INVU : อัลบั้มใหม่ของ "แทยอน" ที่ฟังแล้วอยากบอกว่า ไอ-เลิฟ-ยู โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง
แทยอนแห่งวง Girls’ Generation เจ้าของฉายา ‘โวคอลควีนที่เชื่อใจได้’ กลับมาอีกครั้งกับอัลบั้มเต็มชุดที่สาม INVU (2022) เป็นผลงานที่ผู้เขียนค่อนข้างลุ้นพอสมควร เพราะถึงแม้จะโต (หรือที่จริงควรใช้คำว่า ‘แก่ตัว’) มากับศิลปินค่าย SM ทว่าตั้งแต่ยุค 2020 เป็นต้นมาก็ตามเพลงประหลาดล้ำของศิลปินเจน 4 ไม่ค่อยจะทัน โชคดีว่าภาพรวมของ INVU เป็นเพลงที่ไม่ได้ทดลองจนเกินไป แต่ก็ยังมีความท้าทายในตัวเอง
เพลงไตเติ้ลของอัลบั้มชื่อว่า INVU เช่นเดียวกัน มาในแนวเพลงเฮ้าส์ผสมป๊อปแดนซ์เลิศหรู ซึ่งกับเหมาะกับแทยอนที่ตอนนี้อายุเลขสามนำหน้าแล้ว เจ้าตัวเองบอกว่าได้ฟังเดโมครั้งแรกก็ชอบทันที อย่างที่รู้กันว่าจริงๆ แล้วแทยอนไม่ได้ชอบเพลงน่ารักๆ แบ๊วๆ สักเท่าไร (อย่างพวก "Gee" หรือ "Kissing You") แต่เธอชอบเพลงที่มีความเป็นผู้ใหญ่เสียมากกว่า
เนื้อหาของ "INVU" น่าสนใจและเขียนเนื้อได้ออกมามีชั้นเชิงมาก มันว่าการติดกับดักทางความรัก รู้ว่าความสัมพันธ์นี้จะทำร้ายเรา แต่ก็ถอนตัวออกมาไม่ได้ หรือเมื่ออีกฝ่ายสูญเสียเราไป เขากลับยิ่งเปล่งประกายขึ้นมา ฉันเลยรู้สึกอิจฉาเธอเสียเหลือเกิน (INVU คือ I envy you = ฉันอิจฉาคุณ) แทยอนให้สัมภาษณ์ว่า "INVU" เป็นเพลงที่เธอชอบที่สุดในอัลบั้ม “วิธีการที่ฉันเข้าหาความรักก็คล้ายกับเพลงนี้แหละค่ะ ฉันรู้สึกว่าตัวเองยึดติดกับมันมากเกินไป”
ส่วนมิวสิควิดีโอ "INVU" กำกับโดย HIGHQUALITYFISH ที่เคยฝากฝีมือไว้ในเอ็มวีสุดล้ำ "BAD LOVE" ของ KEY (ซึ่งแทยอนกับคีย์ก็เป็นเพื่อนซี้กัน) บรรยากาศออกไปทางสวยลึกลับ ผสมไซไฟเข้ากับเทพปกรณัมกรีก แทยอนน่าจะเป็นอาร์ทิมีส (Artemis) เทพีแห่งดวงจันทร์ผู้ถือคันธนู มีฉากที่เธอยิงธนูใส่ดวงจันทร์ อาจหมายถึงการพยายามทำลายให้ความรักนี้จบลง (คำว่า moon ยังถูกใช้ในสำนวนความรักมากมาย เช่น I love you right up to the moon หรือ You are the moon in my heart) ทว่าดูเหมือนเธอจะทำไม่สำเร็จ แถมธนูเหล่านั้นยังย้อนกลับมาทำร้ายเธอ
สำหรับคอนเซ็ปต์ของอัลบั้ม INVU แทยอนอธิบายว่ามันคือบอกเล่าถึงความรัก แต่ด้วยสไตล์และวิธีการสื่อสารที่แปลกใหม่ออกไป จึงไม่น่าแปลกใจที่โทนของอัลบั้มชุดนี้จะป็อปน้อยกว่าผลงานที่ผ่านมา ฟังครั้งแรกอาจไม่ค่อยติดหูเท่าไร แต่ลองฟังรอบสองรอบสามก็พบว่าภาคดนตรีมีอะไรให้ค้นหาได้เรื่อยๆ แทยอนเล่าว่าเธออยากจะแสดงถึงเฉดของความรู้สึกที่หลากหลาย โดยไม่ให้มันชัดเจนหรือเดาง่ายจนเกินไป “ฉันอยากจะถ่ายทอดเพลงเหล่านั้นในแบบที่มีนัยซ่อนเร้นหน่อยน่ะค่ะ” เธอกล่าว
