บทสัมภาษณ์ "ซูโฮ" ผลงานใหม่ในรอบ 2 ปี แนวเพลงที่ชอบ และฉลองครบ 10 ปี ของ EXO
การกลับมาในรอบ 2 ปีกับมินิอัลบั้มชุดที่สอง Grey Suit ของผู้ชายที่ชื่อ ซูโฮ (SUHO) มาในภาพลักษณ์ที่เป็นผู้ใหญ่ พร้อมผลงานเพลงที่มีความหลากหลายทางอารมณ์และแนวดนตรีที่เขาบรรจงเลือกสรรเองกับมือหลังจากได้เรียนรู้ถึงความชอบของตัวเองอย่างถ่องแท้จากการฟังเพลงและคลุกคลีอยู่ในวงการเพลงมาตลอด นอกจากแนวดนตรีแล้ว เขายังลงมือแต่งเพลงเองจากการได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่เกิดขึ้นรอบข้าง รวมถึงประสบการณ์ต่างๆ หลังรับใช้ชาติ เพื่แบ่งปันมุมศิลปินที่เติบโตขึ้นของเขาให้กับแฟนๆ ได้ฟังกัน
ซูโฮ เปิดเผยถึงรายละเอียดของเพลงในอัลบั้ม Grey Suit โดยมี ไค (KAI) สมาชิก EXO คนสนิทเป็นพิธีกรดำเนินรายการ รับรองว่าได้คำตอบที่แสนจะจริงใจ อบอุ่น และเป็นกันเองตามแบบฉบับของซูโฮแน่นอน
Grey Suit เป็นผลงานโซโล่มินิอัลบั้มใหม่ในรอบ 2 ปีของคุณ และถือเป็นกิจกรรมแรกหลังจากปลดประจำการ รู้สึกอย่างไรบ้างกับคัมแบ็กครั้งนี้?
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า คิดถึงแฟนๆ ของผม และทุกๆ คนมากเลยครับ ผมเริ่มเตรียมงานของมินิอัลบั้มนี้ทันทีที่ปลดประจำการ เพราะว่าผมเองก็อยากพบกับแฟนๆ โดยเร็วที่สุดครับ ผมค่อนข้างประหม่าตอนที่ได้เดบิวต์โซโล่ และอัลบั้มนี้ก็เป็นเหมือนการเริ่มต้นใหม่ แต่เพราะว่าผมเคยทำการแสดงเดี่ยวบนรายการเพลงสำหรับอัลบั้มที่ผ่านมา ผมเลยรู้สึกคุ้นชินอยู่บ้างครับ
อย่างไรก็ตาม ผมยังรู้สึกประหม่าเล็กน้อย เพราะอัลบั้มนี้เป็นการเริ่มต้นใหม่ครับ ผมสามารถตอบแทนแฟนๆ ที่เฝ้ารอผมด้วยผลงานนี้ ซึ่งรวบรวมสีสันอันมากมายของผม และสิ่งที่ผมอยากจะบอกเล่าในตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น ผมหวังว่าแฟนๆ จะชื่นชอบกันนะครับ
แนะนำเกี่ยวกับมินิอัลบั้ม Grey Suit
Grey Suit เป็นมินิอัลบั้มที่มีทั้งหมด 6 เพลง รวมถึงเพลงไตเติลที่ใช้ชื่อเดียวกับอัลบั้มนี้ครับ โดยประกอบไปด้วยแนวเพลงที่หลากหลาย ทั้ง Modern Rock, Britpop และ Rock Ballad ที่เป็นเสียงของวงดนตรีในแบบที่ผมชอบ และสนุกกับการฟังครับ มันเป็นมินิอัลบั้มที่เหมาะกับฤดูใบไม้ผลิสุดๆ เลยครับ
