Limp Bizkit กับคอนเสิร์ตที่ไม่เกิดขึ้นจริงในไทย โดย อนุสรณ์ สถิรรัตน์
ช่วงปี 1990 ถึง 2000 เป็นช่วงเวลาหนึ่งทศวรรษที่วงการคอนเสิร์ตสากลบ้านเราคึกคักมากเป็นพิเศษ มีศิลปินต่างประเทศเดินทางมาเปิดการแสดงมากมายนับไม่ถ้วน ตั้งแต่ระดับบิ๊กเนมอย่าง Michael Jackson, Santana, Whitney Houston, Red Hot Chili Peppers หรือวงเมนสตรีมแห่งยุค เช่น Pearl Jam, Beastie Boys, Incubus ช่วงปลายยุค '90s ถึงกลางยุค 2000 กระแสดนตรี Nu Metal ได้รับความนิยม วง Korn, Limp Bizkit, Linkin Park, Slipknot ต่างประสบความสำเร็จไปทั่วโลกทั้งจากอันดับเพลง ยอดขายอัลบัม และออกตระเวนทัวร์อย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย
4 วงที่กล่าวถึงปลายย่อหน้าข้างบน ล้วนเป็นวงในกระแส Nu Metal อันเป็นที่หมายปองของแฟนเพลงชาวไทยที่จะได้เห็นพวกเขาเล่นไลฟ์ตรงหน้าที่กรุงเทพฯ ในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่าน หากนับตั้งแต่ปี2000 เป็นต้นมา แฟนเพลงชาวไทยได้ดูคอนเสิร์ตวงระดับเมนสตรีมมากมาย มีโปรโมเตอร์ที่แข็งแกร่งอย่าง BEC-Tero เป็นหัวหอกในการนำศิลปินต่างประเทศมาเล่นคอนเสิร์ตในบ้านเรา ขณะที่วงรุ่นเก่าและใหม่เอี่ยมก็สลับหน้ากันมาเล่นแทบไม่ขาดสายเลย
ภาพบัตรคอนเสิร์ตที่เห็นของ Limb Bizkit นี้ เป็นบัตรจริงที่ทำออกเพื่อจำหน่ายและแจกจ่ายแก่แฟนเพลงและสื่อมวลชนเรียบร้อยแล้ว บางส่วนก็แจกจ่ายไปถึงมือสื่อแล้วด้วย เพราะ Limp Bizkit มีกำหนดมาเปิดการแสดงที่อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี ในวันที่ 7 ธันวาคม 2546 หรือ 2003 นั่นเอง แน่นอนว่าโปรโมเตอร์หลักก็คือ BEC-Tero Entertainment และสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ยักษ์ใหญ่แห่งวงการบันเทิงยุคนั้น โฆษณาตามสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ หรือแม้แต่ Press Kit ถูกแจกจ่ายไปแล้ว ทุกอย่างพร้อมเต็มที่กับคอนเสิร์ตนี้ เช่นเดียวกับแฟนเพลงที่ซื้อบัตรคอนเสิร์ตมาแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันความผิดหวัง
แต่ก็เหมือนฟ้าผ่าตอนกลางวัน การทัวร์เซาธ์อีสต์ เอเซียในครั้งนั้นถูกยกเลิกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นที่อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และประเทศโหมด ขณะเดียวกัน พวกเขายังไปเล่นคอนเสิร์ตตามโปรแกรมที่กำหนดไว้ต่อจากนั้น คือที่กรุงโซล เกาหลี วันที่ 11 ธ.ค. ไปปิดฉากที่โอซากา ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 18 ธ.ค. แล้วกลับไปทัวร์สหรัฐฯต่อในวันที่ 23 ธ.