มาว่าถึงเพลงอื่นๆ ในอัลบั้ม INVU ที่น่าสนใจกันบ้าง ส่วนตัวแล้วผู้เขียนชอบเพลง "Siren" ที่เป็นจังหวะซินธ์ป๊อปแบบชวนฝัน เนื้อหาเหมือนเป็นด้านตรงข้ามกับเพลง "INVU" ว่าด้วยการเตือนอีกฝ่ายว่าหากตกหลุมรักฉัน เธอจะพาตัวเองถลำลึกจนถอนตัวไม่ขึ้น ลองฟังเสียงไซเรนที่คอยเตือนภัยนั่นสิ ("Siren" ยังเป็นปีศาจในเทพปกรณัมกรีกที่สะกดจิตคนด้วยเสียง) เนื้อเพลงยังเล่นกับคำว่า Siren/Silence อย่างชาญฉลาด ประมาณว่าหากไม่สนใจเสียงไซเรน เธอก็จะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย เธอจะถูกปกคลุมด้วยความเงียบงัน และถูกกักขังอยู่กับฉันไปตลอดกาล
ใช่ว่า INVU จะมีแต่เพลงดาร์คๆ เพลงสว่างเชิงบวกก็มีอยู่ อย่างเช่น "Timeless" เพลงซินธ์ป๊อปที่มีกลิ่นอายเรโทรเล็กน้อย ว่าด้วยคนสองคนที่อยากให้ห้วงเวลาที่ใช้ด้วยกันคงอยู่ไปตลอดกาล (แถมยังเชื่อมโยงกับเพลง Siren เพราะมีท่อนที่บอกว่า “ไม่ต้องกลัวเสียงไซเรนที่ก้องกังวาล ไม่มีอะไรทำให้เราแหลกสลายได้”) ตัวเพลงย้ำว่าเสียงของฉันจะอยู่ในใจเธอชั่วนิรันดร์ ซึ่ง ‘เสียง’ เป็นอีกคีย์เวิร์ดสำคัญของอัลบั้มชุดนี้ แทยอนบอกว่าเธอพยายามพัฒนาวิธีการร้องในช่วงบันทึกเสียง “ฉันพยายามถ่ายทอดอารมณ์ต่างๆ ผ่านเสียงร้องของฉันค่ะ ฉันร้องเนื้อเพลงทั้งหมดราวกับเป็นเรื่องในชีวิตจริง”
อัลบั้มปิดท้ายด้วยเพลง Ending Credits ซึ่งสะเทือนอารมณ์พอสมควร ด้วยภาคดนตรีที่เน้นเสียงดรัมแมชชีนและซินธิไซเซอร์หลายชั้น ส่วนเนื้อเพลงพูดถึงเรื่องราวที่มาถึงจุดจบ ทว่าเมื่อนั่งดูเอนด์เครดิต มันกลับมีแต่ชื่อฉัน หากไม่มีชื่อเธอ อย่างไรก็ดี ถึงช่วงแรกของเพลงจะดูเป็นเรื่องของคนไม่มูฟออน มัวหัวเราะร้องไห้กับหนังเรื่องเดิม แต่เนื้อเพลงช่วงท้ายบอกเล่าถึงการยอมรับว่ามันจบลง และก้าวสู่เรื่องราวบทใหม่ของชีวิต
ผู้เขียนคิดว่า INVU เป็นอัลบั้มที่สะท้อนตัวตนของแทยอนได้เป็นอย่างดี มีข้อสังเกตว่าอัลบั้มทั้งสามชุดของเธอ "My Voice" (2017), "Purpose" (2019) และ "INVU" (2022) จะเป็นแทยอนร้องคนเดียว ไม่มีศิลปินรับเชิญสักเพลง นอกจากนั้นมันยังดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้อง มีความเติบโตทั้งด้านทำนองและเนื้อเพลง ตรงกับที่แทยอนบอกว่าอัลบั้มชุดนี้คือการเดินทางค้นหาตนเอง ยิ่งออกอัลบั้มเธอก็ยิ่งเห็นทิศทางอาชีพชัดขึ้น มันทำให้เธอกล้าจะลองอะไรที่แปลกใหม่และแตกต่าง ซึ่งเธอไม่หลงทางก็เพราะมีเข็มทิศที่เชื่อถือได้มากที่สุด...นั่นคือตัวเธอเอง
____________________
ผู้เขียน - คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง
(Kanchat Rangseekansong)
เปิดโลกดนตรีและไอดอลกับคันฉัตร
อัลบั้มภาพ 4 ภาพ