นอกจากผลงานมินิอัลบั้มก่อนหน้า Self-Portrait คุณยังมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์คอนเซ็ปต์ของอัลบั้มนี้ รวมถึงมีส่วนร่วมในการเขียนเพลงทั้งหมด อยากให้เล่าถึงประสบการณ์ในการทำงานครั้งนี้
เมื่อเทียบกับช่วงที่ผมทำกิจกรรมโปรโมตถี่ๆ แล้ว ถือว่าผมมีเวลาให้กับตัวเองเยอะมากในช่วง 2 ปีที่ผมเข้ากรมฯ ครับ นั่นเลยเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงทำอัลบั้มนี้มาในธีมของ "เวลา" ไปจนถึงมีส่วนร่วมในการเขียนเนื้อเพลงทุกเพลง และวางแผนคอนเซ็ปต์ของอัลบั้มด้วยครับ
สำหรับมินิอัลบั้มชุดนี้ ผมได้รับแรงบันดาลใจมาจากนวนิยายเรื่อง Momo ของ Michael Ende ซึ่งเป็นหนึ่งในหนังสือที่ผมอ่านระหว่างที่อยู่ในกรมฯ ครับ ผมตระหนักถึงความสำคัญของเวลาและใช้เวลาเยอะมากในการคิดไตร่ตรองว่า จะรวมมันเข้ากับอัลบั้มนี้อย่างไรดี ในแบบที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
อย่างที่บางคนทราบ มินิอัลบั้ม Grey Suit ชุดนี้ ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก "บุรุษในชุดสูทเทา" ในนวนิยายเรื่อง Momo และช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้น ผมได้เห็นสมาชิกของผมกระตือรือร้นไปกับการโปรโมตอย่าง Don’t Fight The Feeling ผมรู้สึกเหมือนกับว่าโลกข้างนอกนั้นมีดูชีวิตชีวิตชีวา และลื่นไหลไปตามกาลเวลา ในขณะที่ช่วงเวลาของผมกลับหยุดนิ่ง ราวกับว่าผมติดอยู่ในห้วงเวลาสีเทาๆ นี่เลยเป็นเหตุผลที่ผมตัดสินใจให้มินิอัลบั้มชุดนี้ มีชื่อว่า Grey Suit ครับ
เล่าถึงเพลง "Morning Star"
"Morning Star" เป็นเพลงแนว Modern Rock ที่มีเนื้อเพลงบรรยายถึงความรู้สึกของการตั้งตารอ เมื่อคนคนหนึ่งตื่นขึ้นจากความฝัน และมาอยู่รวมตัวกับคนที่รอคอยมาตลอดครับ มันเป็นเพลงแรกของอัลบั้ม และมอบความรู้สึกที่ทำให้คุณเริ่มต้นวันใหม่ครับ
เพลงนี้มีอินโทรที่ค่อนข้างลึกซึ้ง ผมเลยเลือกให้เป็นเพลงแรกครับ ถึงแม้ว่าอินโทรจะมีความยาวถึง 35 วินาที และไม่ได้มีเสียงร้องเลยในระหว่างนั้น แต่มันก็ไม่ทำให้รู้สึกแปลกเลย และผมตั้งใจแต่งให้เป็นแบบนี้ขณะทำงานร่วมกับนักแต่งเพลงครับ