ค. โดยเริ่มที่ฟิลาเดลเฟีย มันเป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นจากข่าวและการรักษาความปลอดภัยของสหรัฐฯ ประเทศเดียว เนื่องจากก่อนหน้านั้นไม่นาน กรุงอิสตันบุล ประเทศตุรกีถูกผู้ก่อการร้ายวางระเบิดเสียหายหนัก ผู้คนล้มตาย โดยพุ่งเป้าไปที่การล้างแค้นนโยบายปราบผู้ก่อการร้ายของรัฐบาลสหรัฐฯ นั่นเอง
อันที่จริง ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับกลุ่มประเทศแถบตะวันออกกลางก็เกิดขึ้นหลังจากเกิดโศกนาฏกรรม 9/11 ในปี 2001 เป็นต้นมา ดูเหมือนว่าสหรัฐฯ ต้องระมัดระวังตัวไปหมด ชาวอเมริกันที่อยู่ต่างประเทศหรือเดินทางไปต่างประเทศแทบไม่มีหลักประกันในความปลอดภัยเหมือนก่อน
ความคาดหวังของแฟนเพลงพังทลายสิ้น ชนิดที่ยากแก่การเยียวยา แม้ว่าภายหลังวงสัญญาว่าจะกลับมาให้ได้ แต่การณ์กลับกลายเป็นว่าพวกเขาไม่เคยบินโฉบมาแถบเซาธ์อีสต์ เอเซียอีกเลย ทุกคนที่เฝ้าฝันต่างรอเก้อกันหมด แต่ก็ยังดีที่วงแฟนเพลงรออย่าง Korn, Slipknot, Linkin Park มาเล่นคอนเสิร์ตท่ามกลางแฟนเพลงจำนวนมหาศาลสมความตั้งใจในปี 2004 และ 2005 ตามลำดับ กลายเป็นว่ามี Limb Bizkit เพียงวงเดียวที่ยังไม่เคยมาเหยียบแผ่นดินไทย ทั้งที่ทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว
แม้จะบอกว่าศิลปะสายดนตรีไม่เกี่ยวกับปัญหาทางการเมืองหรือสถานการณ์โลก แต่ท้ายที่สุด มันก็ต้องเกี่ยวกันจนได้ เพราะเราได้ฟังเพลงที่ต่อต้านสงคราม ต่อต้านการเหยียดผิด ต่อสู้เพื่อความเสมอภาคของมนุษย์มาแล้วมากมายจากเพลงของศิลปินนับไม่ถ้วน
ปัจจุบัน Limp Bizkit ยังคงเล่นดนตรีและออกผลงานอยู่ อัลบัมล่าสุดชุดที่ 6 ชื่อ Still Sucks ออกปี 2021 ทิ้งช่วงจากอัลบั้มก่อนหน้าถึง 10 ปี ยังคงเป็นที่รักใคร่ของแฟนเพลงรุ่นเก่าและรุ่นใหม่อยู่ และอย่าเพิ่งสิ้นหวังกับการมาเยือนเมืองไทยของ Limp Bizkit ตราบใดที่แฟนเพลงในไทยยังเกาะกลุ่มกันเหนียวแน่นอยู่เช่นเดิม
Set List ของ Limp Bizkit ที่คาดว่าจะเล่นที่กรุงเทพฯ หากคอนเสิร์ตครั้งนี้ไม่ถูกยกเลิก (จากไลฟ์ที่ไซตามะ ญี่ปุ่น 13 ธ.ค. 2003) เห็นแล้วก็ได้แต่รำพึง เสียดาย เสียดาย
01 Re-Entry
02 My Generation
03 Break Stuff
04 Hot Dog
05 My Way
06 You Know You're Right (Nirvana Cover)
07 Eat You Alive
08 Behind Blue Eyes (The Who Cover)
09 Take a Look Around
10 Phenomenon
11 Head for the Barricade
12 Counterfeit
13 Underneath the Gun
14 Nookie
15 Faithe (George Michael Cover)
Encore
16 Nevermind
17 Almost Over
18 Rollin' (Air Raid Vehicle)