สนุกจนหายคิดถึง! VICTON ไอดอลเกาหลีกลุ่มแรกกับงานแฟนมีตติ้งที่ไทยหลังโควิด-19
มาแล้วอลิซจ๋า~ VICTON ที่หนูอยากได้ มาเสิร์ฟให้ถึงที่พร้อมงานแฟนมีตติ้งเต็มรูปแบบใน 2022 VICTON Fanmeeting Chronograph in Bangkok เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2022 ที่ผ่านมา
สำหรับเราเป็นงานเกาหลีครั้งแรกในรอบ 2 ปี นับจากครั้งสุดท้ายที่ได้ร่วมชมคอนเสิร์ตของ จองยงฮวา ใน 2020 JUNG YONG HWA ‘STILL 622’ IN BANGKOK (งานนั้นคนก็เริ่มใส่หน้ากาก เริ่มวัดไข้ก่อนเข้าชมกันแล้ว) เรียกได้ว่าพอมีอีเมลเด้งมาว่า VICTON กำลังจะมีแฟนมีตติ้งที่เมืองไทย ถึงกับต้องอ่านอีเมล 2-3 รอบว่าเข้าใจไม่ผิด VICTON ตัวเป็นๆ จะบินมาหาแฟนๆ ชาวไทยจริงๆ
การบินมาที่เมืองไทยของ 6 หนุ่ม VICTON ได้แก่ ซึงซิก (Seungsik), ชาน (Chan), เซจุน (Sejun), ฮันเซ (Hanse), บยองชาน (Byungchan) และ ซูบิน (Subin) ในครั้งนี้ ตารางงานแน่นเอี๊ยด มีทั้งแฟนไซน์ แฟนมีตติ้ง 2 รอบ (รอบบ่าย-เย็น ทางเราได้ดูรอบเย็น) และมีงานร่วมกับ ยองแจ GOT7 ในวันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ต่อด้วย
เมื่อเป็นงานอีเวนท์เกาหลีงานแรกในรอบ 2 ปีก็ต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา ปัดฝุ่นกล้อง รื้อสกิลในการเดินทางไปติ่งออกไปติ่งออกมาใหม่ นอกจากความตื่นเต้นที่ได้ต้อนรับศิลปินต่างชาติด้วยแฮชแท็ก #WelcomeVICTONtoThailand แล้ว ยังต้องตื่นเต้นกับมาตรการในการรักษาความปลอดภัยในการลดการแพร่เชื้อระหว่างจัดงานอีกด้วย โดยทางผู้จัดให้ผู้ชมตรวจ ATK มาจากบ้าน เขียนชื่อพร้อมวันที่ตรวจลงบนที่ตรวจ ATK พร้อมวางบัตรประชาชนไว้ข้างๆ โชว์ให้เจ้าหน้าที่ดูก่อนเข้างาน ใครไม่ได้ตรวจมีบริการตรวจให้โดยเสียค่าบริการหน้างาน 250 บาท รวมถึงการจัดที่นั่งเว้นระยะห่างเหมือนในโรงภาพยนตร์ และอื่นๆ อีกเล็กๆ น้อยๆ ที่ทางทีมงานตั้งใจและพยยายามที่จะทำให้หน้างานดำเนินการไปได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยทุกภาพส่วน การเป็นงานแรกซึ่งอาจจะเป็นบรรทัดฐานที่สำคัญในการจัดงานของศิลปินต่างประเทศในไทยอาจจะเริ่มจากงานนี้เป็นงานแรกๆ
เวลา 18.00 น. หนุ่มๆ VICTON วิ่งออกมาตั้งแถว ทำการแสดงในเพลง “UNBELIEVABLE” และ “Sweet Travel” ก่อนจะได้นั่งพูดคุย เล่าเรื่อง TMI และตอบจดหมายแฟนๆ กันทีละคนกับดีเจคิว ผู้รับหน้าที่เป็นพิธีกรในงานนี้ นอกจากภาษาไทยน่ารักๆ อย่าง (ชาน) “ดีใจที่ได้เจอทุกคนอีกครั้งครับ”, (ฮันเซ) “สบายดีมั้ย”, (ซูบิน) “คิดถึงมากเลยครับ”, (ซึงชิก) “วันนี้สนุกแน่นอน”, (บยองชาน) “รักนะทุกคน”, (เซจุน) “เซจุนน่ารักมั้ย” แล้ว พิธีกรยังสอนประโยคไทยสุดฮิตในช่วงนี้ให้หนุ่มๆ พูดกับแฟนด้วยว่า “มาแล้วอลิซจ๋า วิคตันที่หนูอยากได้” ฟังแล้วยิ่งคิดถึงบรรยากาศแฟนมีตติ้งไอดอลหรือนักแสดงเกาหลีที่ต้องมาพูดภาษาไทยที่กำลังอินเทรนด์อยู่ในช่วงนั้นๆ ให้แฟนๆ ได้ฟังกันมากขึ้นไปอีก