เมื่อตอนที่ผมอยู่ในกรมฯ ผมฝันว่ามีคอนเสิร์ตจริงๆ แต่พอตื่นขึ้นมา ผมกลับรู้สึกว่างเปล่าครับ มันเหมือนกับว่าโลกที่ผมอยู่นั้น คือ อยู่ในความฝัน แต่ความจริงกลับแตกต่างออกไปครับ ผมอยากย้อนกลับไปหาความฝันนั้น ผมเลยเขียนเนื้อเพลงลงในเพลงนี้ ด้วยความคิดที่อยากจะตื่นขึ้นมาไวๆ ทั้งจากความจริง ความฝัน เพื่อได้พบกับแฟนๆ ของผมเร็วๆ นี้ครับ
นี่เป็นเพลงแรกที่ผมอัดเสียง และผมเองก็ต้องการอัดเสียงเพลงนี้เป็นลำดับแรกเช่นกัน เนื่องจากเพลงนี้เป็นเพลงอินโทร และให้ความรู้สึกราวกับว่าผมกำลังเริ่มต้นใหม่ครับ เมื่อได้ฟังเพลงนี้ คุณจะรู้สึกถึงความตื่นเต้น และวูบวาบสุดๆ เลยครับ
เล่าถึงเพลง "Hurdle"
"Hurdle" เป็นเพลงลำดับที่สามของมินิอัลบั้มนี้ และเป็นเพลงแนว Pop-rock บรรยายถึงความปรารถนาที่อยากจะก้าวผ่านเวลา เพื่อวิ่งไปหาคนรักครับ โดยคุณจะได้ยินเสียงสภาพแวดล้อมและบรรยากาศอันอึกทึกของตัวเมืองโดยรอบในช่วงเริ่มเพลงครับ อีกทั้งยังมีหลากหลายแง่มุมที่จะทำให้คุณรู้สึกราวกับว่า คุณเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ แม้ว่าคุณจะหลับตาฟังเพลงนี้ก็ตามครับ
"Hurdle" ซึ่งหมายถึงอุปสรรค และเวลาก็เหมือนเป็นอุปสรรคต่อผม ดังนั้น ผมจึงเขียนเพลงนี้ด้วยความคิดที่อยากจะก้าวผ่านเวลานั้นครับ ระหว่างที่ผมอยู่ในกรมฯ ผมได้ดูการแข่งขันทั้งโอลิมปิกฤดูร้อนและฤดูหนาว ตอนที่ผมดูกีฬากระโดดข้ามรั้ว ผมรู้สึกได้ว่า มันอันตรายแค่ไหนเมื่อเห็นนักกีฬาบางคนล้มลง ผมเองอาจจะมุ่งเน้นไปที่เกมการแข่งขันมากกว่า เพราะนักกีฬาเหล่านั้น ไม่ใช่แค่วิ่งอย่างเดียว แต่ยังต้องเอาชนะอุปสรรคในเส้นทางของพวกเขาด้วย ซึ่งเป็นไปได้ที่จะพลาด และรู้สึกตึงเครียดเช่นเดียวกันครับ
ผมจำได้ว่า ผมจดคำว่า "Hurdle" ไว้ในสมุดบันทึกของผม และสำหรับผมแล้ว "อุปสรรค" (Hurdle) คือ ช่วงเวลา นั่นเลยเป็นที่มาของการเริ่มเขียนเพลงนี้ครับ
เพลง "Hurdle" เป็นเพลงที่สดใส ให้ความรู้สึกเบาๆ เมื่อเทียบกับเพลงอื่นในอัลบั้ม และให้ความรู้สึกแตกต่างจากเพลงไตเติลครับ ผมได้ถ่ายทำมิวสิกวิดีโอของเพลงนี้เรียบร้อยแล้ว หวังว่าแฟนๆ จะชอบกันครับ
เล่าถึงเพลง "Decanting"
"Decanting" เป็นเพลงแนว alternative Britpop ที่มีทำนองเย้ายวน พร้อมท่อนโซโล่กีตาร์ที่ติดหูครับ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผมมีงานอดิเรกใหม่ คือ การดื่มไวน์ ผมไม่ได้ดื่มอย่างอื่นเลยนอกจากไวน์ ดังนั้น ผมจึงมักเอาไวน์ไปงานเลี้ยง หรือเวลาที่ไปเจอกับสมาชิกครับ
ขณะที่ศึกษาเรื่องไวน์ ผมก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการ "Decanting" ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำให้ไวน์มีรสชาติดีขึ้นและนุ่มขึ้น ผมคิดว่า นี่ก็คล้ายความสัมพันธ์ระหว่างผมกับแฟนๆ ของเรา เพราะในตลอด 2 ปีที่ผ่านมา มันกลายเป็นความรู้สึกที่ทั้งลึกซึ้งและนุ่มนวลขึ้น นั่นคือสิ่งที่ผมอยากจะเขียนถึงครับ
บางส่วนของเนื้อเพลงที่ว่า "I can’t deny" และการออกเสียงนี้ ก็ไปคล้ายกับคำว่า "Decanting" ผมเลยเพิ่มลงไปในเนื้อเพลง เพราะคิดว่าเป็นการเล่นคำที่น่าสนใจดีครับ เพลงนี้น่าจะเป็นเพลงที่เซ็กซี่ที่สุดในอัลบั้มนี้ และผมพยายามนึกถึงอารมณ์อันเซ็กซี่ของ KAI ในขณะที่ร้องเพลงด้วยครับ
เล่าถึงเพลง "이리 溫 (Bear Hug)"
"이리 溫 (Bear Hug)" เป็นเพลงแนว Modern Rock พูดถึงความปรารถนาที่อยากปลอบโยนใครสักคน ที่กำลังเผชิญกับช่วงเวลาแห่งความเหงา ด้วยอ้อมกอดอันอบอุ่นครับ โดยคำว่า "on" ในชื่อเพลงนั้น เขียนด้วยตัวอักษรจีน และหมายถึง "ความอบอุ่น" ซึ่งสอดคล้องกับความปรารถนาจะมอบอ้อมกอดอันอบอุ่น และผมนึกถึงชื่อภาษาอังกฤษว่า "Bear Hug" ด้วย มันจึงมีความหมายเดียวกันกับ การกอดแน่นๆ ครับ
แนวคิดของเพลงนี้ มาจากการที่ได้เห็นนักเรียน คนทำงาน และคนทั่วไป ที่มีบางวันอยากกลับบ้านหลังจากหมดวัน แต่บางวันกลับรู้สึกไม่อยากกลับบ้านและทำบางสิ่งบางอย่างแทน แม้ว่าจะไม่มีอะไรให้ทำเป็นพิเศษก็ตาม มันเหมือนกับว่าพวกเขาหลงทางวกไปวนมา ผมเขียนเพลงนี้ด้วยความรู้สึกที่อยากมอบอ้อมกอดให้คนเหล่านั้น ผมเขียนเนื้อเพลงราวกับว่า กำลังร้องเพลงให้เด็กคนหนึ่งฟัง ดังนั้น ผมจึงพูดคุยกับนักแต่งเพลง และเราได้เพิ่มความเป็นเทพนิยาย และเสียงประกอบที่เหมือนเพลงสำหรับเด็ก อย่างการใช้ไซโลโฟนในช่วงต้นเพลงครับ
เล่าถึงเพลง "75분의 1초 (Moment)"
"75분의 1초 (Moment)" เป็นเพลงแนว Rock Ballad ที่มีเสน่ห์ พร้อมท่วงทำนองแบบบทกวีและเสียงกีตาร์ที่คล้ายกับเสียงเดินของเข็มนาฬิกาครับ ในภาษาเกาหลีนั้น ชื่อเพลงหมายถึง "1/75 ของวินาที" โดยมาจากคำศัพท์ทางพระพุทธศาสนาที่มีความหมายว่า ช่วงเวลาที่สั้นที่สุด ครับ
