(G)I-DLE : I NEVER DIE – ฉันไม่ตายง่ายๆ หรอกย่ะ! โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง

การคัมแบ็กของ (G)I-DLE ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคม 2022 ถือได้ว่าเป็นความปังสุดๆ ซิงเกิลนำอย่าง "TOMBOY" มียอดวิว 10 ล้านวิวภายในเวลา 16 ชั่วโมง ต่อด้วยการคว้าถ้วยรางวัลรายการเพลงอย่างไม่หยุดหย่อน และในที่สุดมันก็กลายเป็นเพลงขึ้นอันดับหนึ่งทุกชาร์ตหรือ Perfect All-Kill เพลงที่สองของปี 2022 (เพลงแรกคือ "INVU" ของแทยอน)

หลังจากเดบิวต์มาตั้งแต่ 2018 (G)I-DLE ก็ได้ฤกษ์ออกอัลบั้มเต็มชุดแรก (ถึงแม้จะมีแค่ 8 เพลงก็เถอะ) ในชื่อ I NEVER DIE เป็นเหมือนบทสรุปของซีรีส์ I (ฉัน) ตามอีพี 4 ชุดก่อนหน้าที่ชื่อขึ้นต้นด้วย I ทั้งหมด (I AM, I MADE, I TRUST, I BURN) และยังมีนัยสื่อว่าพวกฉันไม่ยอมตายง่ายๆ หรอกนะจ๊ะ แม้จะผ่านดราม่าต่างๆ นานาจนต้องหายหน้าไปเกือบปี รวมถึงปกอัลบั้มที่ตัว V ในคำว่า NEVER ใหญ่เป็นพิเศษ เดาได้ว่าน่าจะหมายถึงเลข 5 แบบเลขโรมัน หมายถึงว่าพวกเธอต้องก้าวต่อไปในรูปแบบสมาชิกที่มีกัน 5 คน

• ซูจิน (G)I-DLE ออกจากวง หลังเจอข่าวบุลลี่เพื่อนสมัยมัธยม

เป็นที่ทราบกันดีว่าคนแต่งเพลงหลักของ (G)I-DLE คือลีดเดอร์ผู้มีความสามารถรอบด้านอย่างโซยอน ไม่ว่าจะเพลงขลังๆ อย่าง "Oh my god", "HWAA" หรือเพลงสนุกสนานอย่าง "DUMDi DUMDi" เธอก็แต่งได้หมด แต่ผู้เขียนชอบมากที่เพลง TOMBOY เป็นเพลงติดหูที่ไม่ใช่เพลงป๊อปดาดๆ แต่มันมีดนตรีแนวป๊อป-พังค์ที่เราไม่ค่อยพบเห็นในวงการเคป๊อปนัก

เนื้อหาของ "TOMBOY" ก็เรียกได้ว่าแซ่บแบบพริกยกสวน มันคือต่อต้านภาพจำของผู้หญิงแบบที่สังคม (และผู้ชาย) ต้องการ ในเพลงมีพูดถึงทั้งการสบถ เหล้า บุหรี่ มีเนื้อเพลงที่บอกว่า “ฉันจะไม่ยอมใส่น้ำหอมกลิ่นเน่าเหม็นของเธอ” และ “ฉันจะไม่ยอมเป็นตุ๊กตาของเธอ” แถมยังท้าทายวงการเพลงด้วยท่อนฮุคที่มี F-word ว่า “I’m a f**king Tomboy” (ตายแล้วววว) พอเวอร์ชันออกอากาศต้องมีเสียงตู๊ดดดดด กลายเป็นกิมมิคเก๋ๆ ไปอีก ถึงกระนั้นตัวเพลงไม่ได้หัวร้อนอย่างเดียว มีเนื้อเพลงสวยๆ อย่าง “ไอ้พวกเรื่องความรักน่ะไม่ทำให้ฉันมีริ้วรอยได้หรอก” และ “เรื่องรักๆ ใคร่ๆ จะไม่ทำฉันเสียน้ำตาแม้แต่หยดเดียว”

 

อาจมองว่าเพลง "TOMBOY" กำลังแสดงความขัดขืนต่อสังคมชายเป็นใหญ่ของเกาหลีใต้ด้วย จากท่อนที่ร้องว่า “เธอถูกแม่เลี้ยงมาแบบเจ้าชายสินะ แต่ที่นี่คืออาณาจักรราชินีย่ะ” หรือตัวมิวสิกวิดีโอก็มีฉากที่ตุ๊กตาบาร์บี้ (สัญลักษณ์ของความเป็นผู้หญิงน่ารักและความ passive) ลุกขึ้นมาลักพาตัวตุ๊กตาผู้ชาย อ้อ ช่วงท้ายเอ็มวียังมีลูกโป่งลอยขึ้นฟ้า 6 ลูก น่าจะสื่อว่าแม้จะมีเมมเบอร์ลาออกไป แต่ในใจเราก็ยังมีกัน 6 คนเสมอ