หลังจากอ่านจดหมายที่แฟนๆ เขียนให้กันอย่างสนุกสนานแล้ว ก็เข้าสู่ช่วงเล่นเกมใบ้คำ จับคู่แล้วให้สมาชิกอีกคนใบ้คำปริศนาโดยให้ใช้แต่ท่าทาง ห้ามพูด และเกมตามหาคนโกหก โดยมีคำปริศนาที่มอบให้กับทุกคน แต่ละมีเพียง 1 คนที่ไม่ทราบคำปริศนานั้น แต่ต้องตีเนียนทำเป็นรู้โดยพยายามบอกคำใบ้ที่สื่อถึงคำนั้น แล้วให้จับผิดว่าใครกันแน่คือคนที่จริงๆ แล้วไม่รู้ว่าคำปริศนานั้นคืออะไร ซึ่งผลสุดท้ายได้สุดยอด MVP จากทั้ง 2 เกม ได้แก่ ฮันเซ ที่ใบ้คำได้เก่งมาก (ท่าไดโนเสาร์และนกกระจอกเทศ ทำเอาฮากันไปทั้งฮอลล์) และ ฮันเซ เลือกลงโทษน้องเล็ก ซูบิน โทษฐานที่เป็น Liar ในเกมตามหาคนโกหก ที่เป็นคนโกหกได้อย่างแนบเนียนจนพี่ๆ ตอบไม่ถูก (ในแฟนมีตติ้งรอบบ่าย ซูบิน ก็ได้เป็น Liar และหลอกพี่ๆ สำเร็จเช่นเดียวกัน) บทลงโทษของหนุ่มๆ จะได้โชว์กันในช่วงท้ายของงาน
ก่อนจะจากกันไป VICTON โชว์การแสดงบนเวทีทั้งเต้นทั้งร้องสดๆ แบบจัดเต็ม ทั้งเพลง “WANT ME” สุดเซ็กซี่ และ “Unpredictable” ที่หูเป็นทองคำกันไปทั้งฮอลล์ เพราะเราไม่ได้ยินเสียงสดๆ จากไมโครโฟนของศิลปินที่เรารักกันมานานมากแล้วจริงๆ พักทักทายกันเองระหว่างศิลปินและแฟนเพลงอยู่แปบเดียว หนุ่มๆ ก็แสดงต่อกับเพลง “FAREWELL”, เพลงล่าสุด “Chronograph” และปิดฉากอังกอร์ด้วย “WE STAY” ที่หนุ่มฮันเซ และซูบิน สวมวิกผมตลกๆ มาร้องเพลงเป็นการโดนทำโทษในแบบที่น่ารักที่สุด
งานแฟนมีตติ้งในวันนี้ ชาวอลิซ (ชื่อแฟนคลับ VICTON) คงหัวใจฟูและหายคิดถึงกันไปตามๆ กัน เพราะหนุ่มๆ จัดให้ตั้งหลายงานหลายวัน บินมาครั้งเดียวมีงานให้ทุกวันจนคุ้ม แน่นอนว่าหนุ่มๆ ก็เอนจอยกับการได้มาแสดงที่ต่างประเทศเช่นเดียวกัน สำหรับเรารู้สึกว่างานแฟนมีตติ้งรวมถึงทุกงานที่ VICTON มาในครั้งนี้ เป็นเพียงการอุ่นเครื่องถึงความพร้อมของศิลปินเกาหลีที่อาจจะเริ่มทยอยเดินทางมาพบปะพูดคุยหรือทำการแสดงคอนเสิร์ตในประเทศไทยกันอย่างจริงจังในอนาคตอันใกล้ เหมือนที่หนุ่มๆ VICTON พูดบนเวทีว่า พวกเขาจัดแฟนมีตติ้งในไทยมา 2 ครั้งแล้ว ครั้งหน้าก็อยากจะจัดคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบบ้าง ซึ่งเราก็หวังใจเหลือเกินว่าจะเป็นไปได้ตามที่เขาบอก เพราะเราเองก็เชื่อว่า VICTON มีของเด็ดมากพอที่จะปล่อยแบบไม่ยั้งผ่านการแสดงสดบนเวทีให้แฟนๆ ได้ชมกัน
