หัวใจนักสู้ "โจ ยมนิล" ผู้นำหมอลำเงินล้าน "สาวน้อยเพชรบ้านแพง" ฝ่าวิกฤตที่เกือบยุบวง | Sanook Music

หัวใจนักสู้ "โจ ยมนิล" ผู้นำหมอลำเงินล้าน "สาวน้อยเพชรบ้านแพง" ฝ่าวิกฤตที่เกือบยุบวง

หัวใจนักสู้ "โจ ยมนิล" ผู้นำหมอลำเงินล้าน "สาวน้อยเพชรบ้านแพง" ฝ่าวิกฤตที่เกือบยุบวง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"สาวน้อยเพชรบ้านแพง" ขึ้นแท่นเป็นวงดนตรี "หมอลำเพลินเงินล้าน" ห้วงเวลานี้ ต้องยกเครดิตให้กับการบริหารงานของ "โจ ยมนิล" ผู้บริหารคนปัจจุบัน ลูกชายคนสุดท้อง ในจำนวนพี่น้อง 4 คนของ "คุณพ่อสงกราน-คุณแม่สุภาพ นามวงษา" ผู้ก่อตั้งคณะหมอลำวงนี้

วงดนตรีหมอลำขนาดเล็กในอดีต ยกระดับขึ้นมามีชื่อเสียงระดับประเทศ เป็นหน้าเป็นตาของชาวบ้านแพง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม โจ ยมนิล บอกว่า มาจาก "หัวใจนักสู้" ของลูกที่ตั้งใจสืบทอดมรดกพ่อแม่ สานต่อภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ศิลปะภาคพื้นของคนอีสาน ระหว่างเปิดอาณาจักรสาวน้อยเพชรบ้านแพงให้ทีมข่าว Sanook.com สัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ

"สาวน้อยเพชรบ้านแพง ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2526 ประมาณ ม.2 ม.3 ครูให้กระดาษมาเขียนว่าอยากทำอะไร ความใฝ่ฝันคืออะไร ผมเขียนว่า อยากทำให้หมอลำสาวน้อยเพชรบ้านแพง สิ่งที่พ่อแม่สร้างมามีชื่อเสียงโด่งดัง"

เขาเล่าต่อว่า เส้นทางสู่การเป็นผู้นำ เริ่มต้นเรียนรู้จากการเป็นลูกน้อง "ตั้งแต่เป็นเด็ก คนเรียกว่าเป็นลูกหัวหน้า คิดว่าลูกหัวหน้าไม่ต้องทำอะไรก็ได้ แต่ผมว่ามันไม่ใช่ เราต้องลงมือเพื่อให้รู้แจ้งเห็นจริงทุกกระบวนการ"

โจเรียนจบ ปวส.ช่างไฟฟ้า สมัยเป็นนักเรียนเลิกเรียนกลับบ้านมาคลุกอยู่ในวงหมอลำ เริ่มต้นจากตีฉิ่งตีฉาบ ตีกลองทอมบา ก่อนขยับเป็นแดนเซอร์ และนักร้องตามลำดับ ทำให้เขาเห็นปัญหาหลายอย่าง

"ผมล้มลุกคลุกคลานมากับวง พ่อแม่เป็นหนี้เป็นสิ้นมากมาย แม่เคยเอามือก่ายหน้าผากบอกว่าหรือจะขายวง พ่อก็โอ๊ยกว่าจะตั้งมาได้ จะทิ้งมันไปแบบนี้เหรอ บางทีเราก็แอบร้องไห้ น้ำตาไหลอยู่คนเดียว"

ด้วยเหตุนี้ เขาตัดสินใจเดินทางไปสู้ชีวิตต่างแดน ไปร้องเพลงตามร้านอาหารที่ ประเทศเยอรมัน และเบลเยียม ส่งเงินกลับมาให้พ่อแม่ใช้หนี้ และบำรุงวง

"ลำบากนะครับไปหาเงินอยู่เมืองนอกเมืองนา ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ถือว่าเป็นห้วงชีวิตที่เราต้องสู้"

โจเล่าต่อว่า เขาจากบ้านเกิดเมืองนอนไป 4 ปี สถานการณ์สาวน้อยเพชรบ้านแพงยังไม่พ้นขีดอันตราย นักร้อง แดนเซอร์ ทยอยลากออกจากวงจนแทบไม่เหลือ พี่ชายติดต่อไปตามให้กลับมากู้วิกฤต

"พอเราเมืองนอกไปเป็นลูกน้องคนโดยประมาณแล้ว ไปเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิต เหมือนเราไปยืนอยู่บนภูเขา แล้วเราเหลียวมา มันมองเห็นปัญหาหมดเลยครับทีนี้"

การกลับมาเป็นผู้บริหารวงแบบเต็มตัว โจบอกว่า เขาลิสต์ใส่กระดาษมาเป็นข้อๆ เลยว่า ต้องปรับปรุง และพัฒนาด้านใดบ้าง เป็นเครื่องการันตีว่า การที่สาวน้อยเพชรบ้านแพง ทะยานขึ้นมาเป็นคณะหมอลำเพลินขวัญใจมหาชน ความสำเร็จไม่ได้มาจากโชคช่วย แต่มาจากความมุ่นมั่นใจ ทุ่มเททำงานแบบจริงจัง