เพลงนี้เป็นเพลงที่ผมแต่งให้แฟนๆ เพื่อแสดงให้เห็นว่า ผมรู้สึกอย่างไร ในช่วงสุดท้ายของคอนเสิร์ต หลังจากแสดงเพลงอังกอร์ของเราทั้งหมดจบลงครับ ช่วงเวลามักผ่านไปเสมอใช่ไหมครับ? แต่ผมอยากบอกแฟนๆ ว่า ถ้าเราต้องการที่จะจดจำช่วงเวลานี้ เราก็สามารถจดจำมันไว้ในใจของเราได้ตลอดไปครับ มันเป็นเพลงที่อบอุ่น รวมถึงมีข้อความที่ผมอยากจะบอกกับแฟนๆ ว่า มารักกันต่อไปนะครับ
เล่าถึงเพลง "Grey Suit"
"Grey Suit" เป็นเพลง Progressive Rock ที่ผสมผสานเสียงของวงดนตรีกับไลน์สตริงครับ เนื้อเพลงพูดถึงการผ่านพ้นช่วงเวลาสีเทาอันหม่นหมอง โดยนำความรู้สึกที่ได้รับหลังจากพบกับคนคนหนึ่ง มาเปรียบเทียบกับแสงและสีครับ
ส่วนหนึ่งของคอรัส จะเป็นการร้องแบบค่อยๆ ไต่โน้ตไปจนถึงไคลแมกซ์ของเพลง ผมทำงานร่วมกับนักแต่งเพลงในการสร้างไลน์เมโลดี้ที่สูงขึ้น เพื่อแสดงว่าซูโฮได้ถอดชุดสูทสีเทาของเขาออก และค่อยๆ มีสีสันที่แต่งแต้มขึ้นมาตั้งแต่หัวจรดเท้าครับ ผมมีส่วนร่วมตั้งแต่การวางแผนคอนเซ็ปต์ของอัลบั้ม และแบ่งปันสิ่งที่ผมต้องการนำเสนอต่อทีมงานเรา
ดังนั้น เพลงนี้จึงเป็นเพลงที่รวบรวมทุกอย่างที่ผมอยากบอกเอาไว้ครับ นี่เลยเป็นเหตุผลว่า ทำไมเพลงนี้จึงเป็นหนึ่งในเพลงโปรดของผม และผมก็มีความสุขและภูมิใจมากๆ เลยครับ
สำหรับมิวสิกวิดีโอเพลง "Grey Suit" ที่ถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 4 เมษายน อะไรคือจุดสำคัญ ที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษในการชม?
มิวสิกวิดีโอนี้ ประกอบด้วยซูโฮสีเทา จากโลกที่เวลาได้หยุดลง และซูโฮสีสัน จากโลกที่เวลายังคงเดินต่อไปครับ มีหลากหลายฉากที่แสดงให้เห็นภาพที่ตรงกันข้ามกัน ผ่านทางแฟชั่น การแต่งหน้า พื้นที่ แสงไฟ และอื่นๆ ครับ ดังนั้น มันน่าจะสร้างความเพลิดเพลินในการมองถึงความแตกต่างนี้ จากฉากหนึ่งไปยังอีกฉากหนึ่ง
นอกจากนี้ เราพยายามเพิ่มความรู้สึกว่างเปล่าอย่างถึงที่สุด ผ่าน CG และการวาดแอนิเมชัน ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่อยากให้ติดตามชม เพราะจะช่วยลบล้างภาพความอึมครึมและดำดิ่งของเพลงครับ
"Grey Suit" เป็นผลงานโซโล่มินิอัลบั้มใหม่ในรอบ 2 ปีของคุณ และถือเป็นกิจกรรมแรกหลังจากปลดประจำการ ดั้งนั้น มันต้องพิเศษมากๆ สำหรับคุณ คุณอยากสื่อสารอะไรผ่านมินิอัลบั้มนี้ และรู้สึกกดดันบ้างไหม?