แม้ว่าการจัดงานท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 จะมีข้อจำกัดพอสมควร ทั้งการห้ามส่งเสียงดัง ห้ามกรี๊ด ห้ามตะโกน ห้ามร้องเพลงตาม และอื่นๆ ทำให้การแสดงเป็นไปอย่างเงียบเชียบ มีแต่เสียงปรบมือที่ดังเป็นระยะๆ ให้กำลังใจหนุ่มๆ หรือแม้กระทั่งช่วงอังกอร์ก็มีแต่เสียงปรบมือตามจังหวะ แต่ผู้จัดไม่ลืมที่จะใส่กิมมิกเล็กๆ ช่วงอังกอร์โดยเปิดเพลง ขึ้นเนื้อร้อง และช่วงที่ต้องปรบมือเพื่อการอังกอร์ แทนการตะโกนออกมาเป็นคำๆ เหมือนแฟนชานต์ตามปกติ ถือว่าเป็นกิมมิกน่ารักๆ ที่พอจะทำให้งานไม่กร่อยได้อยู่บ้าง แต่ก็น่าเสียดายเล็กน้อยที่ช่วงเล่นเกมใบ้คำ ขึ้นคำบนจอกับคำที่หนุ่มๆ กำลังใบ้อยู่ไม่ตรงกันหลายครั้ง รวมถึงการหยิบจดหมายแฟนเพลงมาอ่าน แต่แฟนเพลงไม่อยู่ในงานด้วยเพราะอาจจะเป็นคนที่เข้าร่วมงานในรอบบ่าย (อาจจะเป็นไปได้ว่าทีมงานไม่ได้แยกรอบว่าจดหมายของใครอยู่รอบไหน) จึงทำให้น่าเสียดายแทนแฟนเพลงคนนั้นที่หนุ่มๆ อุตส่าห์ได้อ่านจดหมายของเขา แต่โดยรวมแล้วงานก็ยังดำเนินไปได้ด้วยดี และแต่ละคนก็อุ้มหัวใจฟูๆ ยิ้มกลับบ้านไปอย่างมีความสุข
แม้ว่าในวันที่ VICTON กำลังจะเดินทางกลับเกาหลี มีเหตุที่ทำให้แฟนๆ ตกใจกันเล็กน้อยเพราะเซจุนติดโควิด-19 โดยก่อนหน้านี้ผลตรวจเป็นลบมาตลอด และเพิ่งมีผลตรวจเป็นบวกในวันที่เดินทางกลับไทย ในช่วงระยะเวลา 3-4 วันที่อยู่ในไทยยังอาจบอกไม่ได้แน่ชัดว่าติดเชื้อจากที่ไหนกันแน่ แต่อาจทำให้ผู้จัดงานในไทยต้องคิดถึงความปลอดภัยของศิลปิน รวมถึงแฟนคลับ ทีมงาน สื่อมวลชน และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดว่า ในการจัดงานครั้งต่อๆ ไป จะต้องมีมาตรการควบคุมการระบาดของโรคอย่างไรได้บ้างให้รัดกุมมากกว่านี้ แม้อาจจะมองได้ว่าครั้งนี้อาจเป็นเหตุสุดวิสัยเหนือการควบคุมของทีมผู้จัดจริงๆ ก็ตาม แต่อย่างไรก็เพื่อเป็นบรรทัดฐาน เป็นการเริ่มต้นการจัดงานของศิลปินต่างประเทศในไทยอย่างเป็นทางการ และอาจจะต้องรองรับการจัดงานอื่นๆ ที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นทั้งตัวงานและจำนวนผู้เข้าชมในอนาคต
สำหรับเรา ขอเป็นกำลังใจให้กับทีมผู้จัดงานทุกคนที่แผนว่าจะจัดงานของศิลปินต่างประเทศไทย เป็นโจทย์ที่ยากมากขึ้นกว่าเดิมนอกเหนือไปจากข้อจำกัดต่างๆ ที่แต่เดิมก็มีมากมายอยู่แล้ว แต่หากทีมผู้จัดทำได้ คนไทยก็จะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไปกับการได้รับชมโชว์ดีๆ จากศิลปินที่พวกเขารัก มาเติมเต็มรอยยิ้มให้กับคนไทยให้ใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงกับชีวิตเดิมที่เคยมีได้มากขึ้นเช่นกัน
อัลบั้มภาพ 9 ภาพ