เพศสภาพเป็นอีกประเด็นน่าสนใจจากเพลง "TOMBOY" นอกจากจะสื่อว่าฉันเป็นผู้หญิงห้าว ไม่ใช่ผู้หญิงในอุดมคติ ตอนท้ายเพลงยังสลายกำแพงทางเพศทั้งหมด ด้วยการร้องว่า “ไม่ใช่ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ฉันก็เป็นแค่ฉันนี่แหละ” สอดคล้องกับการโปรโมตอัลบั้มชุดนี้ที่ชื่อวงถูกเขียนว่า I-DLE แทนที่จะเป็น (G)I-DLE (ก็คือตัดตัว G ออกไป) ซึ่งโซยอนเคยให้สัมภาษณ์ว่าแม้แต่เมมเบอร์ก็ยังงงว่าไอ้ตัว G ในชื่อวงนี่มันแปลว่าอะไรกันแน่ แต่ค่ายแนะนำให้ใส่มา บางเว็บไซต์ระบุข้อมูลว่า G = Girl ดังนั้นการตัดตัว G เลยเป็นการละทิ้งทั้งความเป็นผู้หญิงและความสับสนในคราวเดียวกัน

เพลงอื่นในอัลบั้มที่ผู้เขียนค่อนข้างชอบก็เช่น "Already" เพลงจังหวะกลางๆ หน่วงๆ พูดถึงคนที่กำลังจัดการความรู้สึกของตัวเองหลังการเลิกรา “คนที่เคยพอใจแค่เพราะได้อยู่ข้างเธอมันตายไปแล้ว” พร้อมกับร้องซ้ำๆ ว่า “มันจบลงแล้ว ฉันได้ลบเธอไปแล้ว” ก่อนที่ช่วงท้ายจะมีบีทแบบ industrial sound ปนเข้ามา สะท้อนถึงภาวะเศร้าดิ่ง และจบด้วยการร้องว่า “หนังจบลง ชื่อของพวกเราขึ้นมาช้าๆ บนจอดำ” อย่างที่เขาบอกว่าคนเราเวลาเลิกกันก็จะนึกถึงโมเมนต์ต่างๆ เหมือนฉากแฟลชแบ็คในหนัง แต่ถึงที่สุดก็ต้องมูฟออนไปให้ถึงเอนด์เครดิต

"ESCAPE" น่าจะเป็นเพลงที่อบอุ่น ฟังสบาย และให้พลังบวกที่สุดในอัลบั้ม ทางวงให้สัมภาษณ์ว่าแต่งมาเพื่อให้กำลังใจกับแฟนๆ ที่รู้สึกเหนื่อยกับชีวิต เอาเข้าจริงแล้วเนื้อเพลงออกจะมาตรฐานตามแนวให้กำลังใจ “ไม่ว่าเธอจะอยู่ไหน ฉันจะพาเธอไป ฉันจะวิ่งไปหาเธอ ฉันจะอยู่ข้างเธอ” แต่ผู้เขียนชอบเพลงนี้ในแง่ทำนองที่เยียวยาหัวใจ และท่อนฮุคที่เป็นเสียงร้องของมิยอนกับมินนี่ อีกทั้งแฟนๆ ยังสันนิษฐานว่าเมมเบอร์แต่งเพลงนี้ให้กับซูจิน ถ้ามองในบริบทนี้เพลงก็ยิ่งซึ้งไปใหญ่

แทร็คสุดท้ายของอัลบั้มอย่าง "MY BAG" เป็นเพลงฮิปฮอปเต็มรูปแบบ ท่อนฮุคร้องยียวนว่า “ฉันมีเพชรเม็ดแดง 5 เม็ดอยู่ในกระเป๋า เดี๋ยวฉันจะโชว์ให้เธอดู” สังเกตได้ว่าเพลงนี้แบ่งท่อนร้องแบบเรียงกันไปทีละคน เมมเบอร์ทุกคนได้เป็นตัวเอก ได้โชว์สกิลการแร็ปอย่างเต็มที่ ลบคำครหาที่คนชอบเม้ามอยกันว่า “วงนี้ร้องเยอะอยู่คนเดียว” “เมนโวคอลได้ร้องน้อยกว่าคนแต่งเพลง” “มีเมมเบอร์บางคนอ่อนกว่าเพื่อน” ฯลฯ ตามที่โซยอนพูดถึงอัลบั้ม I NEVER DIE ไว้ว่า “มันคืองานที่รวบรวมความคิดและความรู้สึกของพวกเราต่ออคติทั้งหลายในโลกใบนี้ ฉันอยากจะทำอัลบั้มที่พิสูจน์ถึงคุณค่าของพวกเรา”

____________________

ผู้เขียน - คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง

(Kanchat Rangseekansong)

เปิดโลกดนตรีและไอดอลกับคันฉัตร