"ก้าวแรกของผม ที่ผมมาจากเมืองนอก ปรับปรุงทางด้านไฟ พัฒนาทางด้านชุดเต้น ประกาศรับสมัครครูฝึก ประกาศรับสมัครคนตัดชุดเลยครับ แล้วก็ลงทุนหลายล้านเลย สร้างบ้านพัก ให้ทีมงานอยู่ ให้หมอลำให้แดนเซอร์อยู่ เงินเกลี้ยงเลยครับ เงินมาจากเมืองนอกเกลี้ยง เพื่อสาวน้อยเพชรบ้านแพงเลย"

"แล้วก็เชิญทีมงานเก่าๆ มาปรับวิสัยทัศน์ ปรับทัศนคติ โดยเราไม่ได้ไปแข่งกับคณะอื่น เราแข่งกับตัวเอง แข่งกับผลงานของตัวเอง ซ้อมเต้นกันอยู่กลางถนน วัวควายเดินมาต้องหยุด"

"เราสู้ไม่ถอย อะไรก็ตามแต่ ผมคิดว่าถ้าเราตั้งใจ ใส่ใจ ทำกับมันจริงจัง ทำอย่างจริงจัง ผมคิดว่ามันต้องมีวันหนึ่งแหละเป็นวันของเรา"

"เป้าหมายการทำงานของผม ไม่ต้องการที่จะอยู่ที่ 1 โดยการจัดอันดับ ผมคิดแค่ว่าทำอย่างไรขอแค่เป็น 1 ในใจของ แฟนเพลง แฟนหมอลำที่มาชมเราความสุขที่เราต้องทำให้แฟนๆ ก็คือ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ภาพรวมต้องอร่อย"

"อาหารจานแรกเลยก็คือเวที ตั้งขึ้นมานี่โอ้ว หรือเป็นแบบไหน พี่น้องให้คะแนนตั้งแต่เวที จานที่สอง ก็คือรูปแบบการแสดงครับ หรือพวกชุด มันจะเสริมกันหมดครับ"

"ช่วงโควิด เราไม่สามารถที่จะออกงานได้ เราก็มาทำไลฟ์สด แต่ละไลฟ์ก็เป็นการปรับปรุงใหม่ โชว์ใหม่ ฉากแสงสีเสียงใหม่ สร้างคอนเทนต์ใหม่ๆ ได้ตื่นตาตื่นเต้นอยู่ตลอด"

ท้ายการสัมภาษณ์ครั้งนี้ โจ บอกว่า ปัจจุบัน (พฤษภาคม พ.ศ. 2565) เขาเป็นผู้นำบริหารวงสาวน้อยเพชรบ้านแพงมาเป็นปีที่ 7 แล้ว รู้สึกภูมิใจ และดีใจที่สามารถพาลูกทีมประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่

จากปีแรกที่เข้ามาบริหาร มีงานจ้าง 50 คิวต่อปี 2-3 ปี ก่อนมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 สาวน้อยเพชรบ้านแพงมีงานจ้างมากกว่า 200 งานต่อปี จากที่สมาชิกวงเหลือเพียงไม่กี่ชีวิต ตอนนี้มีสมาชิกทั้งหมดมากกว่า 200 ชีวิต มีอาณาจักรเป็นของตัวเอง

วิธีการดูแลลูกทีมจำนวนมาก โจ บอกว่า ดูแลทุกคนเหมือนกับพ่อแม่พี่น้อง รับฟังเสียงสะท้อนปัญหา และข้อเสนอแนะของทุกคน ซึ่งเขาเชื่อว่า ผู้นำที่อยู่ในตำแหน่งสูงสุด หากไม่เปิดใจฟังเสียงของคนที่อยู่ข้าง จะพบกับความสำเร็จได้ยาก

"คนที่มาอยู่กับผม บางคนก็รุ่นลุง รุ่นพี่ รุ่นน้อง ก็ถือว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ผลตอบแทนรายได้ ของแต่ละคน ของแต่ละแผนก จะแตกต่างกันไป ก็สมน้ำสมเนื้อครับ อยู่ได้ไหม โอเคไหม ผมก็ต้องถามเหมือนกันครับ"

"ผมเข้าใจว่า ทุกคนมาฝากความหวัง ฝากปากท้อง ฝากอนาคตไว้บ้านสาวน้อยเพชรบ้านแพงครับ ซึ่งผมในฐานะ ผู้บังคับหัวเรือ ต้องดูแลให้ดีที่สุดครับ"

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ ของ หัวใจนักสู้ "โจ ยมนิล" ผู้นำหมอลำเงินล้าน "สาวน้อยเพชรบ้านแพง" ฝ่าวิกฤตที่เกือบยุบวง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook