบ 20 ปี พร้อมดึง 3 ศิลปินดังร่วมงาน

หลายปีที่ผ่านมาทุกคนคงได้เห็นความสำเร็จของ โอ๊ต-ปราโมทย์ ปาทาน ไม่ว่าจะในบทบาทของพิธีกร, Influencer, นักแสดง, Content Creator หรือแม้แต่การเป็นบอสแห่งโคตรคูล แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่เขารักที่สุดยังคงเป็น “การร้องเพลง” และวันนี้ โอ๊ต ปราโมทย์ กำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักตัวตนของเขาให้มากยิ่งขึ้นผ่าน แก่น First Solo Album ที่เป็นหนึ่งเป้าหมาย และความภูมิใจในอาชีพ “นักร้อง” ของพ่อหมี

แก่น คืออัลบั้มเดี่ยวแรกในรอบ 20 ปีบนเส้นทางดนตรีของ โอ๊ต ที่จะทำให้เราได้รู้จักตัวตนในทุกแง่มุมของเขาให้ลึกถึงแก่น ผ่าน 10 เพลงมีความหมาย ที่เขาได้เข้าไปมีส่วนร่วมแบบเต็มตัว ตั้งแต่การวางคอนเซ็ปต์, เลือกศิลปิน-โปรดิวเซอร์-นักดนตรีมาร่วมงาน ไปจนถึงงานปกอัลบั้มที่ทุกคนได้เห็นกันไปแล้ว แม้จะยากและเหน็ดเหนื่อย แต่ความตั้งใจตลอด 1 ปีของการเตรียมงาน ก็ทำให้ แก่น ออกมาเสร็จสมบูรณ์ตามที่ตั้งใจไว้

โดย โอ๊ต ปราโมทย์ กล่าวว่า "สำหรับภาพรวมของอัลบั้ม “แก่น” จะมีความ Variety POP ที่ให้ความสนุกจากแนวเพลงที่หลากหลาย ทั้งป็อป อาร์แอนด์บี ไปจนถึงความร็อคแบบอังกฤษ โดยได้ร่วมงานกับ 3 ศิลปินอย่าง ซานิ เพื่อนสนิทที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอด แต่ยังไม่เคยทำเพลงด้วยกันสักครั้ง, MILLI แร็ปเปอร์สาวน้อยคนเก่งที่ผมชื่นชมในความสามารถ และ URBOYTJ ผู้เป็นดั่งลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ที่นอกจากจะเข้ามาช่วยในหลายส่วนแล้ว ยังช่วยส่งเพลงทั้งหมดไป Mastering ให้ถึงอเมริกา และยังเป็นเหมือนแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมอยากทำงานเพลงในรูปแบบอัลบั้ม"

สำหรับการทำงานในส่วนดนตรี โอ๊ตก็เผยว่า "ในพาร์ทดนตรี ผมได้ชวน 6 โปรดิวเซอร์มือฉมังของวงการเพลง ทั้ง เจนพัฒน์ จาก Madpuppet Studio, ปู๋ ปิยวัฒน์ (ปู๋ วง Hens), โฟร์ ประทีป (โฟร์ วง Hens), แม็ค ศรัณย์, ก๊อป โปสการ์ด และ ฟองเบียร์ มาช่วยเติมเรื่องราวให้เป็นแก่นที่สมบูรณ์ ซึ่งหนึ่งความพิเศษคือ ในอัลบั้มนี้ จะมี 4 เพลงที่เป็นฝีมือการเขียนเนื้อร้องของผมเองอย่างเป็นทางการด้วย" 

และโอ๊ตก็ได้ทิ้งท้ายว่า "ไม่ว่าเราจะรู้จักกันในฐานะอะไร แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่ผมรักที่สุด คือ การร้องเพลง เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้ผมได้เข้ามาอยู่ในวงการ และเริ่มต้นเป็นที่รู้จักในชื่อ โอ๊ต ปราโมทย์ ก็จากการเป็นนักร้อง ในวันนี้วันที่อัลบั้มนี้เสร็จ สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นที่สุด คือ คนฟังเพลงในอัลบั้มนี้แล้วมีความสุข ฟังแล้วรู้สึกว่านี่แหละคือแก่นของ โอ๊ต ปราโมทย์ จริงๆ"