พูดตรงๆ ก็ไม่ได้มีความกดดันเท่าไรครับ และผมมีความสุขมากๆ ที่ได้ทำงานเพลงของผม มันยอดเยี่ยมมากครับ ที่จะได้แสดงออกในสิ่งที่ผมอยากบอกมาตลอด 2 ปี ผ่านบทเพลงนี้ อย่างไรก็ตาม ผมรู้สึกกดดันขึ้นมาบ้างในตอนที่เริ่มเตรียมงาน เพราะผมนึกถึงแฟนๆ ที่จะได้ฟังเพลงของผมครับ
ผมเริ่มต้นด้วยความคิดว่า จะทำในสิ่งที่ผมต้องการจะทำ แต่ต่อมาก็เริ่มคิดว่า แบบไหนที่แฟนๆ จะชอบมากกว่า ทั้งเรื่องของทำนองเพลง เครื่องดนตรี และเนื้อเพลง นั่นก็เลยรู้สึกกดดันขึ้นมาครับ แม้ว่าสุดท้ายแล้ว จะอยู่ภายใต้ความกดดัน แต่สิ่งที่สำคัญที่ผมต้องการแสดงให้เห็นผ่านอัลบั้มนี้ คือ ความสามารถในการสร้างแนวเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ของผมครับ
มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ ที่เลือก "เวลา" เป็นธีมของมินิอัลบั้มชุดนี้ไหม?
มันเป็นการบ้านสำหรับผมที่ต้องคิดให้ออกว่า จะใช้เวลา 1 ปี กับอีก 9 เดือนอย่างไรครับ ผมเขียนไดอารีหรือจดบันทึก และเขียนทุกอย่างที่ผมอยากจะสื่อสาร และสุดท้ายก็หมกมุ่นอยู่กับคำว่า "เวลา" ครับ
ผมกำลังคิดว่า ผมควรใช้เวลาอย่างไรจนกว่าจะปลดประจำการ และเริ่มคิดว่าจะเตรียมทำอัลบั้มให้ดีที่สุดได้อย่างไรครับ ผมรู้สึกว่าเรื่องของเวลา เป็นสิ่งที่ผมสามารถพูดถึงได้อย่างจริงใจ เพราะว่าผมใช้เวลาไตร่ตรองเรื่องนี้เยอะมาก นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ผมตัดสินใจใช้ธีมเกี่ยวกับ "เวลา" ครับ
แง่มุมไหนที่คุณให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ในการเตรียมมินิอัลบั้มนี้?
ผมให้ความสนใจเป็นพิเศษกับเสียงของเครื่องดนตรีครับ เพราะแม้ว่าเสียงของกีตาร์ไฟฟ้า หรือกีตาร์โปร่ง จะคล้ายกัน แต่กีตาร์ที่มีโน้ตเสียงสูง และกีตาร์ที่มีโน้ตเสียงต่ำ จะแตกต่างกันอย่างชัดเจนครับ โดยเฉพาะในเพลง "Decanting" มีโทนเสียงกีตาร์ที่สูงอยู่มาก เพื่อแสดงออกถึงการเคลื่อนไหวของน้ำในแก้วครับ
แต่สำหรับเพลง "Grey Suit" และเพลง "Morning Star" ผมอัดเพลงเหล่านั้นโดยไม่ได้วอร์มเสียงก่อน เพราะผมอยากให้เป็นเสียงแหบเล็กน้อย ดังนั้น สิ่งเหล่านี้ คือ รายละเอียดเสียงที่ละเอียดอ่อน ซึ่งผมให้ความสำคัญในการเตรียมมินิอัลบั้มชุดนี้ครับ
นอกจากโซโล่มินิอัลบั้มชุดแรกแล้ว คุณได้มีส่วนร่วมในการเขียนเนื้อเพลงทั้งหมดของมินิอัลบั้ม "Grey Suit" ด้วย กระบวนการเขียนเป็นอย่างไรบ้าง และพอใจกับผลงานแค่ไหน?
ในโซโล่มินิอัลบั้มแรก "Self-Portrait" ผมเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเองเมื่อตอนย่างเข้า 30 และครบรอบ 10 ปีของ EXO ครับ แต่สำหรับมินิอัลบั้มนี้ ผมได้เขียนเรื่องราวของผมตลอดช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ผมใช้เวลาค่อนข้างมากในการคิดถึงเรื่องที่ผมสามารถแบ่งปัน และแฟนๆ ของผมจะรู้สึกมีส่วนร่วมได้ รวมถึงสิ่งที่พวกเขาอยากได้ยินครับ
มีบางครั้งที่ผมติดปัญหาในการคิดบางอย่าง แต่ผมก็ใช้เวลาร่วมกับนักเขียนเพลงคนอื่นๆ เพื่อพูดคุย และนำคำจากตรงนั้นตรงนี้มารวมกัน ผมรู้สึกพอใจมากกับผลงานเนื้อเพลงที่เกิดจากวิธีเหล่านั้นครับ
มินิอัลบั้มชุดนี้ มีทั้งหมด 6 เพลง และผมพยายามทำให้การเข้าถึงเพลงทั้งหมด ตั้งแต่เพลงแรกจนเพลงสุดท้ายเป็นในแบบธรรมชาติที่สุด เช่น การมีอินโทรที่โดดเด่นในเพลงแรกครับ แน่นอนว่า คุณก็มีสิทธิ์เลือกที่จะฟังแค่บางเพลง แต่เพราะว่าคนส่วนใหญ่จะฟังอัลบั้มตั้งแต่เริ่มจนจบ ผมเลยต้องการทำให้แน่ใจว่า แต่ละเพลงเล่นไปอย่างไหลลื่นครับ
ซึ่งแต่ละเพลงเองก็มีนักแต่งเพลงที่ต่างกันไป ผมจึงต้องเล่นท่อนจบของเพลงที่ 2 ให้นักแต่งเพลงที่ 3 ฟัง และเราทำงานร่วมกันทั้งหมด ด้วยการเลือกเสียงที่น่าจะไปด้วยกันได้ดี แม้ว่าคุณจะอ่านหนังสือเพียงแค่บางตอน คุณก็สนุกไปกับมันได้ แต่คุณยังจะต้องอ่านทั้งเล่มเพื่อเข้าใจเนื้อเรื่องทั้งหมดอยู่ดี ในทำนองเดียวกัน ผมเองก็หวังว่าทุกคนจะฟังเพลงทั้งอัลบั้มตั้งแต่ต้นจนจบครับ
เพลงที่ยากที่สุด และง่ายที่สุดในการทำงาน
เพลงที่ง่ายที่สุด คือ เพลง "75분의 1초 (Moment)" ในลำดับที่ 6 ซึ่งเป็นเพลงที่ผมตั้งใจมอบให้กับแฟนๆ ครับ ผมเขียนทุกสิ่งที่สมาชิกและผมพูดในระหว่างคอนเสิร์ตของพวกเรา และเลือกคำ หรือ วลี ที่แสดงออกถึงความจริงใจของพวกเรา เสริมเข้าไปในเนื้อเพลง
ดังนั้น กระบวนการเขียนเนื้อเพลงจึงง่ายขึ้นเล็กน้อย ในทางกลับกัน เพลงอื่นๆ ที่เหลือนั้น ล้วนเป็นส่วนที่ท้าทาย และผมรู้สึกอย่างแน่ชัดว่า ผมพยายามอย่างหนักในการสร้างสรรค์ครับ
นี่เป็นโซโล่มินิอัลบั้มชุดที่ 2 ของคุณแล้ว มีความแตกต่าง หรือ แง่มุมไหนที่รู้สึกว่าได้พัฒนามากขึ้น เมื่อเทียบกับโซโล่มินิอัลบั้มชุดแรก? มีคำจำกัดความไหนที่แสดงได้ถึงสีของซูโฮ?
ความแตกต่างระหว่างโซโล่มินิอัลบั้มชุดแรก กับโซโล่มินิอัลบั้มชุดที่ 2 ก็คือ ผมรู้สึกว่าเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และได้รู้ว่าตัวเองชอบอะไรครับ มีอยู่ 2-3 เพลงในเพลย์ลิสต์ของผม ที่ผมชื่นชอบเป็นพิเศษ ไล่มาตั้งแต่เพลงแนว Hip-hop, R&B และ Rock แล้วผมก็เพิ่งรู้สึกว่า เพลงเหล่านั้นมีทำนองเพลงที่ไพเราะ และมีโทนของเครื่องดนตรีที่คล้ายคลึงในแบบที่ผมชอบ
เพราะผมใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฟังเพลงตลอด 1 ปี 9 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ผมค้นพบสิ่งที่่ผมชื่นชอบอย่างแท้จริง และตอนนี้ผมก็สามารถแสดงสิ่งนั้นออกมาได้ ซึ่งน่าจะเป็นความแตกต่างที่เด่นชัดที่สุด รวมถึงวิธีที่ผมเติบโตเช่นกันครับ
ส่วนสีที่บ่งบอกความเป็นตัวผม คงจะเป็นสีน้ำเงิน เพราะเป็นสีที่มีความลึกซึ้งซับซ้อนในตัวเอง แต่ก็ยังให้ความรู้สึกสดชื่นเหมือนคลื่น สีน้ำเงินเป็นสีที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบในการอธิบายถึง สีทางดนตรีของซูโฮและถ้าให้เลือกคำหรือวลี ก็คงเป็น "รู้จักตัวเอง" ครับ
รู้สึกอย่างไรกับการฉลองครบรอบเดบิวต์ 10 ปีของ EXO? เหล่าสมาชิกให้การสนับสนุนและพูดถึงเรื่องนี้อย่างไรบ้าง?
มันน่าประหลาดใจอยู่เหมือนกันที่ EXO กำลังจะฉลองครบรอบ 10 ปีครับ ย้อนกลับไปช่วงที่เดบิวต์ ผมมักจะมองดูรุ่นพี่ที่กำลังฉลองครบรอบ 10 ปีของพวกเขา และแม้ว่าจะถึงคราวของพวกเราแล้ว แต่ใจของผมยังรู้สึกเหมือนเราอยู่ในช่วง "Call Me Baby" หรือช่วงปีที่ 4 นับตั้งแต่เดบิวต์ครับ ผมเองก็ยังไม่อยากเชื่อเลยว่า นี่เรากำลังจะฉลองครบรอบ 10 ปีของเรา และผมอยากแสดงความขอบคุณต่อ EXO-L เพราะพวกเขา คือ เหตุผลที่ทำให้เรามาได้ไกลขนาดนี้
ผมไม่ได้เล่าเกี่ยวกับมินิอัลบั้มใหม่ของผมให้สมาชิกฟังมากเท่าไรนัก (เพราะผมอยากเก็บเป็นเซอร์ไพรส์ครับ) แต่ก็มีเปิดช่วงสั้นๆ ตรงนั้นตรงนี้ให้ฟังบ้าง และพวกเขาล้วนให้การตอบรับว่า เพลงโดยรวมนั้นยอดเยี่ยมมาก และ "เพลงช่างเป็นสไตล์ซูโฮ" ครับ
ความสำเร็จที่คาดหวังในมินิอัลบั้มชุดนี้?
เป็นคำถามที่ยากที่สุดเลยครับ แต่ผมอยากได้ยินคนพูดว่า "ซูโฮทำในสิ่งที่มีเพียงซูโฮเท่านั้นที่ทำได้" และ "นี่คือซูโฮ" ครับ ผมเชื่อว่าความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากมินิอัลบั้มชุดนี้ คือ การสร้างแนวเพลงที่แตกต่างของตัวเอง และเป็นที่จดจำได้โดยทั่วกันว่า "เพลงของซูโฮ" แม้ได้ยินเพียงช่วงอินโทรของเพลงครับ
อัลบั้มภาพ 15 ภาพ